ข่าวในประเทศ - พิษการเมือง! ฉุดยอดจองรถใหม่ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2013 วูบจากเป้าหมายเดิม 18% คาดน่าจะปิดยอดประมาณ 40,000 คันเศษๆ จากคนแห่เข้ามาจองช่วงวันสุดท้าย ขณะที่บิ๊กไบค์สวนกระแสยอดพุ่งแตะ 10% แสดงให้เห็นทิศทางตลาดกำลังมาแรง เผยหากการเมืองยังไม่จบ ส่งผลกระทบเศรษฐกิจภาพรวมแน่
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 30 หรือมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2013 เปิดเผยว่า ยอดจองรถยนต์ในงานอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา หรือหนึ่งวันก่อนวันสุดท้ายของการจัดงาน มีจำนวนทั้งหมด 32,832 คัน ซึ่งหากเทียบกับปีที่ผ่านมาค่อนข้างลดลงมาก ประกอบกับปีนี้มีเรื่องสถานการณ์ปัญหาทางการเมือง ประชาชนลุกขึ้นมาประท้วงขับไล่รัฐบาลทั่วกรุงเทพฯ ตลอดช่วงระหว่างการจัดงานพอดี ทำให้ยอดจองรถตกลงกว่าที่คาดไว้
“ยอดจองรถใหม่ในงานปีนี้น่าจะอยู่ประมาณ 40,000 คันเศษๆ หากเทียบกับเป้าหมายตอนเริ่มเปิดงานที่ตั้งไว้ 50,000 คัน หรือลดลงประมาณ 18% เช่นเดียวกับจำนวนผู้เข้ามาชมงานที่ลดลงเหลือ 1.3 ล้านคน จากเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ 1.6 ล้านคน แต่ที่น่าแปลกใจเป็นยอดจองรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ ที่ปรับเพิ่มจากปีที่แล้วน่าจะถึง 10% หรือประมาณเกือบ 2,000 คัน นั่นแสดงให้เห็นว่าบิ๊กไบค์เป็นตลาดที่มีทิศทางการเติบโตสูงมาก แม้ปัจจุบันจะมีปัญหาทางการเมืองก็ตาม”
ทั้งนี้ก่อนการจัดงานได้ตั้งเป้าหมายยอดจองไว้ 50,000 บาท เป็นยอดปรับลดลงจากปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นผิดธรรมชาติจากโครงการรถคันแรกของรัฐบาล แต่เป้าจองดังกล่าวยังไม่ได้รวมปัญหาทางการเมืองไว้ ที่เพิ่งมาเพิ่มความเข้มข้นในช่วงของการจัดงานพอดี และเริ่มเห็นผลกระทบหลังผ่านไปครึ่งทาง เหตุนี้จึงได้ปรับเป้าลงมาเป็น 40,000 คัน และในวันสุดท้ายนี้(10 ธ.ค.) มีผู้เข้ามาชมงานเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลายระดับหนึ่ง จึงคาดว่ายอดจองปีนี้น่าจะบรรลุเป้าหมายใหม่ หรือเกิน 40,000 คันเล็กน้อยๆ
นายขวัญชัยเปิดเผยว่า สำหรับทิศทางตลาดรถยนต์ในปีหน้า หากทุกอย่างเป็นไปตามปกติน่าจะปรับตัวเพิ่มเป็น 1.3-1.4 ล้านคัน จากปีนี้คาดประมาณ 1.1-1.2 ล้านคัน แต่ที่ยังน่ากังวลคงจะเป็นสถานการณ์ทางการเมือง แม้นายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภาไปแล้ว แต่ทางฝ่ายผู้ประท้วงยังคงเรียกร้องมากกว่านั้น ทำให้ปัญหาการเมืองไม่จบ ซึ่งในส่วนตัวได้เรียกร้องเช่นเดียวกับมวลมหาประชาชนด้วย แต่ถึงจุดนี้มีการยุบสภาพพอใจแล้ว และต้องการให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ เพียงแต่จะต้องมีการแก้ไขกฎเกณฑ์การเลือกตั้ง ให้มีความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ต้องป้องกันและมีบทลงโทษคนซื้อสิทธิ์ขายเสียงอย่างรุนแรง และคณะกรรมการเลือกตั้งต้องดูแลให้เข้มงวด
