xs
xsm
sm
md
lg

รถคันแรกของมิสทิฟฟานี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เหล่านางงามสาวประเภทสองที่คว้ามงกุฏจากเวทีการประกวด “มิสทิฟฟานี ยูนิเวิร์ส 2014” เยือนบ้านพระอาทิตย์ พร้อมเปิดอกเผยถึงประสบการณ์ด้านการขับขี่รถยนต์ โดยเฉพาะรถคันแรกของพวกเธอ ซึ่งมีรายละเอียดความประทับใจที่แตกต่างกันออกไป ส่วนจะเป็นรุ่นไหนและยี่ห้ออะไร ที่สำคัญได้รับเงินคืนภาษีจากโครงการรถคันแรกด้วยหรือไม่ เชิญติดตาม...

เนย-ณิศศา เกตุระหงส์ มิสทิฟฟานี ยูนิเวิร์ส 2014

เริ่มกันที่เจ้าของตำแหน่งมิสทิฟฟานี ยูนิเวิร์ส ปีล่าสุด เล่าถึงความใกล้ชิดกับยานหนะ 4 ล้อ แบบตรงไปตรงมาว่า “เวลาไปไหนมาไหนก็นั่งแท็กซี่หรือรถเมล์มาตลอด สำหรับรถยนต์ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน และหนูเพิ่งมีรถยนต์คันแรกเป็นของตัวเอง ก็ได้มาจากการประกวดนี่แหละค่ะ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีรถขับเหมือนคนอื่น”

“รางวัลที่ได้รับคือ ฮอนด้า แจ๊ซ เขาบอกให้หนูเอากลับตั้งแต่วันได้ตำแหน่ง แต่หนูบอกยังขับไม่เป็นเลย ขอฝากไว้ก่อนละกัน ไว้มีเวลาไปเรียนให้เป็นก่อนแล้วค่อยมาขับกลับ ตอนนี้ก็ยังฝากจอดที่กองประกวดอยู่เลยค่ะ(หัวเราะ) ซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นรู้ผลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 พ.ค.) หลังจากนั้นก็เดินสายขอบคุณสื่อมวลชน จึงยังไม่มีเวลาไปเรียนขับรถที่ไหนเลย”

ขณะเดียวกันแม้ว่าจะยังขับไม่เป็น แต่รถคันแรกที่ได้รับมาก็เป็นรุ่นที่อยู่ในใจของเนยอยู่แล้ว โดยเธอยืนยันว่าคันนี้เป็นรถยนต์ที่หมายปองไว้ หากมีโอกาสหรือวันหนึ่งมีเงินมากพอก็จะซื้อรุ่นนี้ เพราะเป็นรถที่เหมาะสมกับการใช้งานแบบผู้หญิงๆ คันเล็กและสวยน่ารักเหมือนกับเธอนั่นเอง

นางงามวัย 22 ปี ซึ่งจะเข้าร่วมการประกวดบนเวทีระดับโลก “Miss International Queen 2014” ในฐานะตัวแทนของประเทศเจ้าภาพช่วงปลายปีนี้ เล่าต่อว่า ส่วนมอเตอร์ไซค์จะใช้บ่อย แว้นไปซื้อของแถวบ้านที่จังหวัดประจวบฯ แต่เคยมีประสบการณ์เลวร้าย ให้เพื่อนซ้อนท้ายแล้วขี่ไปล้ม แม้จะไม่เจ็บหนักแต่ก็ทำให้เธอรู้สึกกลัว และหลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้ใกล้ชิดสองล้อมากนัก

“พอมาอยู่กรุงเทพฯ แทบจะไม่ได้แตะมอเตอร์ไซค์เลย เพราะหลังจากล้มก็ไม่กล้าขี่ แต่ตอนนี้มาเป็นสก๊อยไฮโซนั่งบิ๊กไบค์แทน(ยิ้ม) เพราะคนรู้ใจของหนูขี่บิ๊กไบค์ใช้งานในเมือง ความรู้สึกต่างจากมอเตอร์ไซค์คันเล็กเยอะมากเลย เบาะนั่งสูงกว่า ความเร็วมากกว่า รู้สึกตื่นเต้นไปอีกแบบ แต่หนูก็ไม่ค่อยกลัวเท่าไร เพราะไว้ใจคนขี่ ซึ่งดูแล้วน่าจะชำนาญ แต่เค้าก็เคยพาเราไปกลิ้งมาแล้วนะ(หัวเราะ)”

