ตลาดปิกอัพปีนี้การแข่งขันยังคงรุนแรง แต่ความเคลื่อนไหวในส่วนของผลิตภัณฑ์อาจจะไม่คึกคักเท่ากับปีที่ผ่านๆ มา เพราะล้วนแนะนำสู่ตลาดมาไม่ต่ำกว่า 1 ปีแล้ว และมีหลายรุ่นที่เข้าสู่ช่วงปลายโมเดล ซึ่งจะเริ่มปรับโฉมใหม่ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปอีกครั้ง ส่วนปลายปีนี้อย่างเก่งคงเห็นการแต่งหน้าทาปากเติมออปชัน ถึงอย่างนั้นแทบทุกค่ายจะมีการขยับในส่วนของเครื่องยนต์ เพื่อให้รองรับกับการบังคับใช้มาตรฐานไอเสียสเต็ปใหม่ในปีหน้า และบางรายถึงกับปรับขุมพลังใหม่ให้เหนือกว่า หรือสู้กับคู่แข่งได้ โดยส่วนใหญ่จะมาในแนวทางพัฒนาเครื่องยนต์บล็อกเล็กให้แรงขึ้น แต่ประหยัดน้ำมัน…
เริ่มจากการขยับตัวของยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” ที่ได้มีการปรับปรุงปิกอัพไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ รุ่นปี 2013 ที่นอกจากปรับเพิ่มรุ่นใหม่เป็นทางเลือกลูกค้ามากขึ้น พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแล้ว ยังได้มีการปรับเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร ในรุ่นเกียร์ธรรมดาที่เดิมจะมีกำลัง 163 แรงม้า มาตรฐานไอเสีย Euro 3 ปรับปรุงใหม่เป็น 171 แรงม้า เช่นเดียวกับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ และผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro Step 4
นี่น่าจะเป็นปรับปรุงขุมพลังครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะวางเครื่องยนต์ใหม่ที่จะเปิดตัวมาพร้อมกับโฉมใหม่ของโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ซึ่งตามกระแสข่าวขุมกำลังใหม่จะมาแบบแรงสุดๆ จนมีรายงานว่าต้องรื้อช่วงล่างโมเดลใหม่อีกรอบ เพื่อให้สามารถรองรับกำลังที่มากขึ้นได้ โดยกำหนดแนะนำสู่ตลาดของโฉมใหม่ไฮลักซ์ วีโก้ อย่างเร็วน่าจะเป็นปลายปีหน้า หรือไม่เกินปี 2015 ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่โฉมใหม่ “มิตซูบิชิ ไทรทัน” และ “นิสสัน นาวารา” บุกตลาดเช่นกัน
แต่ที่น่าสนใจเห็นจะเป็นการปรับเครื่องยนต์คอมมอนเรลดูราแม็กซ์ (Duramax) ของปิกอัพ “เชฟโรเลต โคโลราโด” ที่ใช้เทคโนโลยีหัวฉีดใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยเดือนตุลาคมนี้ แต่เริ่มมีข่าวคราวหลุดออกมาจากสื่อออนไลน์ฝั่งอเมริกาใต้บ้างแล้ว เพราะเป็นประเทศที่พัฒนาปิกอัพเชฟโรเลต โคโลราโด และเป็นอีกฐานผลิตของจีเอ็มคู่กับไทย
จากรายงานข่าวเว็บไซต์ Autoblog ในอาร์เจนตินา ระบุว่า เจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็ม (GM) ในประเทศบราซิล เตรียมแนะนำปิกอัพ “เชฟโรเลต เอส10” (Chevrolet S10) หรือในไทยเรียกรุ่นโคโลราโด และรถอเนกประสงค์ “เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์” รุ่นประจำปี 2014 ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ พร้อมกับระบบความปลอดภัย และอุปกรณ์มัลติมีเดีย Mylink ที่ทันสมัยมากขึ้น สำหรับปิกอัพโคโลราโด รุ่น LTZ
ทั้งนี้ ขุมพลัง Duramax 2.8 ลิตร เทอร์โบ ได้มีการปรับเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลใหม่ ด้วยการใช้ระบบหัวฉีดแบบใหม่ (จากรายงานข่าวของจีเอ็มในประเทศระบุเป็นหัวฉีดไฟฟ้า Piezo) ซึ่งมีแรงดันสูงถึง 2,000 บาร์ โดยผลิตกำลังจาก 180 แรงม้า เพิ่มเป็น 200 แรงม้า ที่รอบต่ำลง 3,600 รอบ/นาที จากเดิมจะอยู่ที่ 3,800 รอบ/นาที ขณะที่ 90% ของแรงบิดจะมาตั้งแต่ที่ 1,700 รอบ/นาที (รุ่นเดิมรุ่นเกียร์ธรรมดา 440 และเกียร์อัตโนมัติ 470 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ในข่าวระบบใหม่ไม่แจ้งแรงบิดสูงสุด แต่ตามกระแสข่าวในไทยอยู่ที่ 500 นิวตัน-เมตร)
