ข่าวในประเทศ - “มาสด้า” ประกาศความสำเร็จ “มาสด้า2” วิ่งบนถนนเมืองไทยกว่าแสนคัน เพื่อฉลองโอกาสพิเศษจึงจัดแคมเปญมอบให้กับผู้ชื่นชอบรถมาสด้าทุกรุ่น บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 15,000 บาท แพ็คค่าบำรุงรักษาฟรีนาน 1 ปี ประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี และขับก่อนผ่อนที่หลังนาน 3 เดือน ขณะที่ผู้ทดลองขับรับฟรีคูปองแทนเงินสดช็อปเทสโก้ โลตัสฟรี 200 บาท
นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า การเปิดตัวรถยนต์นั่งมาสด้า2 สปอร์ตแฮตช์แบค 5 ประตู เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552 รวมถึงต่อมารุ่นซีดาน 4 ประตู และประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว มียอดขายเกิน 100,000 คัน โดยแบ่งออกเป็นรุ่นสปอร์ต แฮตช์แบค 5 ประตู จำนวน 48,145 คัน (47%) และรุ่นเอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู จำนวน 55,417 คัน (53%)
โดยปัจจัยพื้นฐานสำคัญของความสำเร็จของมาสด้า2 ในประเทศไทย มาจากความไว้วางใจของลูกค้า และความกล้าของแบรนด์ที่จะนำเสนอสิ่งแปลกใหม่เข้าสู่ จนแม้กระทั่งอยู่ท่ามกลางกระแสของรถเล็กอื่นๆ รวมถึงอีโค่คาร์ สมรรถนะเฉพาะตัวของเครื่องยนต์ 1500 ซีซี. และความเป็นรถที่มีทั้งกำลังและความคล่องตัวสูง ขับสนุกไม่ว่าจะใช้ในเมืองหรือนอกเมือง ประกอบกับรูปลักษณ์ดีไซน์ที่โดดเด่น และอุปกรณ์ที่ทันสมัย อาทิ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ระบบความปลอดภัยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรกเอบีเอส ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว รวมถึงการคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวทางการการตลาดแบบไม่ซ้ำใคร นำมาสด้า2 เข้าตลาดด้วยกลยุทธ์เรื่องสีของรถ ให้เป็นความแข็งแกร่งที่นำไปสู่ความเป็นตัวของตัวเอง มีความชัดเจนและกล้าแสดงออก ซึ่งก็คือตัวแทนของบุคลิกคนรุ่นใหม่นั่นเอง ประกอบกับการแนะนำรถเข้าสู่ตลาดในช่วงเวลาที่เหมาะสม ใช้กลยุทธ์สร้างความต่าง สร้างบุคลิกให้แก่ตัวรถ ไม่ใช่การตลาดแบบเดิมๆ ที่เคยมีมา
นอกจากนี้การแต่งตั้งพรีเซนเตอร์อินดี้อย่าง เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ และสปอร์ตเท่อย่าง ณเดช คูกิมิยะ มาตอกย้ำให้ตำแหน่งของมาสด้า2 ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่งให้รถยนต์มาสด้า2 ก่อเกิดกระแสฟีเวอร์อย่างรวดเร็ว แต่สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดคุณภาพและประสิทธิภาพของรถยนต์มาสด้า2 นั้นไม่ได้เป็นสองรองใคร กลับมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์รวมถึงบุคลิกที่เข้ากับกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
โดยรถยนต์นั่งมาสด้า2 เข้าตลาดในปีแรกก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ยอดขายพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2553 มียอดขายสูงถึง 22,534 คัน และสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดของรถยนต์นั่งขนาดเล็กได้ถึง 14% และในปีต่อมา 2554 เติบโตแบบก้าวกระโดดมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นถึง 27,714 คัน และสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเป็น 16% และในปีที่ผ่านมามาสด้า2 ทะยานขึ้นไปสูงถึง 39,577 คัน และครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 14% นี่คือความสำเร็จที่มาสด้า2 ได้สร้างสถิติไว้อย่างงดงาม
ดังนั้นเพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จของมาสด้า2 ได้รับความนิยมมาโดยตลอดจนผ่านยอดขาย 100,000 คันไปแล้ว มาสด้าจึงมอบข้อเสนอพิเศษกว่าทุกครั้ง และมาสด้าทุกรุ่นยังได้ร่วมมอบข้อเสนอด้วยเช่นกัน ลูกค้าจะได้รับแพ็คเก็จใหญ่ฟรีทันทีที่ออกรถ ได้แก่ บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 15,000 บาท แพ็คค่าบำรุงรักษา ฟรีนาน 1 ปี ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และสิทธิพิเศษขับก่อนผ่อนที่หลังนาน 3 เดือน พิเศษสุดสำหรับผู้สนใจทดลองขับสมรรถนะ ซูม-ซูม ของรถมาสด้าทุกรุ่น หลังขับรับทันทีคูปองแทนเงินสดใช้ช้อปฟรี 200 บาทที่เทสโก้ โลตัส
