ผลการสำรวจของเจดี เพาเวอร์ เอเชีย แปซิฟิค 2556 ในความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อรูปลักษณ์ของรถ เชฟโรเลต แคปติวา ถูกจัดอันดับให้เป็นรถเอสยูวีที่มีรูปลักษณ์ดึงดูดใจที่สุด หรือ เรียกสั้นๆว่า ผลการสำรวจ APEAL ด้วยคะแนน 918 จาก 1,000 คะแนน และมีคะแนนมากกว่าค่าเฉลี่ยถึง 5 คะแนน
ซึ่งในกลุ่มรถเอสยูวี แคปติวาถือเป็นผู้นำใน 5 จาก 10 ตัววัดของการจัดอันดับ APEAL ได้แก่ รูปลักษณ์ภายนอกของรถ ระบบเครื่องเสียง เอนเตอร์เทนเม้นท์ และระบบนำทาง สมรรถนะการขับขี่ เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง และการประหยัดเชื้อเพลิง ซึ่งตัววัดเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกของรถนั้น ถือเป็นตัววัดที่สำคัญที่สุดในการจัดอันดับ
นับเป็นครั้งที่สองที่แคปติวาถูกจัดอันดับจากการสำรวจของเจดี เพาเวอร์ด้านรูปลักษณ์ที่ดึงดูดใจ ในปี 2555 แคปติวาถูกจัดให้เป็นอันดับสามจากการสำรวจเดียวกันนี้ และแคปติวายังถูกจัดอันดับในอีกหนึ่งการสำรวจของเจดี เพาเวอร์ คือ คุณภาพแรกเริ่ม หรือ IQS ในเดือนธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา การสำรวจคุณภาพแรกเริ่มของยานยนต์นั้น จะเก็บผลสำรวจของปัญหายานยนต์ที่ได้รับแจ้งภายใน 90 วันหลังจากรับรถ ซึ่งการให้คะแนนจะวัดจาก ปัญหาที่ก่อให้เกิดความเสียหาย การทำงานขัดข้อง หรือฟังก์ชั่นการใช้งานที่ยากต่อการใช้หรือเข้าใจ
ในขณะเดียวกัน เชฟโรเลต โคโลราโด กระบะยกสูง ตอนครึ่ง ขับเคลื่อนสี่ล้อ (Z71 Extended Cab) ถูกจัดอันดับสองในกลุ่มกระบะตอนครึ่ง ด้วย คะแนน 915 คะแนนมากกว่าค่าเฉลี่ยถึง 9 คะแนน ในการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อรูปลักษณ์ของยานยนต์ และเช่นเดียวกัน นับเป็นครั้งที่สอง ที่ โคโลราโด กระบะตอนครึ่ง ขับเคลื่อนสี่ล้อ ถูกจัดอันดับในการสำรวจนี้ ครั้งแรกเมื่อปี 2555 กลุ่มรถกระบะตอนครึ่ง ถือเป็นกลุ่มที่มีรถเข้าสำรวจเพื่อการจัดอันดับมากที่สุด
นาย กุสตาโว โคลอซซี่ รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย และ จีเอ็ม ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “เป็นที่น่ายินดีอย่างมากที่แคปติวาถูกจัดอันดับเป็นผู้นำใน 5 จาก 10 ประเภทตัววัดของการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อรูปลักษณ์ของยานยนต์ นี่แสดงให้เห็นว่า แคปติวามาถึงจุดที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดยานยนต์ได้ และเราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการของลูกค้า และมีสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมได้”
การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อรูปลักษณ์ของยานยนต์ ของเจดี เพาเวอร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อยานยนต์ใหม่ๆ ในท้องตลาด ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ 2-6 เดือนแรกของการเป็นเจ้าของยานยนต์นั้นๆ ซึ่งจะทำการสำรวจถึงกว่า 100 หัวข้อ โดยครอบคลุม 10 ประเภทตัววัด ได้แก่ รูปลักษณ์ภายนอก, รูปลักษณ์ภายใน, ความกว้างและช่องเก็บสัมภาระ, เครื่องเสียง ระบบเอนเตอร์เทนเม้นท์ ระบบนำทาง, ที่นั่ง, HVAC (ระบบความร้อน ระบบหมุนเวียนอากาศ ระบบเครื่องปรับอากาศ), สมรรถนะการขับขี่, เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง, วิสัยทัศน์การมองเห็น และความปลอดภัยในการขับขี่ และ การประหยัดเชื้อเพลิง
จากผลการสำรวจของเจดี เพาเวอร์ ล่าสุด นอกเหนือไปจากรูปลักษณ์ภายนอกของยานยนต์ ระบบเครื่องเสียง เอนเตอร์เทนเม้นท์ และระบบนำทาง ก็ถือเป็นตัววัดที่สำคัญในการจัดอันดับ เจ้าของรถจะให้ความสำคัญมากในเรื่องคุณภาพของเครื่องเสียง ฟังก์ชั่นการใช้งานเครื่องเสียงที่สามารถรองรับการใช้งานได้ทุกประเภท
ผลสำรวจของเจดี เพาเวอร์ ปี 2556 นั้น มาจากการประเมินของลูกค้าเจ้าของรถ 5,013 คน ที่ซึ่งซื้อรถตั้งแต่ตุลาคม 2555 ถึงมิถุนายน 2556 ประกอบไปด้วยรถ 78 รุ่น จาก 13 บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ การสำรวจจัดขึ้นในเดือนเมษายน ถึงสิงหาคม 2556
นายโคลอซซี่ กล่าวอีกว่า เชฟโรเลตจะยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆสู่ท้องตลาด ด้วยคุณภาพตั้งแต่กระบวนการผลิตและการบริการลูกค้า ดังเช่นที่ผลจากการสำรวจของเจดี เพาเวอร์ พบว่า คะแนนความพึงพอใจของลูกค้าจะสูงขึ้น หากลูกค้าได้รับการบริการโดยอธิบายอย่างละเอียดถึงฟังก์ชั่นการใช้งานและขั้นตอนการใช้รถ
ณ ปัจจุบัน เชฟโรเลตได้ขายรถกระบะ เชฟโรเลต โคโลราโด ไปแล้วกว่า 119,972 คัน และเอสยูวี เชฟโรเลต แคปติวา 32,912 คัน ตั้งแต่ทำการเปิดตัวทั้งสองผลิตภัณฑ์นี้เมื่อปี 2554 ซึ่งยอดขายทั้งหมดนี้รวมยอดขายทั้งในและต่างประเทศ
ซึ่งในกลุ่มรถเอสยูวี แคปติวาถือเป็นผู้นำใน 5 จาก 10 ตัววัดของการจัดอันดับ APEAL ได้แก่ รูปลักษณ์ภายนอกของรถ ระบบเครื่องเสียง เอนเตอร์เทนเม้นท์ และระบบนำทาง สมรรถนะการขับขี่ เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง และการประหยัดเชื้อเพลิง ซึ่งตัววัดเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกของรถนั้น ถือเป็นตัววัดที่สำคัญที่สุดในการจัดอันดับ
นับเป็นครั้งที่สองที่แคปติวาถูกจัดอันดับจากการสำรวจของเจดี เพาเวอร์ด้านรูปลักษณ์ที่ดึงดูดใจ ในปี 2555 แคปติวาถูกจัดให้เป็นอันดับสามจากการสำรวจเดียวกันนี้ และแคปติวายังถูกจัดอันดับในอีกหนึ่งการสำรวจของเจดี เพาเวอร์ คือ คุณภาพแรกเริ่ม หรือ IQS ในเดือนธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา การสำรวจคุณภาพแรกเริ่มของยานยนต์นั้น จะเก็บผลสำรวจของปัญหายานยนต์ที่ได้รับแจ้งภายใน 90 วันหลังจากรับรถ ซึ่งการให้คะแนนจะวัดจาก ปัญหาที่ก่อให้เกิดความเสียหาย การทำงานขัดข้อง หรือฟังก์ชั่นการใช้งานที่ยากต่อการใช้หรือเข้าใจ
