ข่าวในประเทศ-กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ พร้อมด้วยสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสถาบันยานยนต์ ประกาศความสำเร็จของอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยการผลิตมากกว่า 2 ล้านคันต่อปีเป็นครั้งแรก เพิ่มความมั่นใจนักลงทุน พร้อมตั้งเป้าการผลิต 3 ล้านคันในปี 2560
พยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งด้วยแรงสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนที่ร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทั้งระบบ โดยภาครัฐเป็นผู้กำหนดนโยบาย และภาคเอกชนเป็นผู้ดำเนินการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล จนประสบความสำเร็จในการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ 1 ใน 10 ของโลก
“ปี 2555 นับว่าเป็นปีทองของอุตสาหกรรมยานยนต์ สามารถผลิตได้มากกว่า 2 ล้านคัน และมียอดการส่งออกยานยนต์ทั้งระบบรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท เป็นอันดับหนึ่งของการส่งออก โดยมีโปรดักส์แชมเปี้ยน คือ รถปิกอัพ และอีโคคาร์ รวมถึงการส่งออกชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ไปยังทั่วโลก จากแนวโน้มดังกล่าว อุตสาหกรรมยานยนต์มั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าการผลิตมากกว่า 3 ล้านคันในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีมูลค่าคิดเป็น 10% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (GDP) คาดว่าในปีนี้จะเป็นฐานการผลิตที่มีกำลังการผลิตสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก มียอดการส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนเป็นอันดับที่ 6 ของโลก โดยคาดว่าในปี 2555 จะมียอดการส่งออกสูงกว่า 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นยอดการส่งออกรถยนต์กว่า 1 ล้านคัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท และยอดส่งออกชิ้นส่วนอีกกว่า 4 แสนล้านบาท นับว่าเป็นอุตสาหกรรมที่นำเงินตราเข้าประเทศเป็นอันดับหนึ่ง ตลอดจนสร้างอุตสาหกรรมต่อเนื่องในประเทศ ปัจจุบัน ประเทศไทยมีโรงงานผลิตยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องรวมกว่า 2,500 แห่ง และในปี 2555 นี้ เฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน มียอดขอส่งเสริมการลงทุนสูงถึง 202,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95% จากปีก่อน
ด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้ประกอบการยานยนต์และชิ้นส่วนต่างลงทุนสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาขึ้นในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีจำนวนไม่น้อยกว่า 9 แห่ง ก่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและการจัดการอุตสาหกรรม ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสามารถพัฒนามาตรฐานการผลิตและคุณภาพทัดเทียมประเทศผู้ผลิตชั้นนำของโลกภายใต้แบรนด์ Made in Thailand
ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมยานยนต์มีบทบาทสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคม สร้างงานสร้างอาชีพ มุ่งมั่นพัฒนาฝีมือแรงงานซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของกำลังการผลิต นอกจากนี้ ยังมีส่วนในการพัฒนาคมนาคมขนส่ง ช่วยกระจายความเจริญไปสู่ชุมชนต่างๆ สำหรับบทบาททางด้านสิ่งแวดล้อมนั้น อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นธุรกิจแถวหน้าที่มีความตื่นตัวด้านการรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม เริ่มจากการผลิตผลิตภัณฑ์ยานยนต์และชิ้นส่วนได้มาตรฐาน Euro และ Emissions ระดับสากล ทั้งยังพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันจะมีการจัดงานฉลองความสำเร็จ “2 ล้านคันของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย มิติใหม่สู่ความสำเร็จระดับโลก”ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี โดยนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เกียรติเป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการถ่ายทอดความเป็นมา 50 ปีของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และก้าวต่อไปของยานยนต์ไทยสู่เวทีโลก เพื่อให้คนไทยได้รับรู้ถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 ณ บริเวณหน้าห้อง Challenger Hall เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2555
พยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งด้วยแรงสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนที่ร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมทั้งระบบ โดยภาครัฐเป็นผู้กำหนดนโยบาย และภาคเอกชนเป็นผู้ดำเนินการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล จนประสบความสำเร็จในการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ 1 ใน 10 ของโลก
“ปี 2555 นับว่าเป็นปีทองของอุตสาหกรรมยานยนต์ สามารถผลิตได้มากกว่า 2 ล้านคัน และมียอดการส่งออกยานยนต์ทั้งระบบรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท เป็นอันดับหนึ่งของการส่งออก โดยมีโปรดักส์แชมเปี้ยน คือ รถปิกอัพ และอีโคคาร์ รวมถึงการส่งออกชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ไปยังทั่วโลก จากแนวโน้มดังกล่าว อุตสาหกรรมยานยนต์มั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าการผลิตมากกว่า 3 ล้านคันในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีมูลค่าคิดเป็น 10% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (GDP) คาดว่าในปีนี้จะเป็นฐานการผลิตที่มีกำลังการผลิตสูงติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก มียอดการส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนเป็นอันดับที่ 6 ของโลก โดยคาดว่าในปี 2555 จะมียอดการส่งออกสูงกว่า 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นยอดการส่งออกรถยนต์กว่า 1 ล้านคัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท และยอดส่งออกชิ้นส่วนอีกกว่า 4 แสนล้านบาท นับว่าเป็นอุตสาหกรรมที่นำเงินตราเข้าประเทศเป็นอันดับหนึ่ง ตลอดจนสร้างอุตสาหกรรมต่อเนื่องในประเทศ ปัจจุบัน ประเทศไทยมีโรงงานผลิตยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่องรวมกว่า 2,500 แห่ง และในปี 2555 นี้ เฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน มียอดขอส่งเสริมการลงทุนสูงถึง 202,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95% จากปีก่อน
ด้านเทคโนโลยี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ ผู้ประกอบการยานยนต์และชิ้นส่วนต่างลงทุนสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาขึ้นในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีจำนวนไม่น้อยกว่า 9 แห่ง ก่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและการจัดการอุตสาหกรรม ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสามารถพัฒนามาตรฐานการผลิตและคุณภาพทัดเทียมประเทศผู้ผลิตชั้นนำของโลกภายใต้แบรนด์ Made in Thailand
ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมยานยนต์มีบทบาทสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคม สร้างงานสร้างอาชีพ มุ่งมั่นพัฒนาฝีมือแรงงานซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของกำลังการผลิต นอกจากนี้ ยังมีส่วนในการพัฒนาคมนาคมขนส่ง ช่วยกระจายความเจริญไปสู่ชุมชนต่างๆ สำหรับบทบาททางด้านสิ่งแวดล้อมนั้น อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นธุรกิจแถวหน้าที่มีความตื่นตัวด้านการรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม เริ่มจากการผลิตผลิตภัณฑ์ยานยนต์และชิ้นส่วนได้มาตรฐาน Euro และ Emissions ระดับสากล ทั้งยังพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันจะมีการจัดงานฉลองความสำเร็จ “2 ล้านคันของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย มิติใหม่สู่ความสำเร็จระดับโลก”ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี โดยนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เกียรติเป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ นอกจากนี้ ยังมีการจัดนิทรรศการถ่ายทอดความเป็นมา 50 ปีของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และก้าวต่อไปของยานยนต์ไทยสู่เวทีโลก เพื่อให้คนไทยได้รับรู้ถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 ณ บริเวณหน้าห้อง Challenger Hall เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2555