นอกจากนี้การมอบแพ็คเกจใหญ่ให้แก่ลูกค้ามาสด้าทุกรุ่นแล้ว ยังมีข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติมสำหรับรถปิกอัพ มาสด้า บีที-50 โปรใหม่ และรถยนต์มาสด้า3 เพียงนำรถคันเก่ามาเปลี่ยนเป็นรถมาสด้าคันใหม่รับเงินเพิ่มทันทีอีก 10,000 บาท ทุกข้อเสนอมีให้ถึง 31 พฤษภาคมนี้เท่านั้น
นายโชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า การเปิดตัวรถยนต์นั่งมาสด้า2 สปอร์ตแฮตช์แบค 5 ประตู เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2552 รวมถึงต่อมารุ่นซีดาน 4 ประตู และประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว มียอดขายเกิน 100,000 คัน โดยแบ่งออกเป็นรุ่นสปอร์ต แฮตช์แบค 5 ประตู จำนวน 48,145 คัน (47%) และรุ่นเอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู จำนวน 55,417 คัน (53%)
โดยปัจจัยพื้นฐานสำคัญของความสำเร็จของมาสด้า2 ในประเทศไทย มาจากความไว้วางใจของลูกค้า และความกล้าของแบรนด์ที่จะนำเสนอสิ่งแปลกใหม่เข้าสู่ จนแม้กระทั่งอยู่ท่ามกลางกระแสของรถเล็กอื่นๆ รวมถึงอีโค่คาร์ สมรรถนะเฉพาะตัวของเครื่องยนต์ 1500 ซีซี. และความเป็นรถที่มีทั้งกำลังและความคล่องตัวสูง ขับสนุกไม่ว่าจะใช้ในเมืองหรือนอกเมือง ประกอบกับรูปลักษณ์ดีไซน์ที่โดดเด่น และอุปกรณ์ที่ทันสมัย อาทิ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ระบบความปลอดภัยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรกเอบีเอส ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว รวมถึงการคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวทางการการตลาดแบบไม่ซ้ำใคร นำมาสด้า2 เข้าตลาดด้วยกลยุทธ์เรื่องสีของรถ ให้เป็นความแข็งแกร่งที่นำไปสู่ความเป็นตัวของตัวเอง มีความชัดเจนและกล้าแสดงออก ซึ่งก็คือตัวแทนของบุคลิกคนรุ่นใหม่นั่นเอง ประกอบกับการแนะนำรถเข้าสู่ตลาดในช่วงเวลาที่เหมาะสม ใช้กลยุทธ์สร้างความต่าง สร้างบุคลิกให้แก่ตัวรถ ไม่ใช่การตลาดแบบเดิมๆ ที่เคยมีมา
นอกจากนี้การแต่งตั้งพรีเซนเตอร์อินดี้อย่าง เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ และสปอร์ตเท่อย่าง ณเดช คูกิมิยะ มาตอกย้ำให้ตำแหน่งของมาสด้า2 ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่งให้รถยนต์มาสด้า2 ก่อเกิดกระแสฟีเวอร์อย่างรวดเร็ว แต่สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดคุณภาพและประสิทธิภาพของรถยนต์มาสด้า2 นั้นไม่ได้เป็นสองรองใคร กลับมีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์รวมถึงบุคลิกที่เข้ากับกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
โดยรถยนต์นั่งมาสด้า2 เข้าตลาดในปีแรกก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ยอดขายพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2553 มียอดขายสูงถึง 22,534 คัน และสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดของรถยนต์นั่งขนาดเล็กได้ถึง 14% และในปีต่อมา 2554 เติบโตแบบก้าวกระโดดมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นถึง 27,714 คัน และสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเป็น 16% และในปีที่ผ่านมามาสด้า2 ทะยานขึ้นไปสูงถึง 39,577 คัน และครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 14% นี่คือความสำเร็จที่มาสด้า2 ได้สร้างสถิติไว้อย่างงดงาม
ดังนั้นเพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จของมาสด้า2 ได้รับความนิยมมาโดยตลอดจนผ่านยอดขาย 100,000 คันไปแล้ว มาสด้าจึงมอบข้อเสนอพิเศษกว่าทุกครั้ง และมาสด้าทุกรุ่นยังได้ร่วมมอบข้อเสนอด้วยเช่นกัน ลูกค้าจะได้รับแพ็คเก็จใหญ่ฟรีทันทีที่ออกรถ ได้แก่ บัตรเติมน้ำมันมูลค่า 15,000 บาท แพ็คค่าบำรุงรักษา ฟรีนาน 1 ปี ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และสิทธิพิเศษขับก่อนผ่อนที่หลังนาน 3 เดือน พิเศษสุดสำหรับผู้สนใจทดลองขับสมรรถนะ ซูม-ซูม ของรถมาสด้าทุกรุ่น หลังขับรับทันทีคูปองแทนเงินสดใช้ช้อปฟรี 200 บาทที่เทสโก้ โลตัส
นอกจากนี้การมอบแพ็คเกจใหญ่ให้แก่ลูกค้ามาสด้าทุกรุ่นแล้ว ยังมีข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติมสำหรับรถปิกอัพ มาสด้า บีที-50 โปรใหม่ และรถยนต์มาสด้า3 เพียงนำรถคันเก่ามาเปลี่ยนเป็นรถมาสด้าคันใหม่รับเงินเพิ่มทันทีอีก 10,000 บาท ทุกข้อเสนอมีให้ถึง 31 พฤษภาคมนี้เท่านั้น
