อีตั้น อิมพอร์ด เปิดตัว “เอสติมา ไมเนอร์เชนจ์” ทั้งด้านหน้า - ด้านท้าย -ภายใน เอาใจลูกค้าที่ชื่นชอบรถเอนกประสงค์ สำหรับงานนี้มีให้เลือก 2 รุ่น ทั้ง 240 Aeras และ 240G สนนราคาตัวแรก 3.19 ล้านบาท และ 3.29 ล้านบาท
บริษัท อีตั้น อิมพอร์ด นำเข้ารถ เอสติมา ไมเนอร์เชนจ์ มาจำหน่าย โดยในรุ่น 240 Aeras มีการปรับดีไซน์กระจังหน้า ไฟหน้าและกันชนให้มีรูปทรงที่โฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม ด้วยการเปลี่ยนขยายช่องรับอากาศที่ใหญ่ขึ้น เพิ่มความขรึมและหรูหราให้ไฟหน้าโครมดำ พร้อมกับปรับดีไซน์ของล้อแม๊กซ์และยางเป็นขนาด 225/50 R18 ส่วนด้านหลังมีการปรับเปลี่ยนโคมไฟจากสีแดงเป็นโคมไฟใสในสไตล์เดียวกับรุ่น Hybrid ส่วนรุ่น 240G ถูกปรับโฉมในส่วนท้ายของรถโดยใช้ดีไซน์ของสีเพื่อความกลมกลืน เช่นที่มือจับประตูด้านหลังถูกออกแบบมาเป็นสีเดียวกับตัวรถ เพื่อความเรียบแต่ดูหรูหรา ขณะที่เอกลักษณ์ของการดีไซน์ยังเป็นหลังคามูนรูฟคู่ทั้งห้องผู้ขับขี่และห้องโดยสาร
ภายในห้องโดยสารที่สะดุดตาอย่างแรกเห็นจะเป็นลายไม้เพราะมีการเปลี่ยนจากสีเหลืองมาเป็นสีเข้มคลาสสิก ขณะเดียวกันมีการเปลี่ยนโทนสีและชนิดของวัสดุตกแต่งภายในเป็นโทนดำ ให้ความรู้สึกเรียบง่าย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นสปอร์ตอย่างชัดเจน นอกจากนี้พื้นที่ใช้สอยยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันพร้อมอุปกรณ์ภายในห้อง เริ่มจากพวงมาลัยหุ้มด้วยหนังแท้แบบ 4 ก้าน ทำงานในระบบมัลติฟังก์ชั่นช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานของระบบเครื่องเสียง-โทรศัพท์ติดรถยนต์เพิ่มได้ด้วย เบาะ3 แถวหลังสามารถปรับด้วยระบบไฟฟ้าเพื่อการพับเก็บตามความต้องการใช้สอย ที่สำคัญมีระบบ NANOe เป็นการลดกระจายของฝุ่นในห้องโดยสาร
เครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นมาพร้อม2.4 ลิตร เหมือนรุ่นเดิม ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที /แรงบิดสูงสุดที่ 224 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ Super CVT-I 7 สปีค อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 12.4 กิโลเมตรต่อลิตร ระบบกันสะเทือนหน้า-หลัง เป็นแบบอิสระด้วยระบบ แม๊คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบเทอร์ชั่นบีบคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง
สนนราคาของรุ่น 240 G 3.29 ล้านบาท ส่วนรุ่น 240 Aeras ราคา 3.19 ล้านบาท