ประเทศไทยนับเป็นศูนย์รวมงานแสดงรถยนต์มากที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะมีงานเล็กงานใหญ่จัดขึ้นแทบจะทุกๆ เดือน โดยรูปแบบของงานอาจจะแตกต่างกันไปบ้าง อย่างในช่วงเดือนกรกฎาคมทุกๆ ปี จะมีงานใหญ่ของกลุ่มรถนำเข้าและรถมือสอง Bangkok Imported Car & Used Car Show 2013 หรืองานมหกรรมยานยนต์นำเข้าและรถมือสอง ซึ่งปีนี้ต้องเจออีกงานจัดชนแบบเต็มๆ มาดูซิว่า… “จาตุรนต์ โกมลมิศร์” รองประธานอาวุโส บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในฐานะประธานการจัดงานฯ จะคิดเห็นและมองสถานการณ์ต่างๆ อย่างไร
งานมหกรรมยานนต์นำเข้าฯ และคอเนเซ็ปปีนี้
งานมหกรรมยานยนต์นำเข้าและรถมือสอง ครั้งที่ 5 หรือ The 5th Bangkok Imported Car & Used Car Show 2013 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 28 กรกฎาคม 2556 วันธรรมดาตั้งแต่ 11.00 - 21.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ 11.00 - 21.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 - 3 เมืองทองธานี โดยยังคงเปิดให้เข้าชมฟรีเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
โดยปีนี้ได้มีการนำรถซูเปอร์คาร์ระดับโลกหลากรุ่นหลายสไตล์ และรถมือสองคัดคุณภาพมาตรฐานสูง ถูกกฎหมาย การันตีไม่มีย้อมแมว มาร่วมงานกว่า 10,000 คัน ให้ผู้สนใจเข้าร่วมเลือกชมได้อย่างจุใจ โดยในงานนี้มีผู้จำหน่ายรถยนต์เข้าร่วมงานกว่า 40 ราย บนพื้นที่กว่า 40,000 ตร.ม. พร้อมให้เลือกช็อปอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์แบบครบครัน
ความพิเศษและกิจกรรมของงานเพิ่มเข้ามา
ปีนี้ได้มีการเพิ่มสีสันของงานขึ้นอีกหนึ่งกิจกรรม คือ “Grand Prix Bike Show 2013” ซึ่งจะเป็นการรวบรวมรถบิ๊กไบค์-ซูเปอร์ไบค์ และรถจักรยานเป็นครั้งแรกของเมืองไทย เพราะตลาดรถเหล่านี้กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่จะเน้นรถที่นำเข้าโดยผู้นำเข้าอิสระ หรือหากจะเป็นผู้แทนจำหน่ายสามารถมาจัดแสดงได้ เพียงแต่ไม่สามารถมากำหนดหรือห้ามผู้นำเข้าอิสระนำรถยี่ห้อนั้นๆ มาจำหน่าย หรือโชว์ภายในงานได้
ในส่วนแอคทิวิตี้ของงานในปีนี้ ได้ร่วมมือกับบริษัท มิลลิเนียม ออโต้ จำกัด และ บริษัท มินิ ไทยแลนด์ จำกัด จัดกิจกรรมแปรขบวนรถมินิ จำนวน 827 คัน เป็นตัวอักษรคำว่า “Long Live The Queen” ซึ่งถือว่าเป็นการรวบรวมรถมินิมากที่สุดในโลก และจะมีการเชิญทางกินเนสบุ๊คมาบันทึกเป็นสถิติโลกด้วย เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 85 พรรษา
สถานการณ์ของรถนำเข้าและรถมือสอง
