ช่วงหลายปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า รถยนต์รุ่นหนึ่งที่ได้รับการจับตาอย่างมาก ตั้งแต่ยังไม่เป็นตัวตน จนกระทั่งมันเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในตลาดโลก รวมถึงตลาดไทยที่มาไวไปไวราวกับให้เปล่า คงไม่มีใครไม่พูดถึงเจ้าตำนานที่กลับมาอีกครั้งในเรือนร่างใหม่ ที่กึกก้องด้วยชื่อในสมญานามว่า Toyota GT 86
ชื่อ 86 ถือว่าเป็นตำนานตั้งแต่เมื่อช่วงปี 1960 ที่มีความพยายามในการสร้างรถที่ลงตัวในทุกๆ ด้านและมันเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เมื่อ Toyota มีการผลิตรถยนต์วางจำหน่ายในปี 1986 และด้วยสมรรถนะที่เปี่ยมล้นมากับเครื่องยนต์ที่วางใจได้ รวมถึงการที่มันเป็นรถยนต์ที่นักแข่งชื่อดังมากมายเลือกใช้ในการแข่งขัน รวมถึงเป็นจุดกำเนิดจนทำให้ชื่ออย่าง Keiichi Tsuchiya ดริฟท์คิงคนแรกของญี่ปุ่นประสบความสำเร็จขึ้นมา
ไปจนถึงการถูกนำมาพันผูกกับเรื่องรางของวงการรถยนต์ที่ถ่ายทอดออกมารูปแบบการ์ตูนที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงใน Initial D ทำให้ Toyota 86 เป็นรถยนต์ที่มีเรื่องราวมามากมายให้ความสำเร็จเกินคาด จนมีการยอมรับว่า มันคือหนึ่งในรถสปอร์ตที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งที่เคยผลิตขึ้นมาวางจำหน่ายจากค่ายรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น
ตำนานแห่งที่สุดของที่สุด ส่งให้รถรุ่นใหม่ไม่ใช่เพียงแต่เป็นรถสปอร์ต แต่มันยังต้องดีที่สุดด้วยความตั้งใจจริงในการนำตำนานกลับหวนคืนถนน จึงเป็นจุดกำเนิดใหม่ของ Toyota GT 86 ที่ให้ความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น โดยพร้อมกันนั้น ยังต้องเป็นรถที่มีเสน่ห์ในการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ที่ลงตัวผสานกับสมรรถนะของตัวรถที่ทำให้โลดแล่นได้อย่างมั่นใจ ในการขับขี่
ในการแข่งขัน Race of Champion ที่ผ่านมาหมาดๆ Toyota GT 86 เป็นรถยนต์ที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น Toyota อย่างมาก ตั้งแต่ที่มันเริ่มเป็นประจักษ์ในสายตาของใครที่ผ่านไปผ่านมาที่บูธ Toyota ก็ต้องเข้ามาจับจ้องเจ้าสปอร์ตคาร์ ที่มากับความงามในเรือนร่างตั้งแต่หน้าจรดบั้นท้ายไปจนถึงบั้นท้าย ให้ความงามสง่าในแบบสปอร์ตคูเป้ 2+2 ที่ภายในห้องโดยสารให้อารมณ์สปอร์ต สีโทนดำแดงตัดกันเร้าใจมากขึ้นด้วย
การแข่งขัน Race of champion นี้ถือเป็นการแข่งขันแถวหน้าของนักขับระดับโลกที่รวบเอาแชมป์ มารวมกันอวดทักษะการขับขี่ ที่จำเป็นต้องใช้รถที่ดีในการแข่งขัน และ Toyota GT 86 ก็เป็นหนึ่งในรถที่ได้รับการคัดสรรให้ผ่านมือนักขับมากมายที่พร้อมโชว์ฝีมือกันแบบถึงกึ๋น
งานนี้เริ่มต้นก่อนเริ่มการข่งขัน “คุณกีกี้” ศักดิ์ นานา นักดริฟท์ระดับโลกแถวหน้าของคนไทยขอเริ่มต้นด้วยการโชว์ลีลาเร้าใจในการ Drift รอบสนามแข่งที่จัดทำขึ้นมาในสนามราชมังคลากีฬาสถาน เรียกความครึกครื้นให้กับผู้ชม ด้วยเสียงเครื่องยนต์ในความสปอร์ตที่กึกก้องทั่วสเตเดียมรวมถึงลีลา ที่ทำให้เห็นว่า สมรรถนะของ Toyota GT 86 โดยเฉพาะระบบช่วงล่าง หน้าที่มาพร้อมระบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลังแบบปีกนกอิสระ 2 ชั้น พร้อมเหล็กกันโคลง ก็มีดีไม่แพ้รถสปอร์ตชั้นนำจากค่ายรถยนต์ยุโรป จนกีกี้สามารถวาดลีลาควันยาวเรียกเสียงเกรียวกราวได้ทั้งสนาม กับลีลาเร้าใจของรถสปอร์ตจากโตโยต้า
