หนุ่มหล่อหน้าใสที่กำลังมาแรง ณ ปัจจุบัน คงต้องยกให้กับ “เจมส์จิ” จิรายุ ตั้งศรีสุข แต่หากวัดเฉพาะผู้ชาย “ตัวดำ” ต้องเป็นเขาคนนี้… “บัวขาว บัญชาเมฆ” นักชกมวยไทยขวัญใจคนทั่วโลก ผู้ที่ผ่านความสำเร็จสูงสุดมามากมาย และแม้ยังจะต้องฝ่าช่วงมรสุมของชีวิตอยู่ แต่นักชกตัวดำคนนี้ยังคงได้รับกำลังใจ และเป็นที่ชื่นชอบจากแฟนๆ จนผลิตภัณฑ์หลายๆ ตัว ต่างวิ่งเข้าหาดึงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือไม่ก็ถูกรับเชิญออกงาน กลายเป็นเซเล็บที่มีงานเยอะอีกราย แต่นอกจากบทบาทเหล่านี้ บัวขาวยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ รวมถึงชีวิตบนคันเร่งของเขาด้วย….
ประวัติชีวิตและผลงานของบัวขาว คงจะได้รับทราบกันมาพอสมควร เพราะไม่เพียงนักชกจากแดนที่ราบสูงจังหวัดสุรินทร์คนนี้ จะได้รับการสัมภาษณ์จากสื่อมวลชน ยังมีแฟนคลับที่ติดตามและเผยแพร่เรื่องของเขา ผ่านช่องทางต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไง “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” ได้ขอให้บัวขาวบอกความเป็นตัวตนออกจากปากตนเอง เพื่อเป็นการเริ่มต้นของการสนทนา ในโอกาสที่มาเปิดตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับโฆษณาชุดล่าสุดของเขา
“ตามประสาของเด็กบ้านนอกครับ สมัยเด็กๆ ก็ซน วิ่งเล่น ว่ายน้ำ จับปลา หรือไม่ก็เล่นสนุกเตะต่อยกับเพื่อนๆ จนพอเห็นเพื่อนรุ่นพี่แถวบ้านเป็นนักมวย และได้ดูเขาชกรู้สึกชื่นชอบ เลยอยากจะเป็นนักมวยและไปซ้อมกับเขา ชีวิตนักมวยก็เริ่มตั้งแต่นั้น…”
นั่นคือเส้นทางนักชกของบัวขาว ซึ่งคงจะได้เห็นชีวิตจริงบนเส้นทางนักสู้ของเขา ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ในการก้าวมาสู่สังเวียนมวยไทย ก่อนจะมาเป็นนักชกชื่อดังระดับโลก โดยถูกถ่ายทอดสู่ภาพยนต์โฆษณาผลิตภัณฑ์เกลือแร่ตามทีวีไปกันแล้ว และเมื่อถามถึงตัวตนของเขาในปัจจุบัน ที่พอบอกได้ว่าก้าวสู่ความสำเร็จสูงสุดแล้ว สำหรับ ณ วันนี้เขาเปลี่ยนไปหรือไม่? และหน้าตาดุๆ กับนิสัยจริง จะเป็นอย่างนั่นด้วยหรือเปล่า?….
