xs
xsm
sm
md
lg

เชฟโรเลตโวลั่น“โคโลราโด”ลุยน้ำสบาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เชฟโรเลต เผยกระบะโคโลราโดผ่านการทดสอบมาแล้วอย่างหนักที่ศูนย์การทดสอบของจีเอ็ม ในเมืองดีทรอยท์ รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่การจอดแช่ในถังน้ำลึก การฉีดน้ำแรงดันสูงรอบคัน การขับผ่านร่องน้ำท่วมขัง และสามารถแล่นผ่านระดับน้ำท่วมขังสูงสุด 800 มม. โดยไม่สูญเสียกำลัง

การทดสอบในถังน้ำของจีเอ็มเป็นการจำลองการจอดนิ่งอยู่ในน้ำ อาทิ เมื่อลูกค้าต้องจอดติดเครื่องยนต์อยู่บนถนนที่มีน้ำท่วมขังสูงอย่างที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ในประเทศไทยในช่วงหน้าฝน โดยจีเอ็มกำหนดให้ระดับน้ำสูงถึงแผงใต้ขอบประตูของรถกระบะเพื่อให้วิศวกรได้ประเมินผลกระทบต่อพื้นใต้ท้องรถและชิ้นส่วนของแชสซีส์ เช่น สายไฟฟ้าและระบบระบายอากาศ การทดสอบแช่ในถังน้ำถือเป็นการทดสอบป้องกันน้ำรูปแบบใหม่ล่าสุดของจีเอ็ม ซึ่งริเริ่มขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทยเมื่อปีพ.ศ. 2554
ขณะที่การทดสอบในอาคารฉีดน้ำของจีเอ็มมุ่งสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งานระยะยาวด้วยการใช้หัวฉีดน้ำ 330 หัว ทำการฉีดน้ำเป็นเวลานานแปดนาทีด้วยปริมาณน้ำ 3,123 ลิตรต่อนาทีเข้าทางด้านล่าง ด้านข้างและด้านบนของตัวรถ เพื่อทดสอบความแข็งแรงของยางขอบประตูและหน้าต่างเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีน้ำรั่วไหลเข้าสู่ห้องโดยสารเมื่อต้องขับขี่ผ่านพายุฝนหรือสภาพพื้นถนนเปียกลื่น การทดสอบเช่นนี้ยังช่วยสร้างความมั่นใจว่าน้ำไม่รั่วซึมเข้าสู่ระบบระบายอากาศของเครื่องยนต์และชิ้นส่วนอื่นๆ ใต้ท้องรถ
นอกจากนี้การทดสอบในอาคารฉีดน้ำยังเป็นการจำลองการทดสอบขับท่ามกลางสภาพอากาศที่มีหมอกหนาซึ่งพบได้ในภาคเหนือของประเทศไทย หมอกที่หนาแน่นจะสามารถแทรกซึมเข้าสู่ตัวรถได้ในขณะที่หยดน้ำที่มีขนาดใหญ่กว่าไม่สามารถซึมเข้ามาได้ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการรั่วไหลเมื่อมีน้ำซึมเข้าทางขอบยางที่มีการบีบตัวต่ำ

จีเอ็มยังออกแบบร่องน้ำกลางแจ้งระยะ 15 เมตรเพื่อการทดสอบขับผ่านซึ่งเป็นการจำลองการขับข้าม ลำธารระหว่างการเดินทางแคมปิ้ง น้ำที่รั่วไหลเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์อาจสร้างความเสียหายต่อของเหลว ในระบบส่งกำลังและชิ้นส่วนเครื่องยนต์อย่างท่อไอเสียท้าย
วิศวกรของจีเอ็มยังใช้หัวฉีดน้ำแรงดันสูง (7,584 กิโลปาสกาล) ในการทดสอบท่อไอดี ระบบระบายอากาศเครื่องยนต์ และระบบระบายอากาศของระบบเชื้อเพลิง ตลอดจนการทดสอบระบบบรรจุอากาศหลังกระจังหน้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าลูกค้าที่ใช้หัวฉีดน้ำแรงดันสูงดังกล่าวจะไม่ทำให้ชิ้นส่วนตัวรถเกิดความเสียหาย

คำแนะนำในการขับรถผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขัง
ควรหลีกเลี่ยงการขับรถผ่านถนนที่ไม่สามารถมองเห็นหรือเดินผ่านได้หรือถนนที่มีน้ำท่วมขังสูงกว่ากึ่งกลางของล้อรถ ดังนั้นถ้าคุณต้องขับขี่ผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขัง ขอให้แน่ใจว่าคุณขับอยู่บนถนนและถนไม่มีความเสียหายใด ขณะเดียวกันควรเพิ่มความระมัดระวังเมื่อขับขี่บนถนนที่ไม่คุ้นเคยเนื่องจากอาจมีหลุมที่ลึกเกินกว่าที่รถจะผ่านไปได้ ผู้ขับขี่สามารถจอดรถและสังเกตรถคันอื่นว่าสามารถขับผ่านไปได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
หากขับรถผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขัง ควรขับรถบนกึ่งกลางหรือใกล้กับกึ่งกลางของถนน เนื่องจากระดับน้ำจะต่ำที่สุด ใช้เกียร์ต่ำและรอบเครื่องยนต์สูง ใช้เกียร์หนึ่งหรือเกียร์ “L” ขึ้นอยู่กับประเภทของเกียร์ ควรรักษาความเร็วให้คงที่ ไม่ควรถอนคันเร่งเนื่องจากเครื่องยนต์ที่ลดความเร็วจะทำให้น้ำไหลเข้าสู่ท่อไอเสียและสร้างความเสียหายต่อแคตทาไลติก คอนเวอร์เตอร์ นอกจากนี้ควรขับรถด้วยความเร็วต่ำมากเพื่อไม่ให้ที่กรองอากาศด้านหน้ารถดูดน้ำเข้าไปในเครื่องยนต์ ถ้าน้ำไหลเข้าสู่ท่อไอเสียหรือเครื่องยนต์จะส่งผลเสียรุนแรงและมีค่าซ่อมแซมสูง
ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าพอสมควรหรือขับรถผ่านน้ำท่วมขังทีละคันเพื่อป้องกันการหยุดรถกลางถนน ถ้ารถคันหน้าชะลอความเร็ว ควรระมัดระวังว่าไม่มีรถที่ขับมาจากเส้นทางอื่นเนื่องจากคลื่นของน้ำอาจท่วมรถได้โดยเฉพาะถ้ารถคันอื่นใช้ความเร็วสูงเกินไป
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring

กำลังโหลดความคิดเห็น