ข่าวในประเทศ - ตลาดเก๋งซับคอมแพ็กต์ปัจจุบัน แม้จะถูกอีโคคาร์แย่งยอดขายไปบ้าง แต่ยังถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก และยังคงเป็นรถตัวธงเช่นเดิม โดยเฉพาะค่ายรถที่ทำตลาดอยู่แล้ว ต่างมีการขยับปรับเกมสู้ศึก รักษายอดขายกันอย่างเหนียวแน่น เช่นเดียวกับค่ายเชฟโรเลตที่ปัจจุบันมีรถรุ่น “อาวีโอ” แต่กำลังจะตกรุ่นในเร็วๆ นี้ จึงได้เตรียมทีเด็ด “เชฟโรเลต โซนิค” ที่จะมาทำตลาดรุ่นอาวีโอ ไว้แก้เกมแล้วเช่นกัน...
“ตลาดรถขนาดเล็กในปัจจุบัน มีทั้งรถราคาถูก และรถซับคอมแพกต์ ซึ่งรถทั้งสองแบบมีความแตกต่างกัน ความสำเร็จของโซนิคในประเทศที่ออกจำหน่ายแล้วนั้น สะท้อนได้อย่างชัดเจนว่าเชฟโรเลต ได้หลีกเลี่ยงการสร้างสรรค์โซนิคผ่านแนวคิดของรถที่มีราคาย่อมเยา”
นั่นเป็นคำกล่าวของ “อันโตนิโอ ซาร่า” รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมกับยืนยันว่า เชฟโรเลต โซนิค จะเปิดตัวทำตลาดในไทยแน่นอนในช่วงไตรมาสสามของปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นนอทช์แบ็กซีดาน 4 ประตู หรือแฮทช์แบ็ก 5 ประตู
“เชฟโรเลต โซนิค มอบความเป็นรถที่แท้จริงให้กับลูกค้า สามารถขับออกไปพบปะเพื่อนฝูง และจอดอยู่หน้าคลับบาร์ได้โดยไม่ต้องลังเล โดยโซนิคได้รับการพัฒนามา เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในเมือง ด้วยความตั้งใจเต็มที่ในการออกแบบภายนอกและภายในห้องโดยสาร ซึ่งเปี่ยมด้วยความสะดวกสบาย และอัดแน่นด้วยคุณภาพ โซนิคจะเป็นรถคันแรกที่คุณต้องการจะครอบครอง” อันโตนิโอ ซาร่ากล่าว
นั่นคือแนวคิดในการออกแบบ เชฟโรเลต โซนิค และกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเชฟโรเลตได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า โซนิค เป็นรถซับคอมแพกต์ที่มีความกว้างขวาง แต่มีขนาดตัวถังที่ไม่ใหญ่โตจนเกินไป พร้อมรองรับการใช้งานได้หลากหลายด้วยรูปลักษณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ มุ่งตอบโจทย์ลูกค้าที่กำลังมองหาเอกลักษณ์ใหม่ที่ไม่เหมือนกับรถทั่วไป
โดยรูปลักษณ์ด้านหน้าสะดุดตา กับกระจังสองชั้นดูอัลพอร์ท มีลวดลายคล้ายรังผึ้งเอกลักษณ์เฉพาะของเชฟโรเลต ขณะที่กรอบไฟหน้าแบบเปิด ซึ่งถ่ายทอดเอกลักษณ์มาจากมอเตอร์ไซค์สมรรถนะสูง และซุ้มล้อที่โฉบเฉี่ยวเสริมให้ตัวรถดูคล่องแคล่ว ปราดเปรียว และกระตุ้นความรู้สึกสนุกในการขับขี่ การออกแบบช่วงล้อของโซนิค ยังเน้นให้มีความกว้างและแบนสไตล์รถสปอร์ต ทำให้โซนิคดูสปอร์ตโดดเด่นชัดเจน
อย่างไรก็ตาม เชฟโรเลตยังไม่เปิดเผยกำหนดเปิดตัวที่ชัดเจน รวมถึงขุมพลัง ระบบขับเคลื่อน และรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆ แต่มีรายงานข่าวจากเชฟโรเลต เซลส์ ในประเทศไทย ระบุว่าจะมีการเปิดตัวทำตลาด เชฟโรเลต โซนิค ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ และจะเริ่มส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป
ทั้งนี้เบื้องต้นจะเปิดตัวเฉพาะรุ่นซีดาน 4 ประตู ด้วยการเปิดราคาขายอย่างเป็นทางการ แต่จะมีการนำรุ่นแฮ็ทช์แบ็กมาเผยโฉมด้วย ซึ่งจะเริ่มขายหลังจากเปิดตัวรุ่นซีดานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่จะเปิดให้ผู้บริโภคที่สนใจจองไว้ก่อนได้ เนื่องจากมาจากกระบวนการผลิตของโรงงานที่สลับกัน
ในส่วนขุมพลังชัดเจนแล้วว่า จะเปิดตัวทำตลาดเฉพาะรุ่น 1.4 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ใหม่ แต่ไม่มีเทอร์โบชาร์จและเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร อย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด เนื่องจากเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็ม และเชฟโรเลต เซลส์ ในประเทศไม่มีแผนมาแต่ต้น ซึ่งจะแตกต่างจากในต่างประเทศ ที่มีเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร และเทอร์โบชาร์จ 1.4 ลิตร 138 แรงม้า