“ถ้าไม่ได้พูดคุยอาจจะรู้สึกอย่างนั้น แต่จริงๆ แล้วก็ยังเป็นคนสนุกสนาน และเป็นกันเอง ไม่ได้ดุเลย เคยเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น อย่างตอนนี้ผมมีโอกาสกลับมาอยู่บ้านที่สุรินทร์ มาเปิดค่ายมวยเล็กๆ (บัญชาเมฆ) ของตนเอง และได้ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ มีความสุขเสียอีก”
นอกจากการมายืนแท่นบริหารค่ายมวยตนเอง ล่าสุดยังก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยในวัย 31 ปี เรื่องนี้บัวขาวบอกว่า… “เป็นความตั้งใจมานาน เมื่อมีโอกาสและเวลาจึงกลับมาเรียนต่ออีกครั้ง โดยเลือกเรียนคณะบริหารธุรกิจ เพื่อที่จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการบริหารค่ายมวย และธุรกิจของตนในอนาคตได้ด้วย”
“ชีวิตตอนนี้ถือว่าดี คิดว่ามีความเหมาะสมและพอใจแล้ว ไม่ได้ต้องการอะไรมาก พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็พอ”
แม้บัวขาวจะรู้สึกว่าพอใจ ได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ และกลับไปใช้ชีวิตเรียบง่ายที่บ้านเกิด แต่จะว่าไปเขายังยืนอยู่บนเส้นทางของคนดัง เห็นได้จากสินค้าหลายๆ ตัว ยังคงติดต่อให้เขามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ อย่างล่าสุดกลุ่มสยามกลการที่ได้ดึงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นโช้คอัพคายาบา (KYB) และที่เพิ่งเปิดตัวไป “GS แบตเตอรี่” จึงถามถึงความรู้สึกกับสินค้าดังกล่าว…
“ภูมิใจมาก… เพราะรู้จักแบตเตอรี่ GS มานาน ยังเห็นเลยว่าแต่ก่อนมี โดม-ปกรณ์ ลัม และ เป้-อารักษ์เป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่ละคนหล่อขนาดไหน? คิดดูเมื่อเขาติดต่อผมมาให้โฆษณาสินค้าตัวเดียวกัน ผมจะคิดยังไง?...” บัวขาวพูดพร้อมกับหัวเราะ แสดงให้เห็นถึงความเป็นคนสนุกและอารมณ์ดี แถมยังหยอดคำหวานต่อว่า…
“ตัวแบตเตอรี่ GS เคยใช้อยู่แล้ว และรู้ประสิทธิภาพว่าดีจริง จึงตกลงทันที ไม่ต้องคิดอะไรมาก”
เห็นพูดเรื่องใช้และรู้เรื่องแบตเตอรี่ แสดงว่าเป็นคนชอบเรื่องยานยนต์มาก่อน จึงถามถึงความชื่นชอบต่อเรื่องนี้ ว่าจะต้องเป็นรถลุยๆ หรือแรงๆ เหมือนพลังหมัดของเขาหรือไม่?
“เราต้องมองความเป็นจริง เลือกรถยนต์ตามความเหมาะสม จะเอาไว้ทำอะไร ปิกอัพผมก็มีไว้ใช้บรรทุก แต่ถ้าใช้ขับไปไหนมาไหน ปัจจุบันผมใช้บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์5 ได้ลองขับแล้วชอบ ถูกใจ มันเหมาะกำลังดี และไม่ได้เกินไป เลยตัดสินใจเลือกรถรุ่นนี้”
นอกจากรถยนต์ที่บัวขาวเลือกตามความเหมาะสมแล้ว ในส่วนของรถสองล้อดูเหมือนจะเป็นสิ่งชื่นชอบของเขาเหมือนกัน เพราะล่าสุดบัวขาวได้ตัดสินใจถอยบิ๊กไบค์ “ดูคาติ” รุ่น Street fighter 848 ซึ่งนับว่าเหมาะกับเจ้าตัวทีเดียว เพียงแค่ชื่อก็บ่งบอกได้แล้ว และทราบมาว่าบัวขาวเอาจริงเอาจังถึงกับไปฝึกอบรมหลักสูตร Ducati Riding Experience หรือ DRE แบบตัวต่อตัว เพื่อเสริมทักษะการขับขี่บิ๊กไบค์ดูคาติในระดับเชี่ยวชาญเลยทีเดียว
แต่ถ้าจะดูฝีมือบนสังเวียนอันเชี่ยวกร่ำของเขาแล้ว…วันเสาร์ 10 สิงหาคมที่จะถึงนี้ บัวขาวจะกลับมาขึ้นเวทีชกจริง ในรายการ “แม็กซ์ เวิลด์ แชมเปี้ยน 2013” ที่เมืองเจิงโจว ประเทศจีน ขอชักชวนมาร่วมเป็นกำลังใจให้กับนักชกไทยคนนี้อีกครั้ง…
นี่แหละคือบางส่วนของตัวตน และวิถีเส้นทางแบบนักสู้ผู้ชายคนนี้ “บัวขาว” สมบัติ บัญชาเมฆ… ชีวิตที่เลือก และรถที่ “ใช่”