แน่นอนด้วยสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากหัวฉีดคอมมอนเรลใหม่ ที่เปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้าเพียโซ (Piezo) ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีทันสมัยล่าสุดในปัจจุบัน ด้วยจุดเด่นที่หัวฉีดทำจากเซรามิก มีแรงดันสูง และการฉีดพ่นละอองน้ำมันละเอียด แม่นยำ และรวดเร็วกว่า ว่ากันว่ามากกว่าแบบเดิม “โซลินอยด์” ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน 4 เท่า หรือข้อมูลจากผู้ผลิตบางรายบอกมากถึง 10 เท่า ทำให้เกิดการเผาไหม้เชื้อเพลิงได้สมบูรณ์ดีกว่า รีดกำลังออกมาได้มากกว่า แต่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ และปล่อยมลพิษไอเสียน้อยลงด้วย
ปัจจุบัน ส่วนใหญ่ค่ายรถยังใช้หัวฉีดคอมมอนเรลแบบโซลินอยด์อยู่ มีที่นิยมใช้หัวฉีดเพียโซในเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ส่วนใหญ่จะเป็นค่ายรถยุโรปรายใหญ่ โดยปิกอัพในไทยขณะนี้ที่ใช้หัวฉีดไฟฟ้าเพียโซ จะมีฟอร์ด เรนเจอร์ และมาสด้า บีที-50 ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลร่วมกัน ซึ่งปิกอัพทั้ง 2 รุ่นแม้ขนาดเครื่องยนต์ดีเซลบล็อกเล็ก 2.2 ลิตร ยังให้กำลังสูง 150 แรงม้า ยิ่งในรุ่น 3.2 ลิตร เลี้ยงม้าไว้ในคอกถึง 200 ตัว แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที แต่เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ใหม่ในเชฟโรเลต โคโลราโด ที่ใช้หัวฉีดเพียโซเช่นเดียวกัน แต่บล็อกเล็กกว่าขนาด 2.8 ลิตร สามารถให้กำลังมากถึง 200 แรงม้า งานนี้ปิกอัพ และรถอเนกประสงค์พีพีวีสะเทือนไปตามๆ กันแน่
นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับเทรนด์การใช้เครื่องยนต์บล็อกเล็ก แต่มีพละกำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์บล็อกใหญ่ ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก โดยล่าสุด มีการเปิดเผยว่า “อีซูซุ” กำลังจะนำเครื่องยนต์ดีเซลไซส์เล็กบล็อกใหม่ขนาด 1,900 ซีซี เพื่อวางในปิกอัพ “อีซูซุ ดี-แมคซ์” ที่ขายอยู่ในเมืองไทย โดยคาดว่าน่าจะเปิดตัวในปี 2015
ข่าวชิ้นนี้ได้รับการเปิดเผยผ่านทางหนังสือพิมพ์ Nikkei ในญี่ปุ่น ซึ่งระบุว่าเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 1,900 ซีซี รุ่นใหม่ จะมีกำลังขับเคลื่อนใกล้เคียงกับรุ่น 2,500 ซีซี แต่ไม่มีการยืนยันว่าจะเข้ามาแทนที่ หรือว่าจะเป็นตัวช่วยเสริมในตลาด ส่วนที่มาของเครื่องยนต์บล็อกนี้ไม่มีการยืนยันว่าจะเป็นเครืองยนต์ที่ทางอีซูซุพัฒนาขึ้นมาเอง หรือเป็นผลผลิตจากโครงการความร่วมมือกับพันธมิตรเก่าอย่างจีเอ็ม (GM) ที่มีข่าวว่าอีซูซุรีเทิร์นจับมือกันพัฒนาเครื่องยนต์ สำหรับใช้กับปิกอัพราคาประหยัดที่จะเปิดตัวในอินเดีย ปี 2016
นอกจากนั้น ยังมีการเปิดเผยว่าการใช้เครื่องยนต์บล็อกเล็กลงจะมีส่วนช่วยทำให้ราคารถถูกลง เช่นเดียวกับความประหยัดน้ำมัน ซึ่งในปัจจุบันอีซูซุมียอดขายปิกอัพทั่วโลก 410,000 คัน ซึ่งสัดส่วน 65% ของยอดขายอยู่ที่ตลาดในอาเซียน และจากการเข้ามาของเครื่องยนต์บล็อกนี้ ทำให้อีซูซุเชื่อมั่นว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายได้อีก 20%
จากความเคลื่อนไหวของค่ายรถ จากนี้ไปใครที่ชื่นชอบรถเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล นอกจากจะมีทางเลือกกับขุมพลังที่แรงกว่าเดิม ยังให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำลง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย...
