เบนท์ลี่ย์ฉลองวาระครบรอบ 95 ปี เปิดตัว “คอนติเนนทัล จีที3-อาร์” สานตำนานจากสนามแข่ง วางเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร 572 แรงม้า รถยนต์ที่มีอัตราเร่งเร็วสุดนับตั้งแต่เบนท์ลีย์เคยสร้างมา และผลิตจำกัดเพียง 300 คันเท่านั้น
เบนท์ลี่ย์ มอเตอร์ นอกจากได้เผยโฉมรถยนต์ทุกรุ่น ในงานมหกรรมยานยนต์ Goodwood Festival of Speed 2014 ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับวาระครบรอบ 95 ปีของบริษัท ในฐานะเบนท์ลี่ย์เป็นรถที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ สมรรถนะ และความหรูหราจากประเทศอังกฤษ ยังได้มีการเปิดตัว “เบนท์ลี่ย์ คอนติเนนทัล จีที3-อาร์” (Continental GT3-R) รถยนต์เบนท์ลี่ย์ที่มีอัตราเร่งที่เร็วที่สุด ตั้งแต่เบนท์ลี่ย์เคยสร้างมา โดยได้เปิดตัวสู่สายตาสาธารณชนอย่างเป็นทางการ
คอนติเนนทัล จีที3-อาร์ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแข่งรุ่นคอนติเนนทัล จีที3 (Continental GT3) โดยเครื่องยนต์ของคอนติเนนทัล จีที3-อาร์ มีขนาด 4.0 ลิตร V8 ผลิตพละกำลังสูงสุด 572 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 700 นิวตัน-เมตร และด้วยการลดน้ำหนักตัวรถลงอีก 100 กิโลกรัม ผสมผสานเข้ากับระบบการกระจายแรงบิดและการลดระยะเวลาการทดเกียร์ อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 3.8 วินาท ส่งผลให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมมากยิ่งขึ้น โดยจีที 3 อาร์ ผลิตเพียงแค่ 300 คันเท่านั้น ถูกสร้างขึ้นด้วยงานฝีมือที่เมืองครูว์ (Crewe) จากนั้นจึงไปจบการผลิตที่แผนกมอเตอร์สปอร์ตของเบนท์ลี่ย์
สำหรับรถแข่งรุ่นคอนติเนนทัล จีที3 ซึ่งเป็นรถที่เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจของรุ่นคอนติเนนทัล จีที3-อาร์ เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจการแข่งขันรายการ Blancpain Endurance Series ที่สนามแข่ง Silverstone ซึ่งขับโดย David Brabham ผู้ขับ Bentley Speed 8 คว้าชัยอันดับ 2 ในรายการแข่งขัน 24 Hours of Le Mans ปี 2003 มาแล้ว คอนติเนนทัล จีที3 (Continental GT3) จะมาเผยโฉมที่นี่ และจะกลับไปเข้าร่วมการแข่งขันรายการ Blancpain Endurance Series ที่สนามแข่ง Paul Ricard ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศสต่อไป
ทั้งนี้เพื่อเป็นการประกาศให้เห็นถึงประวัติศาสตร์รถแข่งที่เป็นตำนานของแบรนด์ เบนท์ลี่ย์ 3 คันจึงกลับเข้ามาร่วม Hillclimb ของ Goodwood อีกครั้ง โดยมี Speed Six Bentley ที่รู้จักกันดีว่า ‘Old Number 1’ ชนะการแข่งขัน Le Mans ในปี 1929 และ 1930 โดย Woolf Barnato, Henry ‘Tim’ Birkin (1929) และ Glen Kidston (1930)
รถแข่งที่มีความเป็นเอกลักษณ์คันนี้จะทำการเฉลิมฉลองควบคู่ไปกับเบนท์ลี่ย์สุดคลาสสิคอีก 2 คันนั่นคือ ‘Old Number 2’ และ ‘Old Number 3’ ซึ่งทั้ง 2 คันได้ร่วมแข่งขันกับ ‘Old Number 1’ ในรายการการแข่งขันที่ Le Mans ในปี 1930 มาแล้ว