ในขณะเดียวกัน เชฟโรเลต โคโลราโด กระบะยกสูง ตอนครึ่ง ขับเคลื่อนสี่ล้อ (Z71 Extended Cab) ถูกจัดอันดับสองในกลุ่มกระบะตอนครึ่ง ด้วย คะแนน 915 คะแนนมากกว่าค่าเฉลี่ยถึง 9 คะแนน ในการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อรูปลักษณ์ของยานยนต์ และเช่นเดียวกัน นับเป็นครั้งที่สอง ที่ โคโลราโด กระบะตอนครึ่ง ขับเคลื่อนสี่ล้อ ถูกจัดอันดับในการสำรวจนี้ ครั้งแรกเมื่อปี 2555 กลุ่มรถกระบะตอนครึ่ง ถือเป็นกลุ่มที่มีรถเข้าสำรวจเพื่อการจัดอันดับมากที่สุด
นาย กุสตาโว โคลอซซี่ รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย และ จีเอ็ม ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “เป็นที่น่ายินดีอย่างมากที่แคปติวาถูกจัดอันดับเป็นผู้นำใน 5 จาก 10 ประเภทตัววัดของการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อรูปลักษณ์ของยานยนต์ นี่แสดงให้เห็นว่า แคปติวามาถึงจุดที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดยานยนต์ได้ และเราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการของลูกค้า และมีสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมได้”
การสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อรูปลักษณ์ของยานยนต์ ของเจดี เพาเวอร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อยานยนต์ใหม่ๆ ในท้องตลาด ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ 2-6 เดือนแรกของการเป็นเจ้าของยานยนต์นั้นๆ ซึ่งจะทำการสำรวจถึงกว่า 100 หัวข้อ โดยครอบคลุม 10 ประเภทตัววัด ได้แก่ รูปลักษณ์ภายนอก, รูปลักษณ์ภายใน, ความกว้างและช่องเก็บสัมภาระ, เครื่องเสียง ระบบเอนเตอร์เทนเม้นท์ ระบบนำทาง, ที่นั่ง, HVAC (ระบบความร้อน ระบบหมุนเวียนอากาศ ระบบเครื่องปรับอากาศ), สมรรถนะการขับขี่, เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง, วิสัยทัศน์การมองเห็น และความปลอดภัยในการขับขี่ และ การประหยัดเชื้อเพลิง
จากผลการสำรวจของเจดี เพาเวอร์ ล่าสุด นอกเหนือไปจากรูปลักษณ์ภายนอกของยานยนต์ ระบบเครื่องเสียง เอนเตอร์เทนเม้นท์ และระบบนำทาง ก็ถือเป็นตัววัดที่สำคัญในการจัดอันดับ เจ้าของรถจะให้ความสำคัญมากในเรื่องคุณภาพของเครื่องเสียง ฟังก์ชั่นการใช้งานเครื่องเสียงที่สามารถรองรับการใช้งานได้ทุกประเภท
ผลสำรวจของเจดี เพาเวอร์ ปี 2556 นั้น มาจากการประเมินของลูกค้าเจ้าของรถ 5,013 คน ที่ซึ่งซื้อรถตั้งแต่ตุลาคม 2555 ถึงมิถุนายน 2556 ประกอบไปด้วยรถ 78 รุ่น จาก 13 บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ การสำรวจจัดขึ้นในเดือนเมษายน ถึงสิงหาคม 2556
นายโคลอซซี่ กล่าวอีกว่า เชฟโรเลตจะยังคงนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆสู่ท้องตลาด ด้วยคุณภาพตั้งแต่กระบวนการผลิตและการบริการลูกค้า ดังเช่นที่ผลจากการสำรวจของเจดี เพาเวอร์ พบว่า คะแนนความพึงพอใจของลูกค้าจะสูงขึ้น หากลูกค้าได้รับการบริการโดยอธิบายอย่างละเอียดถึงฟังก์ชั่นการใช้งานและขั้นตอนการใช้รถ
ณ ปัจจุบัน เชฟโรเลตได้ขายรถกระบะ เชฟโรเลต โคโลราโด ไปแล้วกว่า 119,972 คัน และเอสยูวี เชฟโรเลต แคปติวา 32,912 คัน ตั้งแต่ทำการเปิดตัวทั้งสองผลิตภัณฑ์นี้เมื่อปี 2554 ซึ่งยอดขายทั้งหมดนี้รวมยอดขายทั้งในและต่างประเทศ