“หากปัญหาการเมืองยังยืดเยื้อ แน่นอนย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทยโดยรวม ที่เห็นชัดเจนคงเป็นภาคธุรกิจท่องเที่ยวก่อน แม้ม็อบปัจจุบันจะไม่มีเรื่องของความรุนแรง แต่ภาพข่าวที่ออกไปย่อมทำให้ต่างชาติหวั่นวิตกและกลัว ซึ่งไม่เหมือนคนไทยที่มีความคุ้นเคยกับเรื่องม็อบ หรือปัญหาทางการเมือง ดังนั้นทิศทางปีหน้าจึงขึ้นอยู่กับปีนี้จะจบอย่างไร แต่ยืนยันงานมอเตอร์เอ็กโปร์จะยังคงจัดอยู่ในช่วงนี้ต่อไป เพราะเป็นช่วงที่ผู้คนมีกำลังซื้อ และเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหากระทบในทุกๆ ปีแน่”
โดยทิศทางตลาดในปีหน้า หรือปี 2557 คาดว่าจะยังมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง และทุกรายต่างต้องการผลักดันยอดขาย และเร่งระบายสต็อกการผลิตที่มาจากผลกระทบโครงการรถคันแรกไปอีกระยะ ขณะเดียวกันยังมีรถรุ่นใหม่ๆ ที่เตรียมเปิดตัวอีกหลายรุ่น รวมถึงรถในเซกเมนท์ใหม่ซับคอมแพ็กต์เอสยูวี อย่างนิสสัน จู๊ค และฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ที่มาแรงและช่วยผลักดันให้ตลาดเติบโตได้
สำหรับยอดจองรถใหม่ในปีนี้ รถยนต์ที่มาแรงเป็นรถขนาดเล็ก โตโยต้า ยาริส และนิสสัน จู๊ค ที่ได้รับความนิยมมากในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป และยอดจองอย่างเป็นทางการจนถึงหนึ่งวันก่อนวันสุดท้าย(9 ธ.ค.) มีจำนวน 32,832 คัน โดยยอดจอง 5 อันดับแรก สูงสุดเป็นโตโยต้า 7,412 คัน รองลงมาฮอนด้า 5,057คัน อีซูซุ 3,283 คัน นิสสัน 3,109 คัน และมิตซูบิชิ 29,41 คัน
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 30 หรือมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2013 เปิดเผยว่า ยอดจองรถยนต์ในงานอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา หรือหนึ่งวันก่อนวันสุดท้ายของการจัดงาน มีจำนวนทั้งหมด 32,832 คัน ซึ่งหากเทียบกับปีที่ผ่านมาค่อนข้างลดลงมาก ประกอบกับปีนี้มีเรื่องสถานการณ์ปัญหาทางการเมือง ประชาชนลุกขึ้นมาประท้วงขับไล่รัฐบาลทั่วกรุงเทพฯ ตลอดช่วงระหว่างการจัดงานพอดี ทำให้ยอดจองรถตกลงกว่าที่คาดไว้
“ยอดจองรถใหม่ในงานปีนี้น่าจะอยู่ประมาณ 40,000 คันเศษๆ หากเทียบกับเป้าหมายตอนเริ่มเปิดงานที่ตั้งไว้ 50,000 คัน หรือลดลงประมาณ 18% เช่นเดียวกับจำนวนผู้เข้ามาชมงานที่ลดลงเหลือ 1.3 ล้านคน จากเดิมคาดว่าจะอยู่ที่ 1.6 ล้านคน แต่ที่น่าแปลกใจเป็นยอดจองรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ ที่ปรับเพิ่มจากปีที่แล้วน่าจะถึง 10% หรือประมาณเกือบ 2,000 คัน นั่นแสดงให้เห็นว่าบิ๊กไบค์เป็นตลาดที่มีทิศทางการเติบโตสูงมาก แม้ปัจจุบันจะมีปัญหาทางการเมืองก็ตาม”