แล้วต่อเนื่องด้วย การแข่งขันที่เร้าใจกับศึก Race Of Champion ที่งานนี้ มีนักขับมากหน้าหลายตามาผลัดกันขับ Toyota GT 86 และระหว่างการแข่งขัน Toyota GT86 ที่นำมาใช้ในการแข่งขัน ก็แสดงศักยภาพที่ไม่ได้เป็นรองใครในการขับขี่ ด้วยการควบคุมที่ง่ายผ่านระบบช่วงล่างที่เซทมาอย่างดี ทำให้เรือนร่างสปอร์ตพริ้วไหว อยู่ในอาณัติทุกรอบสนาม
ไปพร้อมกับสมรรถนะของเครื่องยนต์ บ็อกเซอร์ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า เร่งได้ถึง 7000 รอบต่อนาที สามารถแผดเสียงผ่านท่อไอเสียเร่งความเร็วอย่างทันใจทุกวินาที และยังสามารถปั่นฝีเท้าผ่านล้อด้วยแรงบิด 205 นิวตันเมตร สูงสุดที่ 6400 รอบต่อนาที ซึ่งด้วยความใกล้เคียงระหว่างแรงม้าและแรงบิดก็ทำให้รถคันพุ่งทะยานรวดเร็ว ยิ่งมาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ก็ให้ความลงตัวต่อความสปอร์ตที่พกมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งเมื่อบวกกับฝีมือนักขับแถวหน้าระดับโลก นี่คือรถสปอร์ตที่มีความลงตัวมากในจิตวิญญาณ
แม้การแข่งขัน Race of Champion จะจบลงไปแล้ว แต่การแข่งขันที่ผ่านมา ก็เป็นบทพิสูจน์หนึ่งที่สำคัญของรถสปอร์ตจากญี่ปุ่น Toyota GT 86 ที่มีดีกรีร้อนแรงในความสปอร์ตที่เปี่ยมล้นในจิตวิญญาณ และนี่คืออีกเพชรเม็ดงามที่ประดับบนมงกุฎของค่ายรถยนต์ยอดนิยมของคนไทย Toyota ที่แสดงให้เห็นว่า ศักยภาพและสมรรถนะที่ลงตัวเป็นสูตรสำเร็จของรถสปอร์ตที่สมบูรณ์แบบ
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)
ชื่อ 86 ถือว่าเป็นตำนานตั้งแต่เมื่อช่วงปี 1960 ที่มีความพยายามในการสร้างรถที่ลงตัวในทุกๆ ด้านและมันเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เมื่อ Toyota มีการผลิตรถยนต์วางจำหน่ายในปี 1986 และด้วยสมรรถนะที่เปี่ยมล้นมากับเครื่องยนต์ที่วางใจได้ รวมถึงการที่มันเป็นรถยนต์ที่นักแข่งชื่อดังมากมายเลือกใช้ในการแข่งขัน รวมถึงเป็นจุดกำเนิดจนทำให้ชื่ออย่าง Keiichi Tsuchiya ดริฟท์คิงคนแรกของญี่ปุ่นประสบความสำเร็จขึ้นมา
ไปจนถึงการถูกนำมาพันผูกกับเรื่องรางของวงการรถยนต์ที่ถ่ายทอดออกมารูปแบบการ์ตูนที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงใน Initial D ทำให้ Toyota 86 เป็นรถยนต์ที่มีเรื่องราวมามากมายให้ความสำเร็จเกินคาด จนมีการยอมรับว่า มันคือหนึ่งในรถสปอร์ตที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งที่เคยผลิตขึ้นมาวางจำหน่ายจากค่ายรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น
ตำนานแห่งที่สุดของที่สุด ส่งให้รถรุ่นใหม่ไม่ใช่เพียงแต่เป็นรถสปอร์ต แต่มันยังต้องดีที่สุดด้วยความตั้งใจจริงในการนำตำนานกลับหวนคืนถนน จึงเป็นจุดกำเนิดใหม่ของ Toyota GT 86 ที่ให้ความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น โดยพร้อมกันนั้น ยังต้องเป็นรถที่มีเสน่ห์ในการขับขี่ ด้วยเครื่องยนต์ที่ลงตัวผสานกับสมรรถนะของตัวรถที่ทำให้โลดแล่นได้อย่างมั่นใจ ในการขับขี่