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาตลาดชะลอตัวอย่างมาก อย่างรถมือสองได้รับผลกระทบจากโครงรถคันแรก และแคมเปญที่ค่ายรถจัดกันในตอนนี้ ขณะที่ตลาดรถนำเข้าสำเร็จรูป หรือรถจากผู้นำเข้าอิสระค่อนข้างซบเซามาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา หลังจากภาครัฐได้มีการออกเกณฑ์ระเบียบ ให้รถนำเข้าต้องตรวจสอบมาตรฐาน โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. แต่กลับไม่มีความชัดเจนเรื่องเกณฑ์การตรวจสอบ เครื่องมือไม่พร้อม และราคาค่าธรรมเนียมต่างๆ ทำให้ตอนนี้มีรถนำเข้าที่จอดอยู่ท่าเรือ ยังไม่ผ่านขั้นตอนการนำเข้าของศุลกากรนับหมื่นคันอยู่ตอนนี้
สาเหตุที่ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ตไม่นำเข้ามา เพราะปัญหาต่างๆ ที่กล่าวมา ซึ่งเรื่องตรวจสอบมาตรฐานไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก การตรวจสอบและราคาค่าธรรมเนียมต่างๆ เมื่อยังไม่ชัดเจนหากนำเข้ามา เขาก็ไม่รู้ต้นทุน หรือขายให้กับลูกค้าไม่ได้ ย่อมต้องเป็นภาระให้กับผู้นำเข้า ไม่ว่าจะเป็นต้นทุน ภาระดอกเบี้ย และอื่นๆ อีกมาก ซึ่งผู้นำเข้าอิสระเขาซื้อมาก็ต้องขายไปเป็นปกติของธุรกิจ ดังนั้นเขายินดีที่จะรับการตรวจสอบอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องชัดเจนและทำให้เขารู้ต้นทุนที่จะขายออกไป
ตอนนี้หลักเกณฑ์ออกมาแล้วย่อมส่งผลดี
กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมและได้ข้อสรุปชัดเจนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี่เองว่า โดยรถรุ่นเดียวกันและนำเข้ามาล็อตเดียวกัน ให้ทำการสุ่มมาตรวจสอบมาตรฐานเพียงคันเดียวของรุ่นนั้นๆ และราคาค่าธรรมเนียมการตรวจสอบได้มีการปรับลดลง อย่างรถเบนซินจากราคาประมาณกว่า 1.2 แสนบาท ได้ลดเหลือ 4.9 หมื่นบาท แต่แม้หลักเกณฑ์จะออกมาแล้ว ยังต้องรอการลงนามจากปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณอีก 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้ ตลาดรถนำเข้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศน่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง และเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่งาน Bangkok Imported Car & Used Car Show 2013 จัดขึ้นพอดี ทำให้ปีนี้น่าจะแข่งขันดุเดือดมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาและแคมเปญ เพราะผู้ประกอบการแต่ละรายอั้นกันมานาน และนี่อาจจะเป็นการอัดแคมเปญเฉพาะภายในงานเท่านั้น นี่จึงเป็นเหตุผลปีนี้ถึงใช้คอนเซ็ปต์ที่ว่า… “ไม่ซื้อ หมด อดได้”
ผลกระทบงานที่มีรูปแบบคล้ายๆ กันจัดชน
อีกงานจัดขึ้นเวลาเดียวกันเลย เพียงเขาจะเน้นรถใหม่ของบริษัทรถ ส่วนใหญ่จะเป็นรถตลาด และที่เหมือนกันเห็นจะเป็นรถมือสอง แต่บอกเลยว่าเราไม่กลัว และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปกลัว เพราะเราจัดมานานและประชาชนต่างรู้จักงานเป็นอย่างดี สิ่งสำคัญอยู่ที่ใครสายป่านจะยาวกว่ากัน กลุ่มกรังด์ปรีซ์ฯ จัดงานแสดงรถระดับนานาชาติมานาน จึงรู้ว่าไม่ใช่พอจัดแล้วจะมีกำไร อย่างงาน Bangkok Imported Car & Used Car Show 2013 ที่ผ่านมาก็ขาดทุนมาก่อน พอสถานการณ์เริ่มดีขึ้น สภาพตลาดกลับมาเป็นแบบนี้ จะเห็นผู้ประกอบการตอบรับจองพื้นที่เต็มหมด แต่เรื่องสัญญาค่าเช่าพื้นที่จนป่านนี้ยังคุยไม่จบกันเลย เนื่องจากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น ดังนั้นปีนี้น่าจะขาดทุนหรืออย่างเก่งก็กำไรนิดหน่อย
