ข่าวต่างประเทศ - แม้ว่าฮอนด้ายังไม่มีแผนส่งซีวิคใหม่เข้าไปขายในตลาดญี่ปุ่น แต่มีการยืนยันอย่างแน่นอน ว่ารหัส Type R ของฮอนด้า ซีวิคจะไม่มีการสูญหายจากตลาดแน่นอน เพียงแต่อาจจะต้องปรับตัวสักนิด เพราะจะมีขายเฉพาะตัวถังแฮทช์แบ็คที่เป็นเวอร์ชันยุโรปเท่านั้น
ข่าวนี้ได้รับการยืนยันผ่านทางถ้อยแถลงของ ทาคาโนบุ อีโต้ ซีอีโอของฮอนด้า มอเตอร์ ซึ่งได้กล่าวถึงรถยนต์ใหม่ของฮอนด้าที่จะมีการเปิดตัวทำตลาดนับตั้งแต่ปี 2013-2015 โดย Type R ของซีวิคจะถูกปรับเปลี่ยนบทบาทให้เป็นรหัสที่สำหรับใช้ในการเจาะตลาดรถยนต์ในกลุ่ม Hot Hatch หรือแฮทช์แบ็คตัวแรง เพื่อขายในตลาดยุโรป
นอกจากนั้น นายอีโต้ยังบอกว่า Type R ใหม่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา และในตอนนี้มีการนำออกแล่นทดสอบเพื่อสร้างสถิติ โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะต้องเป็นรถยนต์แบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่เร็วที่สุด ในการแล่นทำสถิติที่สนามนูร์บูร์กริงฝั่งเหนือ ซึ่งมีระยะทางกว่า 21 กิโลเมตร
ฮอนด้าเปิดตัวซีวิค Type R รุ่นแรกเมื่อปี 1997 โดยได้รับการพัฒนาบนตัวถังของรุ่น 3 ประตู และเป็นเวอร์ชัน JDM ที่มีขายอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่นเท่านั้น จากนั้นเมื่อถึงรุ่นที่ 2 Type R ของซีวิคก็มีการเปลี่ยนแปลง โดยฮอนด้าหันมาสนใจในการผลักดันให้โปรเจ็กต์นี้เจาะตลาด Hot Hatch ของยุโรป จึงเปิดตัวที่นี่เป็นแห่งแรก โดยใช้ตัวถังรุ่น 3 ประตู และจากนั้นก็มีการส่งไปขายในญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน
สำหรับรุ่นที่ 4 ของ Type R มีการแยกตลาดอย่างชัดเจน เมื่อฮอนด้าแยกฝั่งในการพัฒนา โดยตลาดญี่ปุ่นและตลาดบางแห่งจะขายโดยใช้ตัวถัง 4 ประตูของรุ่น FD ขณะที่ในยุโรปและตลาดบางแห่ง เช่น สิงคโปร์ และออสเตรเลีย จะใช้ตัวถัง 3 ประตูของซีวิค เวอร์ชันยุโรป ส่วนสหรัฐอเมริกาจะขายในชื่อ Si โดยมีทั้งตัวถังซีดาน และคูเป้ นอกจากนั้นฮอนด้ายังส่งซีวิค Type R เวอร์ชันยุโรปเข้าไปขายในญี่ปุ่นอีกด้วยโดยใช้ชื่อ Type R Euro
ในซีวิคใหม่ที่ใช้รหัส FB จากการที่ฮอนด้ายังไม่มีแผนส่งเข้าไปขายในญี่ปุ่น ทำให้เกิดความกังวลว่ารหัส Type R ของซีวิคอาจจะสูญพันธุ์ไปด้วย แต่สุดท้ายแล้วฮอนด้าก็ยืนยันถึงแผนการนี้ และตรงนี้ทำให้เกิดความเชื่อว่า แม้ในญี่ปุ่นจะไม่มีซีวิคตัวถังธรรมดาขาย แต่ฮอนด้าอาจจะส่งซีวิค Type R เวอร์ชันยุโรปเข้าไปทำตลาดเหมือนกับรุ่นที่แล้วก็ได้
ข่าวนี้ได้รับการยืนยันผ่านทางถ้อยแถลงของ ทาคาโนบุ อีโต้ ซีอีโอของฮอนด้า มอเตอร์ ซึ่งได้กล่าวถึงรถยนต์ใหม่ของฮอนด้าที่จะมีการเปิดตัวทำตลาดนับตั้งแต่ปี 2013-2015 โดย Type R ของซีวิคจะถูกปรับเปลี่ยนบทบาทให้เป็นรหัสที่สำหรับใช้ในการเจาะตลาดรถยนต์ในกลุ่ม Hot Hatch หรือแฮทช์แบ็คตัวแรง เพื่อขายในตลาดยุโรป
นอกจากนั้น นายอีโต้ยังบอกว่า Type R ใหม่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา และในตอนนี้มีการนำออกแล่นทดสอบเพื่อสร้างสถิติ โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะต้องเป็นรถยนต์แบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่เร็วที่สุด ในการแล่นทำสถิติที่สนามนูร์บูร์กริงฝั่งเหนือ ซึ่งมีระยะทางกว่า 21 กิโลเมตร
ฮอนด้าเปิดตัวซีวิค Type R รุ่นแรกเมื่อปี 1997 โดยได้รับการพัฒนาบนตัวถังของรุ่น 3 ประตู และเป็นเวอร์ชัน JDM ที่มีขายอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่นเท่านั้น จากนั้นเมื่อถึงรุ่นที่ 2 Type R ของซีวิคก็มีการเปลี่ยนแปลง โดยฮอนด้าหันมาสนใจในการผลักดันให้โปรเจ็กต์นี้เจาะตลาด Hot Hatch ของยุโรป จึงเปิดตัวที่นี่เป็นแห่งแรก โดยใช้ตัวถังรุ่น 3 ประตู และจากนั้นก็มีการส่งไปขายในญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน
สำหรับรุ่นที่ 4 ของ Type R มีการแยกตลาดอย่างชัดเจน เมื่อฮอนด้าแยกฝั่งในการพัฒนา โดยตลาดญี่ปุ่นและตลาดบางแห่งจะขายโดยใช้ตัวถัง 4 ประตูของรุ่น FD ขณะที่ในยุโรปและตลาดบางแห่ง เช่น สิงคโปร์ และออสเตรเลีย จะใช้ตัวถัง 3 ประตูของซีวิค เวอร์ชันยุโรป ส่วนสหรัฐอเมริกาจะขายในชื่อ Si โดยมีทั้งตัวถังซีดาน และคูเป้ นอกจากนั้นฮอนด้ายังส่งซีวิค Type R เวอร์ชันยุโรปเข้าไปขายในญี่ปุ่นอีกด้วยโดยใช้ชื่อ Type R Euro
ในซีวิคใหม่ที่ใช้รหัส FB จากการที่ฮอนด้ายังไม่มีแผนส่งเข้าไปขายในญี่ปุ่น ทำให้เกิดความกังวลว่ารหัส Type R ของซีวิคอาจจะสูญพันธุ์ไปด้วย แต่สุดท้ายแล้วฮอนด้าก็ยืนยันถึงแผนการนี้ และตรงนี้ทำให้เกิดความเชื่อว่า แม้ในญี่ปุ่นจะไม่มีซีวิคตัวถังธรรมดาขาย แต่ฮอนด้าอาจจะส่งซีวิค Type R เวอร์ชันยุโรปเข้าไปทำตลาดเหมือนกับรุ่นที่แล้วก็ได้