เริ่มจากการขยับตัวของยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” ที่ได้มีการปรับปรุงปิกอัพไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ รุ่นปี 2013 ที่นอกจากปรับเพิ่มรุ่นใหม่เป็นทางเลือกลูกค้ามากขึ้น พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแล้ว ยังได้มีการปรับเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร ในรุ่นเกียร์ธรรมดาที่เดิมจะมีกำลัง 163 แรงม้า มาตรฐานไอเสีย Euro 3 ปรับปรุงใหม่เป็น 171 แรงม้า เช่นเดียวกับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ และผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro Step 4
นี่น่าจะเป็นปรับปรุงขุมพลังครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะวางเครื่องยนต์ใหม่ที่จะเปิดตัวมาพร้อมกับโฉมใหม่ของโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ ซึ่งตามกระแสข่าวขุมกำลังใหม่จะมาแบบแรงสุดๆ จนมีรายงานว่าต้องรื้อช่วงล่างโมเดลใหม่อีกรอบ เพื่อให้สามารถรองรับกำลังที่มากขึ้นได้ โดยกำหนดแนะนำสู่ตลาดของโฉมใหม่ไฮลักซ์ วีโก้ อย่างเร็วน่าจะเป็นปลายปีหน้า หรือไม่เกินปี 2015 ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่โฉมใหม่ “มิตซูบิชิ ไทรทัน” และ “นิสสัน นาวารา” บุกตลาดเช่นกัน
แต่ที่น่าสนใจเห็นจะเป็นการปรับเครื่องยนต์คอมมอนเรลดูราแม็กซ์ (Duramax) ของปิกอัพ “เชฟโรเลต โคโลราโด” ที่ใช้เทคโนโลยีหัวฉีดใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยเดือนตุลาคมนี้ แต่เริ่มมีข่าวคราวหลุดออกมาจากสื่อออนไลน์ฝั่งอเมริกาใต้บ้างแล้ว เพราะเป็นประเทศที่พัฒนาปิกอัพเชฟโรเลต โคโลราโด และเป็นอีกฐานผลิตของจีเอ็มคู่กับไทย
จากรายงานข่าวเว็บไซต์ Autoblog ในอาร์เจนตินา ระบุว่า เจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็ม (GM) ในประเทศบราซิล เตรียมแนะนำปิกอัพ “เชฟโรเลต เอส10” (Chevrolet S10) หรือในไทยเรียกรุ่นโคโลราโด และรถอเนกประสงค์ “เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์” รุ่นประจำปี 2014 ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีเครื่องยนต์ใหม่ พร้อมกับระบบความปลอดภัย และอุปกรณ์มัลติมีเดีย Mylink ที่ทันสมัยมากขึ้น สำหรับปิกอัพโคโลราโด รุ่น LTZ
ทั้งนี้ ขุมพลัง Duramax 2.8 ลิตร เทอร์โบ ได้มีการปรับเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลใหม่ ด้วยการใช้ระบบหัวฉีดแบบใหม่ (จากรายงานข่าวของจีเอ็มในประเทศระบุเป็นหัวฉีดไฟฟ้า Piezo) ซึ่งมีแรงดันสูงถึง 2,000 บาร์ โดยผลิตกำลังจาก 180 แรงม้า เพิ่มเป็น 200 แรงม้า ที่รอบต่ำลง 3,600 รอบ/นาที จากเดิมจะอยู่ที่ 3,800 รอบ/นาที ขณะที่ 90% ของแรงบิดจะมาตั้งแต่ที่ 1,700 รอบ/นาที (รุ่นเดิมรุ่นเกียร์ธรรมดา 440 และเกียร์อัตโนมัติ 470 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ในข่าวระบบใหม่ไม่แจ้งแรงบิดสูงสุด แต่ตามกระแสข่าวในไทยอยู่ที่ 500 นิวตัน-เมตร)