งานมหกรรมยานนต์นำเข้าฯ และคอเนเซ็ปปีนี้
งานมหกรรมยานยนต์นำเข้าและรถมือสอง ครั้งที่ 5 หรือ The 5th Bangkok Imported Car & Used Car Show 2013 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 28 กรกฎาคม 2556 วันธรรมดาตั้งแต่ 11.00 - 21.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ 11.00 - 21.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 - 3 เมืองทองธานี โดยยังคงเปิดให้เข้าชมฟรีเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
โดยปีนี้ได้มีการนำรถซูเปอร์คาร์ระดับโลกหลากรุ่นหลายสไตล์ และรถมือสองคัดคุณภาพมาตรฐานสูง ถูกกฎหมาย การันตีไม่มีย้อมแมว มาร่วมงานกว่า 10,000 คัน ให้ผู้สนใจเข้าร่วมเลือกชมได้อย่างจุใจ โดยในงานนี้มีผู้จำหน่ายรถยนต์เข้าร่วมงานกว่า 40 ราย บนพื้นที่กว่า 40,000 ตร.ม. พร้อมให้เลือกช็อปอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์แบบครบครัน
ความพิเศษและกิจกรรมของงานเพิ่มเข้ามา
ปีนี้ได้มีการเพิ่มสีสันของงานขึ้นอีกหนึ่งกิจกรรม คือ “Grand Prix Bike Show 2013” ซึ่งจะเป็นการรวบรวมรถบิ๊กไบค์-ซูเปอร์ไบค์ และรถจักรยานเป็นครั้งแรกของเมืองไทย เพราะตลาดรถเหล่านี้กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่จะเน้นรถที่นำเข้าโดยผู้นำเข้าอิสระ หรือหากจะเป็นผู้แทนจำหน่ายสามารถมาจัดแสดงได้ เพียงแต่ไม่สามารถมากำหนดหรือห้ามผู้นำเข้าอิสระนำรถยี่ห้อนั้นๆ มาจำหน่าย หรือโชว์ภายในงานได้
ในส่วนแอคทิวิตี้ของงานในปีนี้ ได้ร่วมมือกับบริษัท มิลลิเนียม ออโต้ จำกัด และ บริษัท มินิ ไทยแลนด์ จำกัด จัดกิจกรรมแปรขบวนรถมินิ จำนวน 827 คัน เป็นตัวอักษรคำว่า “Long Live The Queen” ซึ่งถือว่าเป็นการรวบรวมรถมินิมากที่สุดในโลก และจะมีการเชิญทางกินเนสบุ๊คมาบันทึกเป็นสถิติโลกด้วย เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 85 พรรษา
สถานการณ์ของรถนำเข้าและรถมือสอง
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาตลาดชะลอตัวอย่างมาก อย่างรถมือสองได้รับผลกระทบจากโครงรถคันแรก และแคมเปญที่ค่ายรถจัดกันในตอนนี้ ขณะที่ตลาดรถนำเข้าสำเร็จรูป หรือรถจากผู้นำเข้าอิสระค่อนข้างซบเซามาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา หลังจากภาครัฐได้มีการออกเกณฑ์ระเบียบ ให้รถนำเข้าต้องตรวจสอบมาตรฐาน โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. แต่กลับไม่มีความชัดเจนเรื่องเกณฑ์การตรวจสอบ เครื่องมือไม่พร้อม และราคาค่าธรรมเนียมต่างๆ ทำให้ตอนนี้มีรถนำเข้าที่จอดอยู่ท่าเรือ ยังไม่ผ่านขั้นตอนการนำเข้าของศุลกากรนับหมื่นคันอยู่ตอนนี้