ขณะที่ราคาจำหน่ายยังไม่สรุป ซึ่งจะเริ่มประมาณ 5 แสนบาทต้นๆ และสูงสุดไม่เกิน 7 แสนบาท อยู่ในระดับเดียวกับคู่แข่งเก๋งซับคอมแพ็กต์ โดยมีรุ่นย่อยทำตลาดแบ่งออกเป็น 3 คลาส เป็นรุ่นต่ำสุด LS และรุ่นกลาง LT มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ ส่วนรุ่นสุดท้าย LTZ มากับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
ส่วนคู่แข่งในตลาดได้มีการขยับตัวกันไปแล้ว อย่างมาสด้าที่ได้มีการแนะนำ “มาสด้า2” เวอร์ชั่นประจำปี 2012 สู่ตลาดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวรถ ทั้งเรื่องของดีไซน์ทั้งภายในและภายนอก ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าฮาโลเจน แบบ 4-Beam โปรเจคเตอร์ ล้ออัลลอยด์สปอร์ตลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว และไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง
ภายในมาตรวัดดีไซน์ใหม่สีดำสปอร์ต เบาะลายใหม่และแผงประตูหุ้มหนัง วิทยุ/ซีดี/เอ็มพี3 พร้อมตกแต่งด้วยสีดำเปียโนแบล็ก แผงสวิตช์ควบคุมที่พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ ช่องเชื่อมต่อ USB/AUX มาพร้อมกับเฉดสีใหม่ สีฟ้าอควาติกบลู และสีขาวอาร์คติกไวท์ มีให้เลือกทั้งสปอร์ตแฮชต์แบ็ค 5 ประตู และเอลิแกนซ์ซีดาน 4 ประตู ซึ่งมาพร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรก 4W-ABS และรับกระจายแรงเบรก EBD ในทุกรุ่น โดยมีราคาเริ่มต้น 5.50-7.05 แสนบาท
ด้านยักษ์ใหญ่โตโยต้าได้มีปรับโฉม วีออส เวอร์ชั่นปี 2012 เช่นกัน โดยได้มีการเปลี่ยนกระจังหน้าเป็นโครเมียม, ไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ และล้ออัลลอย (ยกเว้นในรุ่น J A/T (ABS), J Standard A/T และ J Standard M/T) ใหม่ ซึ่งมาแนบรมดำ Smoked Chrome เช่นเดียวกับคิ้วฝากระโปรงท้ายสีเดียวกับตัวรถ พร้อมแถบโครเมียมรมดำ (เฉพาะในรุ่น G Limited และ G A/T) ฝาครอบไฟตัดหมอกรมดำ (เฉพาะในรุ่น G Limited และ G A/T) ราคาเริ่มต้น 5.20-7.20 แสนบาท
นอกจากนี้ยังได้มีการออกรุ่นตกแต่งพิเศษ โตโยต้า วีออส TRD Sportivo และรุ่นฉลองโตโยต้าในไทย 50 ปีด้วย ด้านโตโยต้า ยาริส ได้มีการเปิดเวอร์ชั่นปีนี้ออกมาเช่นกัน ด้วยดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยวทั้งภายในและภายนอก พร้อมแนะนำรถรุ่น RS เกียร์อัตโนมัติใหม่ โดยมีราคา 5.44-7.34 แสนบาท
ฝากค่ายฟอร์ดได้มีการแนะนำ ฟอร์ด เฟียสต้า 1.5 ลิตร Ti-VCT 109 แรงม้า ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบ็ก 5 ประตู มาทำตลาดเสริมทัพรุ่น 1.6 ลิตร วางเป้าหมายจับกลุ่มลูกค้าในโครงการรถคันแรก ด้วยออปชั่นไม่ต่างและวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เดิมของรุ่น 1.6 ลิตร เคาะราคา 6.44-6.99 แสนบาท และขยับรุ่น 1.6 ลิตร ไปเป็น 7.04-7.59 แสนบาท
สำหรับค่ายฮอนด้าตอนนี้เร่งผลิตอย่างเต็มที่ หลังจากโรงงานกลับมาผลิตอีกครั้ง เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยฮอนด้า ซิตี้ และแจ๊ซ มียอดค้างจองจากเหตุการณ์น้ำท่วมมากสุด จากจำนวนทั้งหมดกว่า 4 หมื่นคัน ดังนั้นช่วงนี้ฮอนด้าจึงเน้นเร่งการผลิตส่งมอบรถให้ลูกค้าโดยเร็วเป็นหลัก
จากความเคลื่อนไหวทั้งหมด จะเห็นว่ากลุ่มตลาดซับคอมแพ็กต์ ได้มีการปรับตัวป้องกันยอดขายมาต่อเนื่อง และการเปิดตัว “เชฟโรเลต โซนิค” ย่อมต้องทำให้ตลาดร้อนแรงขึ้นไปอีก!!...