xs
xsm
sm
md
lg

ยอดขายปอร์เช่ครึ่งปีพุ่งทะลุเป้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวต่างประเทศ - ปอร์เช่ประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยยอดขายครึ่งปีแรกของปี 2013 ที่สูงเกินความคาดหมาย ยอดขายจากเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นอีก 4% เป็น 7.03 พันล้านยูโร ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน 3% เป็น 1.29 พันล้านยูโร และยอดการส่งมอบเพิ่มขึ้น 18% โดยมียอดการส่งมอบที่ 81,565 คัน

Lutz Meschke ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของปอร์เช่พึงพอใจกับผลลัพธ์นี้เป็นอย่างมากแม้ต้องอยู่ภายใต้ความกดดันจากสถานการณ์ของสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำในยุโรป และได้กล่าวไว้ว่า “ด้วยการเติบโตของยอดขายอย่างต่อเนื่องและการจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ เราจึงสามารถลงทุนได้อย่างมหาศาลในการพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ให้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ อาทิเช่น รถ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) และรถสปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) มากัน (Macan)” ซึ่ง Meschke อธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า “การผลิตมากัน (Macan) และ 918 สไปเดอร์ (918 Spyder) จะเริ่มต้นขึ้นในปีนี้ ถึงแม้ต้นทุนในการพัฒนาที่สูง จะยังไม่ได้รับการชดเชยจากยอดขายภายในปีนี้ แต่เราจะได้ยอดขายปี 2014 เมื่อรถรุ่นใหม่เหล่านี้เริ่มออกสู่ตลาด” แน่นอนว่าปอร์เช่ตั้งเป้าความสำเร็จของปี 2013 ไว้สูงกว่าปีก่อน

Matthias Müller ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของปอร์เช่ ได้กล่าวไว้ว่า “การเติบโตของยอดขาย หลักๆ แล้วมาจากความน่าหลงไหลของรถยนต์รุ่นต่างๆ ของเรา ซึ่งรถรุ่นใหม่ของเรานั้นได้รับการตอบรับจากลูกค้าและสื่อต่างๆ เป็นอย่างดี อีกทั้งยังคว้ารางวัลชนะเลิศจากสำนักวิจัยการตลาดชื่อดังของสหรัฐอเมอริกา J.D. Power มาครอบครองได้อีกด้วย” โดยปอร์เช่ได้รับรางวัลจาก J.D.Power 2 รางวัล นั่นคือรางวัลในเรื่องของคุณภาพ (“Initial Quality Study”) และรางวัลจากความน่าหลงใหล (“Automotive Performance, Execution and Layout Study”) ของรถยนต์รุ่นใหม่

ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของปอร์เช่ยังคงมองภาพตลาดช่วงครึ่งปีหลังของ 2013 ในทิศทางบวกและได้กล่าวไว้ว่า “เรามีรถรุ่นใหม่ที่โดดเด่นและพร้อมจะออกสู่ท้องถนนไม่ว่าจะเป็น 911 จีที3 (911 GT3), 911 เทอร์โบ (911 Turbo) และเทอร์โบ เอส (Turbo S) รวมถึง 911 รุ่นพิเศษเฉลิมฉลอง '50 Years 911'” ไม่เพียงเท่านี้ปอร์เช่เพิ่งทำการเปิดตัวพานาเมร่า (Panamera) เจเนอเรชั่นใหม่ รวมไปถึงรุ่นพานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid) “รถสปอร์ตที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ plug-in Hybrid คันแรกของตลาดพรีเมี่ยมรุ่นนี้จะกลายมาเป็นรุ่นที่พิสูจน์ให้เห็นถึงพละกำลังเครื่องยนต์ที่เหนือชั้นเกินความคาดหมายและสร้างให้แบรนด์ปอร์เช่ขึ้นไปเป็นผู้นำในเรื่องของเทคโนโลยีได้อย่างสมบูรณ์แบบ” Matthias Müller ได้กล่าวไว้ และยังมั่นใจด้วยว่าโรงงานผลิตรถสปอร์ตยอดนิยมอย่างปอร์เช่จะเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในตลาดที่สำคัญๆ อย่างตลาดสหรัฐอเมริกาและตลาดในประเทศจีน

ยอดการส่งมอบรถยนต์ในประเทศจีนเติบโตขึ้น 20% เป็น 18,223 คันในครึ่งปีแรกของปี 2013 ส่วนในตลาดของประเทศสหรัฐอเมริกานั้นเติบโตขึ้น 30% เป็น 21,309 คัน ส่วนยอดส่งมอบให้กับลูกค้าในตลาดยุโรปเพิ่มขึ้นอีก 2% เป็น 26,199 คัน แม้ว่าต้องตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ

หากพิจารณาตามแต่ละรุ่นจะเห็นว่ารุ่นบ็อกซเตอร์ (Boxster) และรุ่นเคย์แมน (Cayman) เจเนอเรชั่นใหม่ มีการเจริญเติบโตมากที่สุด โดยเติบโตขึ้น 186% เป็น 12,886 คัน (ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน 2013) สำหรับรุ่นที่ยังเป็นที่ต้องการและยอดนิยมที่สุดยังคงเป็นรุ่นคาเยนน์ (Cayenne) โดยมียอดส่งมอบถึง 42,354 คัน (เพิ่มขึ้น 22%) ส่วนรุ่น 911 มียอดส่งมอบที่ 15,834 คัน (เพิ่มขึ้น 10%) ส่วนรุ่นพานาเมร่า (Panamera) มียอดส่งมอบที่ตกลง 33% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2013 เนื่องจากพานาเมร่า (Panamera) เจเนอเรชั่นใหม่เพิ่งเริ่มต้นการขายในเดือนกรกฎาคม

กลยุทธ์การเจริญเติบโตของปอร์เช่ได้สะท้อนให้เห็นจากจำนวนของพนักงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน โดยปอร์เช่มีจำนวนพนักงานมากถึง 18,000 คน เป็นครั้งแรกภายในเดือนมิถุนายน 2013 โดยมีจำนวนพนักงานที่ 18,148 คนเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นยอดการเติบโตที่ 4% หากเทียบกับปลายปี 2012 โดยในช่วง 3 ปีหลังได้มีการเพิ่มพนักงานประมาณ 5,000 คนเลยทีเดียว


กำลังโหลดความคิดเห็น