สาเหตุที่ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ตไม่นำเข้ามา เพราะปัญหาต่างๆ ที่กล่าวมา ซึ่งเรื่องตรวจสอบมาตรฐานไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอก การตรวจสอบและราคาค่าธรรมเนียมต่างๆ เมื่อยังไม่ชัดเจนหากนำเข้ามา เขาก็ไม่รู้ต้นทุน หรือขายให้กับลูกค้าไม่ได้ ย่อมต้องเป็นภาระให้กับผู้นำเข้า ไม่ว่าจะเป็นต้นทุน ภาระดอกเบี้ย และอื่นๆ อีกมาก ซึ่งผู้นำเข้าอิสระเขาซื้อมาก็ต้องขายไปเป็นปกติของธุรกิจ ดังนั้นเขายินดีที่จะรับการตรวจสอบอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องชัดเจนและทำให้เขารู้ต้นทุนที่จะขายออกไป
ตอนนี้หลักเกณฑ์ออกมาแล้วย่อมส่งผลดี
กระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ประชุมและได้ข้อสรุปชัดเจนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี่เองว่า โดยรถรุ่นเดียวกันและนำเข้ามาล็อตเดียวกัน ให้ทำการสุ่มมาตรวจสอบมาตรฐานเพียงคันเดียวของรุ่นนั้นๆ และราคาค่าธรรมเนียมการตรวจสอบได้มีการปรับลดลง อย่างรถเบนซินจากราคาประมาณกว่า 1.2 แสนบาท ได้ลดเหลือ 4.9 หมื่นบาท แต่แม้หลักเกณฑ์จะออกมาแล้ว ยังต้องรอการลงนามจากปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณอีก 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้ ตลาดรถนำเข้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศน่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง และเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่งาน Bangkok Imported Car & Used Car Show 2013 จัดขึ้นพอดี ทำให้ปีนี้น่าจะแข่งขันดุเดือดมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาและแคมเปญ เพราะผู้ประกอบการแต่ละรายอั้นกันมานาน และนี่อาจจะเป็นการอัดแคมเปญเฉพาะภายในงานเท่านั้น นี่จึงเป็นเหตุผลปีนี้ถึงใช้คอนเซ็ปต์ที่ว่า… “ไม่ซื้อ หมด อดได้”
ผลกระทบงานที่มีรูปแบบคล้ายๆ กันจัดชน
อีกงานจัดขึ้นเวลาเดียวกันเลย เพียงเขาจะเน้นรถใหม่ของบริษัทรถ ส่วนใหญ่จะเป็นรถตลาด และที่เหมือนกันเห็นจะเป็นรถมือสอง แต่บอกเลยว่าเราไม่กลัว และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปกลัว เพราะเราจัดมานานและประชาชนต่างรู้จักงานเป็นอย่างดี สิ่งสำคัญอยู่ที่ใครสายป่านจะยาวกว่ากัน กลุ่มกรังด์ปรีซ์ฯ จัดงานแสดงรถระดับนานาชาติมานาน จึงรู้ว่าไม่ใช่พอจัดแล้วจะมีกำไร อย่างงาน Bangkok Imported Car & Used Car Show 2013 ที่ผ่านมาก็ขาดทุนมาก่อน พอสถานการณ์เริ่มดีขึ้น สภาพตลาดกลับมาเป็นแบบนี้ จะเห็นผู้ประกอบการตอบรับจองพื้นที่เต็มหมด แต่เรื่องสัญญาค่าเช่าพื้นที่จนป่านนี้ยังคุยไม่จบกันเลย เนื่องจากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น ดังนั้นปีนี้น่าจะขาดทุนหรืออย่างเก่งก็กำไรนิดหน่อย