เป็นข่าวคราวมานานกับแผนทำตลาดในไทย “มาสด้า ซีเอ็กซ์-5” รถยนต์ครอสโอเวอร์ ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคัน (SKYACTIV) นับเวลาปาเข้าไป 2 ปีแล้ว เพราะต้องผ่านหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นตัดสินใจเลือกขึ้นไลน์ประกอบ สุดท้ายจบที่มาเลเซีย และกว่าจะเข้ามาทำตลาดไทย ต้องรออีกจนถึงปลายปีนี้ เพราะมาสด้าตัดสินใจขอช้าอีกนิด เพื่อจัดหนักจัดเต็มชุดใหญ่ มาพร้อมครบทุกทางเลือกของเครื่องยนต์นั่นเอง...
นับจากวันนี้จะเหลือเวลาอีกเพียง 4 เดือน หรือประมาณช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 (Mazda CX-5) รถครอสโอเวอร์ หรือหากเรียกทั่วๆ ไปว่า รถเอสยูวี(SUV) ตามลักษณะรถที่คุ้นเคยของคนไทย จะได้ฤกษ์เปิดตัวสู่ตลาดไทยแน่นอน และคงจะได้เห็นการเริ่มปูพรมสร้างการรับรู้กันแล้ว ตั้งแต่นำคันโปรโตไทป์มาแสดงในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2013 และจัดกิจกรรมทำความเข้าใจเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ พร้อมให้สื่อมวลชนลองขับ “มาสด้า6” รถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีเช่นเดียวกับซีเอ็กซ์-5 เพื่อเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าใจ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
หลังจากนั้นเข้าสู่เดือนมิถุนายนนี้ ได้มีการขยับเตรียมความพร้อม ในส่วนของการขายเช่นกัน โดยบริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด ได้ส่งจดหมายถึงตัวแทนจำหน่าย หรือดีลเลอร์ทั่วประเทศ แจ้งราคาคร่าวๆ ของมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 วางไว้ที่ประมาณ 1.2-1.7 ล้านบาท สำหรับให้ดีลเลอร์ได้รับทราบเบื้องต้น เพื่อประกอบการตัดสินใจในการสั่งจองรถเข้าสู่สต็อค พร้อมทำตลาดในช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ รวมถึงเป็นการบริหารการผลิตรถในโรงงานด้วย
ทั้งนี้ตามรายงานข่าวมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ได้วางช่วงกรอบราคาคร่าวๆ ของมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 เสนอบริษัทแม่ โดยแยกเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 2 รุ่นย่อย ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1.19-1.35 ล้านบาท รุ่นเบนซิน 2.5 ลิตร ราคาอยู่ในช่วง 1.45-1.60 ล้านบาท และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ราคาไม่เกิน 1.7 ล้านบาท โดยราคาขายชัดเจนจะขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากบริษัทแม่อีกที
ในการทำตลาดของมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 แยกรุ่นย่อยออกเป็น 4 รุ่น คือเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ลิตร 154 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 195 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที และรุ่นท็อป SKYACTIV-G 2.0 ลิตร ซึ่งทั้งหมดขับเคลื่อน 2 ล้อ เช่นเดียวกับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.5 ลิตร 188 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที และสุดท้ายรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 2.2 ลิตร 173 แรงม้า 4,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ซึ่งทุกรุ่นระบบส่งกำลังเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
จากการวางขุมกำลังและรุ่นย่อย จะเห็นว่ามาสด้า ซีเอ็กซ์-5 มีทางเลือกมากกว่าคู่แข่งในตลาด(ดูจากตารางประกอบ) เพราะมีเครื่องยนต์เบนซิน 2 ขนาด ครอบคลุมคู่แข่งในตลาดทุกยี่ห้อ แม้จะไม่มีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อเหมือนคู่แข่ง เนื่องจากตลาดมีความต้องการไม่มากประมาณ 10-15% ของรุ่นเบนซินเท่านั้น และอีกทางเลือกกับเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งคู่แข่งในตลาดตรงๆ เห็นจะเป็นเชฟโรเลต แคปติวา แต่ซีเอ็กซ์-5จะมีขนาดเครื่องยนต์และกำลังมากกว่า ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองกลับเทียบเท่าอีโคคาร์ 20 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งเป็นโหมดทดสอบตามมาตรฐานยุโรป
แน่นอนจุดขายของมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ย่อมเป็นเทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคัน เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ที่ฉีดเชื้อเพลิงโดยตรงเขาห้องเผาไหม้ ซึ่งจะมีจุดเด่นในเรื่องน้ำหนักเบา อัตราส่วนกำลังอัดสูงสุด 14 : 1 แรงบิดเพิ่มขึ้น 15% ขณะเดียวกันลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน และลดการปล่อย CO2 ลงได้ 15% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เบนซิน MZR ขนาด 2.0 ลิตร
เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D ที่มีอัตราส่วนการอัดต่ำสุดเพียง 14 : 1 และช่วงการขยายตัวมากขึ้นแบบต่อเนื่องหลังการเผาไหม้ การสิ้นเปลืองน้ำมันจึงลดลง 20% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล MZR-CD ขนาด 2.2 ลิตรปัจจุบัน และเทอร์โบชาร์จเจอร์สองขั้น (Two-stage Turbocharge) ทำให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และต่อเนื่องตลอดช่วงความเร็วรอบ
ขณะที่เกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-AT แบบ 6 จังหวะ ได้รวมข้อดีของเกียร์ CVT และเกียร์คลัตช์แผ่นคู่ (Dual Clutch) รวมถึงเกียร์อัตโนมัติแบบดั่งเดิมเข้าไว้ด้วยกัน จึงให้การควบคุมแม่นยำ ตอบสนองรวดเร็วและราบเรียบ เร่งต่อเนื่อง และสนุกในการขับขี่ ไม่ว่าจะรองรับเครื่องยนต์ SKYACTIV-G หรือ D
นอกจากนี้เทคโนโลยสกายแอคทีฟ ยังถูกนำมาใช้กับโครงสร้างตัวถัง ซึ่งได้พัฒนาขึ้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการผลิต และใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูงในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น 30% แต่มีน้ำหนักลดลง 8% จึงมีความปลอดภัย และขับขี่ดีขึ้น รวมถึงได้สกายแอคทีฟ-แชสซี ที่รวมการควบคุมรถได้อย่างคล่องแคล่ว และมีเสถียรภาพ โดยคงความแข็งแกร่งและออกแบบให้น้ำหนักเบา อันเป็นหัวใจของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ
ในส่วนออปชันของมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ให้มาครบครันไม่แพ้คู่แข่งแล้ว ยังเด่นกว่ากับการใส่ให้ตั้งแต่รุ่นล่างๆ เลย โดยเฉพาะระบบความปลอดภัย ซึ่งแทบไม่ต่างจากมาสด้า3 รุ่น 2.0 ลิตร ยังเหนือกว่าอีกกับถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านนิรภัย ที่ส่วนใหญ่จะมีเฉพาะในรถยนต์หรูเท่านั้น รวมถึงระบบ i-Stop ที่ใส่มาในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล
นี่เป็นข้อมูลเบื้องต้นของ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-5” รถครอสโอเวอร์ ที่จะเข้ามาปลุกตลาดเอสยูวีในไทยให้คึกคักช่วงปลายปีนี้ ซึ่งแว่วว่าเพียงดีลเลอร์ได้รับจดหมาย และแจ้งให้กับลูกค้าที่สนใจทราบ ปรากฏว่ากระแสตอบรับดีมาก และมีลูกค้าขอจองเข้ามาแล้ว แม้จะยังไม่เปิดรับจองอย่างเป็นทางการก็ตาม...
นับจากวันนี้จะเหลือเวลาอีกเพียง 4 เดือน หรือประมาณช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 (Mazda CX-5) รถครอสโอเวอร์ หรือหากเรียกทั่วๆ ไปว่า รถเอสยูวี(SUV) ตามลักษณะรถที่คุ้นเคยของคนไทย จะได้ฤกษ์เปิดตัวสู่ตลาดไทยแน่นอน และคงจะได้เห็นการเริ่มปูพรมสร้างการรับรู้กันแล้ว ตั้งแต่นำคันโปรโตไทป์มาแสดงในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2013 และจัดกิจกรรมทำความเข้าใจเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ พร้อมให้สื่อมวลชนลองขับ “มาสด้า6” รถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีเช่นเดียวกับซีเอ็กซ์-5 เพื่อเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ ให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าใจ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
หลังจากนั้นเข้าสู่เดือนมิถุนายนนี้ ได้มีการขยับเตรียมความพร้อม ในส่วนของการขายเช่นกัน โดยบริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด ได้ส่งจดหมายถึงตัวแทนจำหน่าย หรือดีลเลอร์ทั่วประเทศ แจ้งราคาคร่าวๆ ของมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 วางไว้ที่ประมาณ 1.2-1.7 ล้านบาท สำหรับให้ดีลเลอร์ได้รับทราบเบื้องต้น เพื่อประกอบการตัดสินใจในการสั่งจองรถเข้าสู่สต็อค พร้อมทำตลาดในช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ รวมถึงเป็นการบริหารการผลิตรถในโรงงานด้วย
ทั้งนี้ตามรายงานข่าวมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ได้วางช่วงกรอบราคาคร่าวๆ ของมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 เสนอบริษัทแม่ โดยแยกเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 2 รุ่นย่อย ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1.19-1.35 ล้านบาท รุ่นเบนซิน 2.5 ลิตร ราคาอยู่ในช่วง 1.45-1.60 ล้านบาท และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ราคาไม่เกิน 1.7 ล้านบาท โดยราคาขายชัดเจนจะขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากบริษัทแม่อีกที
ในการทำตลาดของมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 แยกรุ่นย่อยออกเป็น 4 รุ่น คือเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ลิตร 154 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 195 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที และรุ่นท็อป SKYACTIV-G 2.0 ลิตร ซึ่งทั้งหมดขับเคลื่อน 2 ล้อ เช่นเดียวกับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.5 ลิตร 188 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที และสุดท้ายรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 2.2 ลิตร 173 แรงม้า 4,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ซึ่งทุกรุ่นระบบส่งกำลังเป็นแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
จากการวางขุมกำลังและรุ่นย่อย จะเห็นว่ามาสด้า ซีเอ็กซ์-5 มีทางเลือกมากกว่าคู่แข่งในตลาด(ดูจากตารางประกอบ) เพราะมีเครื่องยนต์เบนซิน 2 ขนาด ครอบคลุมคู่แข่งในตลาดทุกยี่ห้อ แม้จะไม่มีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อเหมือนคู่แข่ง เนื่องจากตลาดมีความต้องการไม่มากประมาณ 10-15% ของรุ่นเบนซินเท่านั้น และอีกทางเลือกกับเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งคู่แข่งในตลาดตรงๆ เห็นจะเป็นเชฟโรเลต แคปติวา แต่ซีเอ็กซ์-5จะมีขนาดเครื่องยนต์และกำลังมากกว่า ขณะที่อัตราสิ้นเปลืองกลับเทียบเท่าอีโคคาร์ 20 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งเป็นโหมดทดสอบตามมาตรฐานยุโรป
แน่นอนจุดขายของมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ย่อมเป็นเทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคัน เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ที่ฉีดเชื้อเพลิงโดยตรงเขาห้องเผาไหม้ ซึ่งจะมีจุดเด่นในเรื่องน้ำหนักเบา อัตราส่วนกำลังอัดสูงสุด 14 : 1 แรงบิดเพิ่มขึ้น 15% ขณะเดียวกันลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน และลดการปล่อย CO2 ลงได้ 15% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เบนซิน MZR ขนาด 2.0 ลิตร
เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D ที่มีอัตราส่วนการอัดต่ำสุดเพียง 14 : 1 และช่วงการขยายตัวมากขึ้นแบบต่อเนื่องหลังการเผาไหม้ การสิ้นเปลืองน้ำมันจึงลดลง 20% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล MZR-CD ขนาด 2.2 ลิตรปัจจุบัน และเทอร์โบชาร์จเจอร์สองขั้น (Two-stage Turbocharge) ทำให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และต่อเนื่องตลอดช่วงความเร็วรอบ
ขณะที่เกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-AT แบบ 6 จังหวะ ได้รวมข้อดีของเกียร์ CVT และเกียร์คลัตช์แผ่นคู่ (Dual Clutch) รวมถึงเกียร์อัตโนมัติแบบดั่งเดิมเข้าไว้ด้วยกัน จึงให้การควบคุมแม่นยำ ตอบสนองรวดเร็วและราบเรียบ เร่งต่อเนื่อง และสนุกในการขับขี่ ไม่ว่าจะรองรับเครื่องยนต์ SKYACTIV-G หรือ D
นอกจากนี้เทคโนโลยสกายแอคทีฟ ยังถูกนำมาใช้กับโครงสร้างตัวถัง ซึ่งได้พัฒนาขึ้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการผลิต และใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูงในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น 30% แต่มีน้ำหนักลดลง 8% จึงมีความปลอดภัย และขับขี่ดีขึ้น รวมถึงได้สกายแอคทีฟ-แชสซี ที่รวมการควบคุมรถได้อย่างคล่องแคล่ว และมีเสถียรภาพ โดยคงความแข็งแกร่งและออกแบบให้น้ำหนักเบา อันเป็นหัวใจของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ
ในส่วนออปชันของมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ให้มาครบครันไม่แพ้คู่แข่งแล้ว ยังเด่นกว่ากับการใส่ให้ตั้งแต่รุ่นล่างๆ เลย โดยเฉพาะระบบความปลอดภัย ซึ่งแทบไม่ต่างจากมาสด้า3 รุ่น 2.0 ลิตร ยังเหนือกว่าอีกกับถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านนิรภัย ที่ส่วนใหญ่จะมีเฉพาะในรถยนต์หรูเท่านั้น รวมถึงระบบ i-Stop ที่ใส่มาในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล
นี่เป็นข้อมูลเบื้องต้นของ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-5” รถครอสโอเวอร์ ที่จะเข้ามาปลุกตลาดเอสยูวีในไทยให้คึกคักช่วงปลายปีนี้ ซึ่งแว่วว่าเพียงดีลเลอร์ได้รับจดหมาย และแจ้งให้กับลูกค้าที่สนใจทราบ ปรากฏว่ากระแสตอบรับดีมาก และมีลูกค้าขอจองเข้ามาแล้ว แม้จะยังไม่เปิดรับจองอย่างเป็นทางการก็ตาม...
