ข่าวในประเทศ - ไทยยานยนตร์ ประกาศชัดเตรียมนำเข้าปิกอัพ “อมารอก” มาขายในไทยปลายปีนี้ จัดหนักออปชันปและวางเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 177 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดของZF พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เปิดราคาขาย 1.8 ล้านบาท หวังเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ตั้งเป้าขาย 300 คันต่อปี
สมรรถ รอบบรรเจิด ผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดและผลิตภัณฑ์รถยนต์ โฟล์คสวาเกน บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ในเครือ “ไทยยานยนตร์ กรุ๊ป” เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมขาย โฟล์คสวาเกน อมารอก (Volkswagen Amarok) ซึ่งเป็นรถขับเคลื่อน 4x4 ระดับหรู สายพันธุ์กล้าแกร่งจากประเทศเยอรมัน มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร TDI BiTurbo 177 แรงม้า แรงบิดที่ 420 นิวตันเมตร ผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด
นอกจากนี้ “อมารอก” ยังติตดั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4 Motion อัจฉริยะ พร้อมระบบความปลอดภัยอย่างเบรก ABS ระบบควบคุมการทรงตัว ESP ขณะที่มิติของรถได้รับการออกแบบให้มีขนาดที่กว้างขวาง สามารถบรรทุกสัมภาระต่างๆ ทั้งยังสามารถใช้งานได้หลากหลายและสมบุกสมบัน
นายสมรรถ กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้ศึกษาด้านการตลาดสำหรับการนำเข้ามาจำหน่ายของรถยนต์ในรุ่นอมารอก เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ จึงมีความมั่นใจที่จะนำเข้ารถยนต์รุ่นดังกล่าวมาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และจะเปิดตัวภายในงานมหกรรมยานยนต์ หรือ Thailand International Motor Expo 2012 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี
โดยโฟล์คสวาเกน อมารอก เป็นรถขับเคลื่อน 4X4 ระดับหูร แบบ 4 ประตู ดับเบิ้ล แค็บ เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร BiTDI 4 MOTION ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All Wheel Drive พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่มีให้เลือกทั้งโหมดสปอร์ต และแบบ Manual ซึ่งเป็นรุ่น Top Line ของโมเดลดังกล่าว โดยคาดว่าราคาจำหน่ายสำหรับรุ่นนี้จะอยู่ประมาณ 1.8 ล้านบาท
สำหรับโฟล์คสวาเกน อมารอก จะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับ B+ ที่ชื่นชอบกิจกรรมที่ท้าทายสำหรับคนรุ่นใหม่ หรือตอบสนองสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์ในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยสามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลายรูปแบบ
ปัจจุบันตลาดเซกเมนต์ดังกล่าวถือเป็นเซกเมนต์ใหม่ที่ยังไม่มีคู่แข่ง และเป็นช่องว่างของตลาดที่น่าสนใจและเปิดโอกาสในการสร้างยอดจำหน่ายในประเทศไทย เนื่องจากเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 ในโลก รองจากตลาดอเมริกา ดังนั้น ในช่วงปีแรก ทางบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถทำยอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 300 คันหลังจากนั้นยอดจำหน่ายน่าจะขยับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสายการผลิตและการส่งมอบรถยนต์รุ่งดังกล่าวของบริษัทแม่ในประเทศเยอรมัน
สมรรถ รอบบรรเจิด ผู้จัดการ ฝ่ายการตลาดและผลิตภัณฑ์รถยนต์ โฟล์คสวาเกน บริษัท ไทยยานยนตร์ จำกัด ในเครือ “ไทยยานยนตร์ กรุ๊ป” เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมขาย โฟล์คสวาเกน อมารอก (Volkswagen Amarok) ซึ่งเป็นรถขับเคลื่อน 4x4 ระดับหรู สายพันธุ์กล้าแกร่งจากประเทศเยอรมัน มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร TDI BiTurbo 177 แรงม้า แรงบิดที่ 420 นิวตันเมตร ผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด
นอกจากนี้ “อมารอก” ยังติตดั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4 Motion อัจฉริยะ พร้อมระบบความปลอดภัยอย่างเบรก ABS ระบบควบคุมการทรงตัว ESP ขณะที่มิติของรถได้รับการออกแบบให้มีขนาดที่กว้างขวาง สามารถบรรทุกสัมภาระต่างๆ ทั้งยังสามารถใช้งานได้หลากหลายและสมบุกสมบัน
นายสมรรถ กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทได้ศึกษาด้านการตลาดสำหรับการนำเข้ามาจำหน่ายของรถยนต์ในรุ่นอมารอก เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ จึงมีความมั่นใจที่จะนำเข้ารถยนต์รุ่นดังกล่าวมาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และจะเปิดตัวภายในงานมหกรรมยานยนต์ หรือ Thailand International Motor Expo 2012 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี
โดยโฟล์คสวาเกน อมารอก เป็นรถขับเคลื่อน 4X4 ระดับหูร แบบ 4 ประตู ดับเบิ้ล แค็บ เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร BiTDI 4 MOTION ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All Wheel Drive พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่มีให้เลือกทั้งโหมดสปอร์ต และแบบ Manual ซึ่งเป็นรุ่น Top Line ของโมเดลดังกล่าว โดยคาดว่าราคาจำหน่ายสำหรับรุ่นนี้จะอยู่ประมาณ 1.8 ล้านบาท
สำหรับโฟล์คสวาเกน อมารอก จะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับ B+ ที่ชื่นชอบกิจกรรมที่ท้าทายสำหรับคนรุ่นใหม่ หรือตอบสนองสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์ในวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยสามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลายรูปแบบ
ปัจจุบันตลาดเซกเมนต์ดังกล่าวถือเป็นเซกเมนต์ใหม่ที่ยังไม่มีคู่แข่ง และเป็นช่องว่างของตลาดที่น่าสนใจและเปิดโอกาสในการสร้างยอดจำหน่ายในประเทศไทย เนื่องจากเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 ในโลก รองจากตลาดอเมริกา ดังนั้น ในช่วงปีแรก ทางบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถทำยอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 300 คันหลังจากนั้นยอดจำหน่ายน่าจะขยับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสายการผลิตและการส่งมอบรถยนต์รุ่งดังกล่าวของบริษัทแม่ในประเทศเยอรมัน
