บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยขั้นสูง หรือ Mercedes-Benz Driving Experience (MBDE) นำทีมผู้เชี่ยวชาญจากเยอรมนี มาเสริมทักษะการขับขี่เพื่อความปลอดภัย ให้แก่กลุ่มลูกค้าและสื่อมวลชนต่อเนื่องเป็นปีที่ 9
สำหรับกิจกรรม Mercedes-Benz Driving Experience ปีนี้จัดระหว่าง 30 เมษายน - 17 พฤษภาคม 2555รวมระยะเวลาการจัดอบรม 18 วัน โดยแบ่งผู้เข้ารับการอบรมออกเป็นกลุ่มต่างๆ เพื่อเข้าอบรมในแต่ละวันและดำเนินการฝึกอบรมในสนามที่จัดไว้เป็นพิเศษภายในฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งที่ผ่านมามีผู้เข้ารับการอบรมไปแล้วกว่า 3,000 คน
คมกริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจัดเตรียมบททดสอบการขับขี่เพื่อความปลอดภัยไว้หลากหลายรูปแบบ โดยจะเป็นการจำลองสถานการณ์ในการขับขี่รถยนต์บนท้องถนนที่ผู้ขับขี่จะต้องประสบ โดยผู้เข้าฝึกอบรมจะมีโอกาสใช้เวลา 1 วันเต็ม เพื่อเรียนรู้ทักษะและการคาดคะเนล่วงหน้าถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนวิธีการเตรียมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างถูกต้อง รวมถึงรู้จักการใช้ระบบควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยในรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ด้วยทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญจากประเทศเยอรมนี ทั้ง 3 ท่าน ซึ่งมีประสบการณ์การสอนการขับขี่ปลอดภัยมาแล้วทั่วโลก นำทีมโดย แมทเธียส ไคลน์มิเคล หัวหน้าทีมผู้ฝึกสอน ซึ่งมีประสบการณ์มากว่า 20 ปี ร่วมด้วย ไวโอเล็ตต้า เวคอฟ ซึ่งมีประสบการณ์มากว่า 25 ปี และ วิม เดมส์ผู้ฝึกสอน ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการฝึกสอนเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยมาแล้วกว่า 20 ปี ร่วมด้วยผู้ฝึกสอนจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) นายอัชฌ์ บุณยประสิทธิ์ และนายชัยวัธน์ แก้วงามอรุณ ซึ่งผ่านการฝึกอบรมโปรแกรมการขับขี่ปลอดภัยและได้รับประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศเยอรมนี”
ในปีนี้บริษัทฯ ได้จัดเตรียมรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์สำหรับการฝึกไว้กว่า 20 รุ่นไม่ว่าจะเป็นตระกูล C-Class, E-Class, S-Class และ Niche Models รวมถึงรถตู้แวนและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ อาทิ C 200 BlueEFFICIENCY, E 200 NGT BlueEFFICIENCY ELEGANCE, S 300 Long Wheelbase, SLK 200 BlueEFFICIENCY Sports AMG Roadster, C 250 BlueEFFICIENCY Coupé Edition 1, Vito, the new Viano และ Sprinter เป็นต้น
การอบรมจะใช้เวลาหนึ่งวันเต็ม ซึ่งประกอบไปด้วยแบบทดสอบลักษณะต่างๆ ได้แก่ การขับแบบสลาลม (Slalom) ด้วยความเร็วสูง การเปลี่ยนช่องทางวิ่งแบบกะทันหัน (Lane Change) พร้อมเรียนรู้อาการของรถและการควบคุมรถอย่างถูกวิธี การเบรกแบบฉุกเฉิน (Emergency Braking) เมื่อพบเจอสิ่งกีดขวางหรือถูกตัดหน้ารถแบบกะทันหัน พร้อมเรียนรู้ระยะทางการหยุดรถแบบปลอดภัยด้วยระดับความเร็วต่างๆ หรือการหักหลบสิ่งกีดขวางบนถนนเปียกลื่น พร้อมเปรียบเทียบอาการเสียการทรงตัว อาการเข้าโค้งและหลุดโค้ง (Under/Over Steering) เป็นต้น
หลังจากที่เสร็จสิ้นการฝึกทุกฐานแล้ว ผู้ขับขี่จะมีความเข้าใจและสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีความปลอดภัยอันทันสมัยที่ติดมากับตัวรถได้อย่างเต็มที่ อาทิ ถุงลมนิรภัย, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP®), ระบบช่วยเบรก BAS (Brake Assist), ระบบเบรก Adaptive Brake, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control), ระบบ night view, ระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (Intelligent Light System) อีกทั้งผู้ขับขี่จะเข้าใจถึงความสามารถของระบบความปลอดภัยในรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งหมด ซึ่งทำให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดบนท้องถนน