ทั้งนี้ก่อนการจัดงานได้ตั้งเป้าหมายยอดจองไว้ 50,000 บาท เป็นยอดปรับลดลงจากปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นผิดธรรมชาติจากโครงการรถคันแรกของรัฐบาล แต่เป้าจองดังกล่าวยังไม่ได้รวมปัญหาทางการเมืองไว้ ที่เพิ่งมาเพิ่มความเข้มข้นในช่วงของการจัดงานพอดี และเริ่มเห็นผลกระทบหลังผ่านไปครึ่งทาง เหตุนี้จึงได้ปรับเป้าลงมาเป็น 40,000 คัน และในวันสุดท้ายนี้(10 ธ.ค.) มีผู้เข้ามาชมงานเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มคลี่คลายระดับหนึ่ง จึงคาดว่ายอดจองปีนี้น่าจะบรรลุเป้าหมายใหม่ หรือเกิน 40,000 คันเล็กน้อยๆ
นายขวัญชัยเปิดเผยว่า สำหรับทิศทางตลาดรถยนต์ในปีหน้า หากทุกอย่างเป็นไปตามปกติน่าจะปรับตัวเพิ่มเป็น 1.3-1.4 ล้านคัน จากปีนี้คาดประมาณ 1.1-1.2 ล้านคัน แต่ที่ยังน่ากังวลคงจะเป็นสถานการณ์ทางการเมือง แม้นายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภาไปแล้ว แต่ทางฝ่ายผู้ประท้วงยังคงเรียกร้องมากกว่านั้น ทำให้ปัญหาการเมืองไม่จบ ซึ่งในส่วนตัวได้เรียกร้องเช่นเดียวกับมวลมหาประชาชนด้วย แต่ถึงจุดนี้มีการยุบสภาพพอใจแล้ว และต้องการให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ เพียงแต่จะต้องมีการแก้ไขกฎเกณฑ์การเลือกตั้ง ให้มีความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ต้องป้องกันและมีบทลงโทษคนซื้อสิทธิ์ขายเสียงอย่างรุนแรง และคณะกรรมการเลือกตั้งต้องดูแลให้เข้มงวด
“หากปัญหาการเมืองยังยืดเยื้อ แน่นอนย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทยโดยรวม ที่เห็นชัดเจนคงเป็นภาคธุรกิจท่องเที่ยวก่อน แม้ม็อบปัจจุบันจะไม่มีเรื่องของความรุนแรง แต่ภาพข่าวที่ออกไปย่อมทำให้ต่างชาติหวั่นวิตกและกลัว ซึ่งไม่เหมือนคนไทยที่มีความคุ้นเคยกับเรื่องม็อบ หรือปัญหาทางการเมือง ดังนั้นทิศทางปีหน้าจึงขึ้นอยู่กับปีนี้จะจบอย่างไร แต่ยืนยันงานมอเตอร์เอ็กโปร์จะยังคงจัดอยู่ในช่วงนี้ต่อไป เพราะเป็นช่วงที่ผู้คนมีกำลังซื้อ และเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหากระทบในทุกๆ ปีแน่”
โดยทิศทางตลาดในปีหน้า หรือปี 2557 คาดว่าจะยังมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง และทุกรายต่างต้องการผลักดันยอดขาย และเร่งระบายสต็อกการผลิตที่มาจากผลกระทบโครงการรถคันแรกไปอีกระยะ ขณะเดียวกันยังมีรถรุ่นใหม่ๆ ที่เตรียมเปิดตัวอีกหลายรุ่น รวมถึงรถในเซกเมนท์ใหม่ซับคอมแพ็กต์เอสยูวี อย่างนิสสัน จู๊ค และฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ที่มาแรงและช่วยผลักดันให้ตลาดเติบโตได้
สำหรับยอดจองรถใหม่ในปีนี้ รถยนต์ที่มาแรงเป็นรถขนาดเล็ก โตโยต้า ยาริส และนิสสัน จู๊ค ที่ได้รับความนิยมมากในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป และยอดจองอย่างเป็นทางการจนถึงหนึ่งวันก่อนวันสุดท้าย(9 ธ.ค.) มีจำนวน 32,832 คัน โดยยอดจอง 5 อันดับแรก สูงสุดเป็นโตโยต้า 7,412 คัน รองลงมาฮอนด้า 5,057คัน อีซูซุ 3,283 คัน นิสสัน 3,109 คัน และมิตซูบิชิ 29,41 คัน