มิสทิฟฟานีอารมณ์ดี คุยถึงรถในฝันบ้างว่า อยากครอบครองรถหรูยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ ให้ได้สักครั้งในชีวิต เพราะด้วยความสวย โก้ หรู โดยเฉพาะเด็กต่างจังหวัดอย่างเธอไม่เคยสัมผัสหรือได้นั่งรถประเภทนี้มาก่อน ซึ่งเธอเชื่อว่าวันนั้นต้องมาถึงอย่างแน่นอน

“อะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่างการประกวดเวทีนี้ หนูยังแสดงความสามารถพิชิตตำแหน่งได้มาแล้ว อนาคตอะไรก็เกิดขึ้นได้ค่ะ” เนยย้ำเสียงหนักแน่น

มิก-รชยา นพการุณ รองชนะเลิศอันดับ 1

“ปัจจุบันหนูใช้รถยนต์ ซูซูกิ สวิฟท์ ซึ่งเป็นรถยนต์คันแรกของตัวเอง และเข้าโครงการรับคืนภาษีจากรัฐบาลด้วย ส่วนที่ซื้อก็เพราะเหตุผลนี้ค่ะ นับเป็นโอกาสดีที่จะเอาเงินที่ได้คืนไปใช้ทำประโยชน์อย่างอื่น” รองชนะเลิศอันดับ 1 กล่าวและเล่าถึงลักษณะการใช้รถของตัวเองต่อว่า

“หนูจับพวงมาลัยครั้งแรกด้วยการไปเรียนขับรถ 12 ชั่วโมง โดยส่วนใหญ่ต้องขับรถเอง ไม่มีคนขับให้ อย่างเวลาไปงานก็ขับไปแล้วให้คุณแม่ขับกลับบ้าน ไม่ได้จอดทิ้งไว้ บางครั้งก็อยากมีคนมาขับให้ หรือเวลาหลังเลิกงานก็อยากมีคนรู้ใจมารับแทนแม่บ้าง เพราะปัจจุบันยังไม่มี แต่ก็กำลังมองหาอยู่ค่ะ (หัวเราะ)”

ด้านประสบการณ์ที่เป็นบทเรียน มิกนึกย้อนให้ฟังถึงเหตุการณ์ขับรถชนครั้งแรกไม่ได้เกิดขึ้นบนถนน แต่เป็นในบริเวณบ้านของตัวเอง ตอนนั้นนางงามวัย 22 ปี ขนพวกอุปกรณ์ที่ใช้เรียนนาฏศิลป์เต็มหลังรถ มันจึงบังกระจกมองหลังทำให้มองไม่เห็น แต่เธอมั่นใจว่าพ้น ปรากฏว่าถอยชนกระถางหลังบ้านอย่างจัง

อย่างไรก็ตาม แม้จะสร้างรอยแผลให้รถคันแรกของเธอไม่มากเท่าไรนัก แต่นั่นก็มากพอที่จะเตือนสติตัวเองว่า ทุกครั้งเมื่อนั่งหลังพวงมาลัยห้ามประมาทอย่างเด็ดขาด

ส่วนพฤติกรรมการขับขี่ในฐานะที่ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ มิกชี้ถึงสิ่งที่ต้องเปลี่ยนไปจากเดิมว่า ตอนนี้คนใช้รถยนต์ในเมืองหลวงต้องเผื่อเวลาเดินทางเยอะขึ้น ยิ่งในชั่วโมงเร่งด่วน เหมือนขับไปต่างจังหวัด เพราะใช้เวลาอยู่บนถนนนานมาก เนื่องจากการจราจรในเมืองติดขัด ไม่เหมือนสมัยก่อนที่คล่องตัวมากกว่านี้

สำหรับคำถามเกี่ยวกับรถในฝัน มิกตอบเสียงดังฟังชัดว่า “หนูชอบรถสปอร์ต อยากได้ปอร์เช่ หรือไม่ก็ บีเอ็มดับเบิ้ลยู แซด 4 พอดีตอนนี้ติดตามอินสตาแกรมของนักธุรกิจคนหนึ่ง เขาขับรถรุ่นนี้อยู่ค่ะ หนูว่ามันดูเท่ดี แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลองนั่งเลยค่ะ”