สำหรับกิจกรรม Mercedes-Benz Driving Experience ปีนี้จัดระหว่าง 30 เมษายน - 17 พฤษภาคม 2555รวมระยะเวลาการจัดอบรม 18 วัน โดยแบ่งผู้เข้ารับการอบรมออกเป็นกลุ่มต่างๆ เพื่อเข้าอบรมในแต่ละวันและดำเนินการฝึกอบรมในสนามที่จัดไว้เป็นพิเศษภายในฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งที่ผ่านมามีผู้เข้ารับการอบรมไปแล้วกว่า 3,000 คน
คมกริช นงค์สวัสดิ์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจัดเตรียมบททดสอบการขับขี่เพื่อความปลอดภัยไว้หลากหลายรูปแบบ โดยจะเป็นการจำลองสถานการณ์ในการขับขี่รถยนต์บนท้องถนนที่ผู้ขับขี่จะต้องประสบ โดยผู้เข้าฝึกอบรมจะมีโอกาสใช้เวลา 1 วันเต็ม เพื่อเรียนรู้ทักษะและการคาดคะเนล่วงหน้าถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนวิธีการเตรียมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างถูกต้อง รวมถึงรู้จักการใช้ระบบควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยในรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ด้วยทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญจากประเทศเยอรมนี ทั้ง 3 ท่าน ซึ่งมีประสบการณ์การสอนการขับขี่ปลอดภัยมาแล้วทั่วโลก นำทีมโดย แมทเธียส ไคลน์มิเคล หัวหน้าทีมผู้ฝึกสอน ซึ่งมีประสบการณ์มากว่า 20 ปี ร่วมด้วย ไวโอเล็ตต้า เวคอฟ ซึ่งมีประสบการณ์มากว่า 25 ปี และ วิม เดมส์ผู้ฝึกสอน ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการฝึกสอนเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยมาแล้วกว่า 20 ปี ร่วมด้วยผู้ฝึกสอนจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) นายอัชฌ์ บุณยประสิทธิ์ และนายชัยวัธน์ แก้วงามอรุณ ซึ่งผ่านการฝึกอบรมโปรแกรมการขับขี่ปลอดภัยและได้รับประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศเยอรมนี”
ในปีนี้บริษัทฯ ได้จัดเตรียมรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์สำหรับการฝึกไว้กว่า 20 รุ่นไม่ว่าจะเป็นตระกูล C-Class, E-Class, S-Class และ Niche Models รวมถึงรถตู้แวนและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ อาทิ C 200 BlueEFFICIENCY, E 200 NGT BlueEFFICIENCY ELEGANCE, S 300 Long Wheelbase, SLK 200 BlueEFFICIENCY Sports AMG Roadster, C 250 BlueEFFICIENCY Coupé Edition 1, Vito, the new Viano และ Sprinter เป็นต้น
การอบรมจะใช้เวลาหนึ่งวันเต็ม ซึ่งประกอบไปด้วยแบบทดสอบลักษณะต่างๆ ได้แก่ การขับแบบสลาลม (Slalom) ด้วยความเร็วสูง การเปลี่ยนช่องทางวิ่งแบบกะทันหัน (Lane Change) พร้อมเรียนรู้อาการของรถและการควบคุมรถอย่างถูกวิธี การเบรกแบบฉุกเฉิน (Emergency Braking) เมื่อพบเจอสิ่งกีดขวางหรือถูกตัดหน้ารถแบบกะทันหัน พร้อมเรียนรู้ระยะทางการหยุดรถแบบปลอดภัยด้วยระดับความเร็วต่างๆ หรือการหักหลบสิ่งกีดขวางบนถนนเปียกลื่น พร้อมเปรียบเทียบอาการเสียการทรงตัว อาการเข้าโค้งและหลุดโค้ง (Under/Over Steering) เป็นต้น
หลังจากที่เสร็จสิ้นการฝึกทุกฐานแล้ว ผู้ขับขี่จะมีความเข้าใจและสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีความปลอดภัยอันทันสมัยที่ติดมากับตัวรถได้อย่างเต็มที่ อาทิ ถุงลมนิรภัย, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (ESP®), ระบบช่วยเบรก BAS (Brake Assist), ระบบเบรก Adaptive Brake, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control), ระบบ night view, ระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (Intelligent Light System) อีกทั้งผู้ขับขี่จะเข้าใจถึงความสามารถของระบบความปลอดภัยในรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งหมด ซึ่งทำให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดบนท้องถนน