ในการแข่งขัน Race of Champion ที่ผ่านมาหมาดๆ Toyota GT 86 เป็นรถยนต์ที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น Toyota อย่างมาก ตั้งแต่ที่มันเริ่มเป็นประจักษ์ในสายตาของใครที่ผ่านไปผ่านมาที่บูธ Toyota ก็ต้องเข้ามาจับจ้องเจ้าสปอร์ตคาร์ ที่มากับความงามในเรือนร่างตั้งแต่หน้าจรดบั้นท้ายไปจนถึงบั้นท้าย ให้ความงามสง่าในแบบสปอร์ตคูเป้ 2+2 ที่ภายในห้องโดยสารให้อารมณ์สปอร์ต สีโทนดำแดงตัดกันเร้าใจมากขึ้นด้วย
การแข่งขัน Race of champion นี้ถือเป็นการแข่งขันแถวหน้าของนักขับระดับโลกที่รวบเอาแชมป์ มารวมกันอวดทักษะการขับขี่ ที่จำเป็นต้องใช้รถที่ดีในการแข่งขัน และ Toyota GT 86 ก็เป็นหนึ่งในรถที่ได้รับการคัดสรรให้ผ่านมือนักขับมากมายที่พร้อมโชว์ฝีมือกันแบบถึงกึ๋น
งานนี้เริ่มต้นก่อนเริ่มการข่งขัน “คุณกีกี้” ศักดิ์ นานา นักดริฟท์ระดับโลกแถวหน้าของคนไทยขอเริ่มต้นด้วยการโชว์ลีลาเร้าใจในการ Drift รอบสนามแข่งที่จัดทำขึ้นมาในสนามราชมังคลากีฬาสถาน เรียกความครึกครื้นให้กับผู้ชม ด้วยเสียงเครื่องยนต์ในความสปอร์ตที่กึกก้องทั่วสเตเดียมรวมถึงลีลา ที่ทำให้เห็นว่า สมรรถนะของ Toyota GT 86 โดยเฉพาะระบบช่วงล่าง หน้าที่มาพร้อมระบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลังแบบปีกนกอิสระ 2 ชั้น พร้อมเหล็กกันโคลง ก็มีดีไม่แพ้รถสปอร์ตชั้นนำจากค่ายรถยนต์ยุโรป จนกีกี้สามารถวาดลีลาควันยาวเรียกเสียงเกรียวกราวได้ทั้งสนาม กับลีลาเร้าใจของรถสปอร์ตจากโตโยต้า
แล้วต่อเนื่องด้วย การแข่งขันที่เร้าใจกับศึก Race Of Champion ที่งานนี้ มีนักขับมากหน้าหลายตามาผลัดกันขับ Toyota GT 86 และระหว่างการแข่งขัน Toyota GT86 ที่นำมาใช้ในการแข่งขัน ก็แสดงศักยภาพที่ไม่ได้เป็นรองใครในการขับขี่ ด้วยการควบคุมที่ง่ายผ่านระบบช่วงล่างที่เซทมาอย่างดี ทำให้เรือนร่างสปอร์ตพริ้วไหว อยู่ในอาณัติทุกรอบสนาม
ไปพร้อมกับสมรรถนะของเครื่องยนต์ บ็อกเซอร์ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า เร่งได้ถึง 7000 รอบต่อนาที สามารถแผดเสียงผ่านท่อไอเสียเร่งความเร็วอย่างทันใจทุกวินาที และยังสามารถปั่นฝีเท้าผ่านล้อด้วยแรงบิด 205 นิวตันเมตร สูงสุดที่ 6400 รอบต่อนาที ซึ่งด้วยความใกล้เคียงระหว่างแรงม้าและแรงบิดก็ทำให้รถคันพุ่งทะยานรวดเร็ว ยิ่งมาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ก็ให้ความลงตัวต่อความสปอร์ตที่พกมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งเมื่อบวกกับฝีมือนักขับแถวหน้าระดับโลก นี่คือรถสปอร์ตที่มีความลงตัวมากในจิตวิญญาณ
แม้การแข่งขัน Race of Champion จะจบลงไปแล้ว แต่การแข่งขันที่ผ่านมา ก็เป็นบทพิสูจน์หนึ่งที่สำคัญของรถสปอร์ตจากญี่ปุ่น Toyota GT 86 ที่มีดีกรีร้อนแรงในความสปอร์ตที่เปี่ยมล้นในจิตวิญญาณ และนี่คืออีกเพชรเม็ดงามที่ประดับบนมงกุฎของค่ายรถยนต์ยอดนิยมของคนไทย Toyota ที่แสดงให้เห็นว่า ศักยภาพและสมรรถนะที่ลงตัวเป็นสูตรสำเร็จของรถสปอร์ตที่สมบูรณ์แบบ
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)