อาร์ม-ตรีทิพย์นิภา ทิพย์ปภาดา รองชนะเลิศอันดับ 2

“รถยนต์คันแรกของอาร์ม คือ อีโคคาร์ มิตซูบิชิ มิราจ แต่ไม่ได้เข้าโครงการของรัฐบาล เพราะเพิ่งซื้อเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ซึ่งตรงวันเกิดพอดีก็เลยซื้อเป็นของขวัญให้กับตัวเองค่ะ” รองชนะเลิศอันดับ 2 พูดพร้อมรอยยิ้มและเล่าต่อว่า

เสียดายมั้ยที่ไม่ได้เงินคืน ไม่นะ เพราะเราคิดไว้แล้วว่าก่อนซื้อรถต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ตอนนั้นยังไม่พร้อมจริงๆ ก็เลยยังไม่ซื้อ อาร์มหาเลี้ยงตัวเองและดูแลครอบครัวด้วย ภาระเยอะ แต่พอถึงเวลาที่เราพร้อมและจำเป็นต้องใช้จึงค่อยตัดสินใจ ด้วยการทำงานเป็นแดนซ์เซอร์ เราต้องเดินทางบ่อย ถ้านั่งแท็กซี่ก็หลายบาท คำนวณแล้วสู้ซื้อใช้เองดีกว่า”

ส่วนเหตุผลที่เลือกอีโคคาร์ นางงามวัย 24 ปี อธิบายว่าเพราะเป็นรถเล็ก มีข้อดีประหยัดน้ำมัน ใช้ในเมืองสะดวกคล่องตัว หาที่จอดง่าย แต่ถ้าจะขยับไปใช้รุ่นที่ใหญ่ขึ้นนั่นเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้คันนี้เหมาะสมกับตัวเองที่สุดแล้ว

“รถในฝันหนูอาจจะแตกต่างจากคนอื่น สำหรับหนูชอบโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ คิดว่ามันแข็งแรง ดูใหญ่ มั่นคง สามารถขนของได้เยอะ พาเพื่อนๆ ไปได้เยอะ เพราะหลายครั้งรู้สึกว่ามิราจมันเล็กเกินไป แต่ก็เป็นคันแรกที่ใช้เริ่มต้นได้ดี ส่วนอนาคตก็อยากใช้คันใหญ่ๆ บ้าง ส่วนพวกรถสปอร์ตหรือรถหรู หนูไม่เคยคิดฝันอยากได้เลย เพราะหนูคิดว่ารถสปอร์ตเป็นรถเห็นแก่ตัว แต่ทั้งนี้คนที่มีเงินจะซื้อใช้ก็ไม่มีใครว่า เพราะเงินของเขา มันเป็นความชอบส่วนตัวของเขา แต่เรากว่าจะหาเงินได้ลำบาก ต้องการใช้รถที่สามารถนั่งได้หลายคน และขนของได้เยอะๆ ดีกว่า สำหรับหนูเน้นด้านการใช้งานมากกว่าค่ะ”

คิดอย่างไรกับคำว่าผู้หญิงขับรถไม่ดีเท่าผู้ชาย อาร์มหยุดคิดก่อนตอบว่า “หนูว่าอยู่ที่คนมากกว่านะ ผู้หญิงที่เก่งๆ เป็นนักขับรถแข่งก็มี ผู้หญิงขับรถดีก็มี ขับไม่ดีก็มี หรือกระทั่งผู้ชายที่ขับรถแย่ๆ ก็มี มันขึ้นอยู่ที่คน แต่ด้วยรูปลักษณ์บอบบางของผู้หญิง ส่วนใหญ่จึงมองว่าอ่อนแอ ไม่กล้าตัดสินใจ”

“ส่วนถ้าให้ประเมินตัวเองเป็นคนขับรถดีแค่ไหน หนูเป็นคนใจร้อนนะ ถ้าเห็นว่าไปได้ก็ไปเลย ไม่มีลังเล เปรียบเทียบการขับคงไม่ดีมากหรือแย่มาก เอาเป็นกลางๆ แล้วกัน แต่ทุกครั้งที่ขับก็ระวังและไม่ประมาท รู้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดหลังจากการชนมันเสียหายทั้งคนทั้งรถ อยากให้ทุกคนคิดเสมอว่ายังมีคนที่เรารักและรักเรารออยู่ที่บ้านค่ะ”

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring

กำลังโหลดความคิดเห็น