ถ้ามองในแง่ของความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล เรียกว่าตอนนี้งานมอเตอร์โชว์ในจีนได้ถูกยกระดับขึ้นมามีความสำคัญในมุมมองของผู้ผลิตรถยนต์จากฝั่งยุโรปกันไปเป็นที่เรียบร้อย และถ้าไม่นับชื่อเสียงที่มีมานาน พิจารณาแค่ตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นต้นแบบหรือรุ่นขายจริง ก็ต้องบอกว่า งานโชว์ที่จีนไม่ว่าจะเป็นออโต้ ไชน่า หรือออโต้ เซี่ยงไฮ้ ได้แซงหน้างานโตเกียว มอเตอร์โชว์ไปแล้ว
ที่ ‘กล้า’ บอกเช่นนี้ ก็เพราะที่ผ่านมา โตเกียว มอเตอร์โชว์ไม่ได้มีความแตกต่างจากงานที่จัดแสดงในสหรัฐอเมริกาอย่างดีทรอยต์ หรือนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ในยุคที่ยังไม่มีคำว่า International แทรกกลางระหว่างชื่อ เพราะรถยนต์ที่จัดแสดงส่วนใหญ่จะเป็นโมเดลในประเทศ หรือ JDM เป็นหลัก ในกรณีที่เป็นรถยนต์สำหรับขายในเชิงพาณิชย์ แทบไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับตลาดต่างประเทศ แต่งานนี้จะมีจุดเด่นตรงที่การขายฝันในการสร้างรถยนต์ต้นแบบให้มีสีสันน่าตื่นตาตื่นใจ บวกกับ ‘ความใกล้ชิด’ ในเชิงความรู้สึกกับนักขับชาวไทย
ขณะที่ตลาดจีนได้ยกระดับของตัวเอง และทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเบอร์ 1 ของโลกในด้านยอดขาย และก็กลายเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจของผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก อีกทั้งที่ผ่านมา รถยนต์ใหม่ๆ หลายรุ่นที่เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์จีนยังมีลุ้นในการเข้ามาขายในเมืองไทยมากกว่ารถยนต์ใหม่ๆ ที่เปิดตัวในโตเกียว มอเตอร์โชว์เสียอีก
สำหรับในปีนี้เป็นปีค.ศ.ที่ลงท้ายด้วยเลขคู่ การจัดงานก็เลยมาอยู่ที่เมืองปักกิ่ง นครหลวงของจีน กับ งานออโต้ ไชน่า หรือปักกิ่ง มอเตอร์โชว์ ซึ่งเป็นงานแสดงรถยนต์รายการแรกๆ ของจีน จัดขึ้นเป็นประจำทุก 2 ปี ตามเงื่อนไขข้างต้น ต่างจากออโต้ เซี่ยงไฮ้ หรือเซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ ที่จัด 2 ปีเหมือนกัน แต่เฉพาะปีที่ลงท้ายด้วยเลขคี่
ออโต้ ไชน่าในปีนี้มีขึ้นระหว่างวันที่ 27 เมษายนจนถึงวันที่ 2 พฤษภาคม และแน่นอนว่านอกจากแบรนด์รถยนต์ท้องถิ่นหลากหลายยี่ห้อมาเข้าร่วมการจัดงานแล้ว แบรนด์รถยนต์ต่างแดนทั้งยุโรป เอเชีย และอเมริกาต่างก็นำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ มาเปิดตัวกันอย่างคับคั่ง และแต่ละคันล้วนมีความน่าสนใจอย่างมาก สมกับที่จีนได้กลายเป็นศูนย์กลางรถยนต์ของเอเชียไปแล้วในตอนนี้
ที่ ‘กล้า’ บอกเช่นนี้ ก็เพราะที่ผ่านมา โตเกียว มอเตอร์โชว์ไม่ได้มีความแตกต่างจากงานที่จัดแสดงในสหรัฐอเมริกาอย่างดีทรอยต์ หรือนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ในยุคที่ยังไม่มีคำว่า International แทรกกลางระหว่างชื่อ เพราะรถยนต์ที่จัดแสดงส่วนใหญ่จะเป็นโมเดลในประเทศ หรือ JDM เป็นหลัก ในกรณีที่เป็นรถยนต์สำหรับขายในเชิงพาณิชย์ แทบไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับตลาดต่างประเทศ แต่งานนี้จะมีจุดเด่นตรงที่การขายฝันในการสร้างรถยนต์ต้นแบบให้มีสีสันน่าตื่นตาตื่นใจ บวกกับ ‘ความใกล้ชิด’ ในเชิงความรู้สึกกับนักขับชาวไทย
ขณะที่ตลาดจีนได้ยกระดับของตัวเอง และทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเบอร์ 1 ของโลกในด้านยอดขาย และก็กลายเป็นจุดศูนย์กลางความสนใจของผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก อีกทั้งที่ผ่านมา รถยนต์ใหม่ๆ หลายรุ่นที่เปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์จีนยังมีลุ้นในการเข้ามาขายในเมืองไทยมากกว่ารถยนต์ใหม่ๆ ที่เปิดตัวในโตเกียว มอเตอร์โชว์เสียอีก
สำหรับในปีนี้เป็นปีค.ศ.ที่ลงท้ายด้วยเลขคู่ การจัดงานก็เลยมาอยู่ที่เมืองปักกิ่ง นครหลวงของจีน กับ งานออโต้ ไชน่า หรือปักกิ่ง มอเตอร์โชว์ ซึ่งเป็นงานแสดงรถยนต์รายการแรกๆ ของจีน จัดขึ้นเป็นประจำทุก 2 ปี ตามเงื่อนไขข้างต้น ต่างจากออโต้ เซี่ยงไฮ้ หรือเซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ ที่จัด 2 ปีเหมือนกัน แต่เฉพาะปีที่ลงท้ายด้วยเลขคี่
ออโต้ ไชน่าในปีนี้มีขึ้นระหว่างวันที่ 27 เมษายนจนถึงวันที่ 2 พฤษภาคม และแน่นอนว่านอกจากแบรนด์รถยนต์ท้องถิ่นหลากหลายยี่ห้อมาเข้าร่วมการจัดงานแล้ว แบรนด์รถยนต์ต่างแดนทั้งยุโรป เอเชีย และอเมริกาต่างก็นำรถยนต์รุ่นใหม่ๆ มาเปิดตัวกันอย่างคับคั่ง และแต่ละคันล้วนมีความน่าสนใจอย่างมาก สมกับที่จีนได้กลายเป็นศูนย์กลางรถยนต์ของเอเชียไปแล้วในตอนนี้