คอหนังไซไฟฟอร์มยักษ์ “ทรานส์ฟอร์เมอร์ส” น่าจะรู้จักออโต้บอตอย่าง “บับเบิลบี” เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าในสามภาคแรก หุ่นจิตใจงามยึดร่างของรถเชฟโรเลต คามาโร ดำเนินเรื่องอย่างเหนียวแน่น ล่าสุดในภาคที่สี่ “จีเอ็ม” ผู้เป็นเจ้ารถยังจัดการปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่ให้กับสปอร์ตคาร์รุ่นดังอีกด้วย
สำหรับเชฟโรเลต คามาโร เตรียมแปลงร่างเป็นบัมเบิลบีออกกู้โลกอีกครั้งในภาพยนตร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์สภาคสี่ “มหาวิบัติยุคสูญพันธุ์” Age of Extinction (2014) ซึ่งเริ่มฉายอย่างเป็นทางการในเมืองไทยวันนี้ ( 25 มิถุนายน)
โดยไมเคิล เบย์ผู้กำกับภาพยนตร์ได้ขอให้ทีมนักออกแบบของจีเอ็ม ทำการปรับดีไซน์บัมเบิลบีให้มีความทันสมัย โดยปรับเปลี่ยนให้หุ่นยนต์ตัวเอกมีความดุดันและดูแข็งแกร่งกว่าเดิม ซึ่งหน้าที่นี้รับผิดชอบโดยทีมนักออกแบบที่ศูนย์การออกแบบ นอร์ธ ฮอลลีวูด ดีไซน์ เซ็นเตอร์ของจีเอ็ม (North Hollywood Design Center)
ทีมนักออกแบบได้สร้างสรรค์รถสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยปรับรูปลักษณ์ด้านหน้าและด้านข้างใหม่เพื่อให้บัมเบิลบีมีความปราดเปรียวและดุดันยิ่งขึ้น ทิศทางการออกแบบเช่นนี้สามารถพัฒนาต่อยอดในอนาคตได้
อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์เพียงตัวเดียวไม่สามารถต่อกรกับเหล่าวายร้ายได้ ทีมนักออกแบบจึงสร้างสรรค์คอร์เวทท์ สติงเรย์ สีเขียวสุดเท่ซึ่งรับบทบาทครอสแฮร์สและเชฟโรเลต โซนิค แรลลี่ คาร์ขึ้นมาด้วย นอกจากนี้ยังมีเชฟโรเลต แทรกซ์ซึ่งเพิ่งออกจำหน่ายในประเทศจีนและเตรียมทำตลาดสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นปีหน้า
ภาพยนตร์แห่งนี้ถ่ายทำในสำนักงานของจีเอ็ม หลายแห่ง ทั้งในสนามทดสอบสมรรถนะของจีเอ็ม ในมิลฟอร์ด รัฐมิชิแกน ศูนย์การออกแบบของจีเอ็มในวอร์เรน มิชิแกน ห้องทำงานของนายเวลเบิร์น และภายในศูนย์การผลิตเดลต้า ทาวน์ชิพในเมืองแลนซิง มิชิแกน
การถ่ายทำที่ศูนย์เทคนิควอร์เรนมีการใช้นักแสดงเข้าร่วม 200 คนและรถพ่วง 50 คัน โดยตลอดการถ่ายทำแทบจะไม่มีผลกระทบต่อการทำงานภายในศูนย์เทคนิคเลย
สำหรับเชฟโรเลต คามาโร เตรียมแปลงร่างเป็นบัมเบิลบีออกกู้โลกอีกครั้งในภาพยนตร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์สภาคสี่ “มหาวิบัติยุคสูญพันธุ์” Age of Extinction (2014) ซึ่งเริ่มฉายอย่างเป็นทางการในเมืองไทยวันนี้ ( 25 มิถุนายน)
โดยไมเคิล เบย์ผู้กำกับภาพยนตร์ได้ขอให้ทีมนักออกแบบของจีเอ็ม ทำการปรับดีไซน์บัมเบิลบีให้มีความทันสมัย โดยปรับเปลี่ยนให้หุ่นยนต์ตัวเอกมีความดุดันและดูแข็งแกร่งกว่าเดิม ซึ่งหน้าที่นี้รับผิดชอบโดยทีมนักออกแบบที่ศูนย์การออกแบบ นอร์ธ ฮอลลีวูด ดีไซน์ เซ็นเตอร์ของจีเอ็ม (North Hollywood Design Center)
ทีมนักออกแบบได้สร้างสรรค์รถสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ โดยปรับรูปลักษณ์ด้านหน้าและด้านข้างใหม่เพื่อให้บัมเบิลบีมีความปราดเปรียวและดุดันยิ่งขึ้น ทิศทางการออกแบบเช่นนี้สามารถพัฒนาต่อยอดในอนาคตได้
อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์เพียงตัวเดียวไม่สามารถต่อกรกับเหล่าวายร้ายได้ ทีมนักออกแบบจึงสร้างสรรค์คอร์เวทท์ สติงเรย์ สีเขียวสุดเท่ซึ่งรับบทบาทครอสแฮร์สและเชฟโรเลต โซนิค แรลลี่ คาร์ขึ้นมาด้วย นอกจากนี้ยังมีเชฟโรเลต แทรกซ์ซึ่งเพิ่งออกจำหน่ายในประเทศจีนและเตรียมทำตลาดสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นปีหน้า
ภาพยนตร์แห่งนี้ถ่ายทำในสำนักงานของจีเอ็ม หลายแห่ง ทั้งในสนามทดสอบสมรรถนะของจีเอ็ม ในมิลฟอร์ด รัฐมิชิแกน ศูนย์การออกแบบของจีเอ็มในวอร์เรน มิชิแกน ห้องทำงานของนายเวลเบิร์น และภายในศูนย์การผลิตเดลต้า ทาวน์ชิพในเมืองแลนซิง มิชิแกน
การถ่ายทำที่ศูนย์เทคนิควอร์เรนมีการใช้นักแสดงเข้าร่วม 200 คนและรถพ่วง 50 คัน โดยตลอดการถ่ายทำแทบจะไม่มีผลกระทบต่อการทำงานภายในศูนย์เทคนิคเลย