แน่นอนด้วยสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากหัวฉีดคอมมอนเรลใหม่ ที่เปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้าเพียโซ (Piezo) ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีทันสมัยล่าสุดในปัจจุบัน ด้วยจุดเด่นที่หัวฉีดทำจากเซรามิก มีแรงดันสูง และการฉีดพ่นละอองน้ำมันละเอียด แม่นยำ และรวดเร็วกว่า ว่ากันว่ามากกว่าแบบเดิม “โซลินอยด์” ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน 4 เท่า หรือข้อมูลจากผู้ผลิตบางรายบอกมากถึง 10 เท่า ทำให้เกิดการเผาไหม้เชื้อเพลิงได้สมบูรณ์ดีกว่า รีดกำลังออกมาได้มากกว่า แต่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ และปล่อยมลพิษไอเสียน้อยลงด้วย
ปัจจุบัน ส่วนใหญ่ค่ายรถยังใช้หัวฉีดคอมมอนเรลแบบโซลินอยด์อยู่ มีที่นิยมใช้หัวฉีดเพียโซในเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ส่วนใหญ่จะเป็นค่ายรถยุโรปรายใหญ่ โดยปิกอัพในไทยขณะนี้ที่ใช้หัวฉีดไฟฟ้าเพียโซ จะมีฟอร์ด เรนเจอร์ และมาสด้า บีที-50 ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลร่วมกัน ซึ่งปิกอัพทั้ง 2 รุ่นแม้ขนาดเครื่องยนต์ดีเซลบล็อกเล็ก 2.2 ลิตร ยังให้กำลังสูง 150 แรงม้า ยิ่งในรุ่น 3.2 ลิตร เลี้ยงม้าไว้ในคอกถึง 200 ตัว แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที แต่เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ใหม่ในเชฟโรเลต โคโลราโด ที่ใช้หัวฉีดเพียโซเช่นเดียวกัน แต่บล็อกเล็กกว่าขนาด 2.8 ลิตร สามารถให้กำลังมากถึง 200 แรงม้า งานนี้ปิกอัพ และรถอเนกประสงค์พีพีวีสะเทือนไปตามๆ กันแน่
นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับเทรนด์การใช้เครื่องยนต์บล็อกเล็ก แต่มีพละกำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์บล็อกใหญ่ ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก โดยล่าสุด มีการเปิดเผยว่า “อีซูซุ” กำลังจะนำเครื่องยนต์ดีเซลไซส์เล็กบล็อกใหม่ขนาด 1,900 ซีซี เพื่อวางในปิกอัพ “อีซูซุ ดี-แมคซ์” ที่ขายอยู่ในเมืองไทย โดยคาดว่าน่าจะเปิดตัวในปี 2015
ข่าวชิ้นนี้ได้รับการเปิดเผยผ่านทางหนังสือพิมพ์ Nikkei ในญี่ปุ่น ซึ่งระบุว่าเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 1,900 ซีซี รุ่นใหม่ จะมีกำลังขับเคลื่อนใกล้เคียงกับรุ่น 2,500 ซีซี แต่ไม่มีการยืนยันว่าจะเข้ามาแทนที่ หรือว่าจะเป็นตัวช่วยเสริมในตลาด ส่วนที่มาของเครื่องยนต์บล็อกนี้ไม่มีการยืนยันว่าจะเป็นเครืองยนต์ที่ทางอีซูซุพัฒนาขึ้นมาเอง หรือเป็นผลผลิตจากโครงการความร่วมมือกับพันธมิตรเก่าอย่างจีเอ็ม (GM) ที่มีข่าวว่าอีซูซุรีเทิร์นจับมือกันพัฒนาเครื่องยนต์ สำหรับใช้กับปิกอัพราคาประหยัดที่จะเปิดตัวในอินเดีย ปี 2016
นอกจากนั้น ยังมีการเปิดเผยว่าการใช้เครื่องยนต์บล็อกเล็กลงจะมีส่วนช่วยทำให้ราคารถถูกลง เช่นเดียวกับความประหยัดน้ำมัน ซึ่งในปัจจุบันอีซูซุมียอดขายปิกอัพทั่วโลก 410,000 คัน ซึ่งสัดส่วน 65% ของยอดขายอยู่ที่ตลาดในอาเซียน และจากการเข้ามาของเครื่องยนต์บล็อกนี้ ทำให้อีซูซุเชื่อมั่นว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายได้อีก 20%
จากความเคลื่อนไหวของค่ายรถ จากนี้ไปใครที่ชื่นชอบรถเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล นอกจากจะมีทางเลือกกับขุมพลังที่แรงกว่าเดิม ยังให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำลง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย...