ข่าวในประเทศ - สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย สรุป 6 แนวทางในการพัฒนาอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ มุ่งการพัฒนาขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี และบุคลากร พร้อมทั้งชูงาน TAPA เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่จะผลักดันการส่งออก คาด TAPA 2012 ดันยอดส่งออกกว่า 470 ล้านบาท
นายประสาทศิลป์ อ่อนอรรถ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย กล่าวว่า สมาคมฯ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย พบว่า แนวทางสำคัญที่ต้องเร่งพัฒนาสมาชิกของสมาคมฯ ประกอบด้วย 6 แนวทาง ประกอบด้วย 1. การเป็นองค์กรที่สามารถพึ่งตนเองได้ 2. ให้ความสำคัญเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรม 3. เพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์ 4. ส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs 5. สนับสนุนและส่งเสริมการส่งออก และ 6. สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
“สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในยุคนี้ คือ เรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองได้ในอนาคต และเป็นเรื่องที่ประเทศไทยยังขาด เรื่องต่อมา คือ การเพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์ ซึ่งต้องเพิ่มทั้งทักษะฝีมือ ประสิทธิภาพการทำงาน และภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดตลาดเพิ่มมากขึ้นจากการทำ FTA ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการต้องหันมาเน้นเรื่องความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น”
นอกจากนี้ การสนับสนุนการส่งออกเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่สมาคมฯ ได้ดำเนินการเพื่อส่งเสริมการส่งออกให้กับสมาชิกในสมาคมฯ คือ การร่วมกับกรมส่งเสริมการส่งออก จัดงานแสดงสินค้า ยานยนต์ ชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง (Thailand Auto Parts & Accessories) หรือ TAPA ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 26-29เมษายนนี้ ที่ไบเทค บางนา ภายใต้แนวคิด นวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ซึ่งในแต่ละปีงานนี้สามารถสร้างมูลค่าการส่งออกได้หลายร้อยล้านบาท โดยคาดว่า TAPA 2012 จะมีเงินสะพัดกว่า 470 ล้านบาท
นายประสาทศิลป์ อ่อนอรรถ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย กล่าวว่า สมาคมฯ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย พบว่า แนวทางสำคัญที่ต้องเร่งพัฒนาสมาชิกของสมาคมฯ ประกอบด้วย 6 แนวทาง ประกอบด้วย 1. การเป็นองค์กรที่สามารถพึ่งตนเองได้ 2. ให้ความสำคัญเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรม 3. เพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์ 4. ส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs 5. สนับสนุนและส่งเสริมการส่งออก และ 6. สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
“สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในยุคนี้ คือ เรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองได้ในอนาคต และเป็นเรื่องที่ประเทศไทยยังขาด เรื่องต่อมา คือ การเพิ่มขีดความสามารถของมนุษย์ ซึ่งต้องเพิ่มทั้งทักษะฝีมือ ประสิทธิภาพการทำงาน และภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดตลาดเพิ่มมากขึ้นจากการทำ FTA ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการต้องหันมาเน้นเรื่องความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น”
นอกจากนี้ การสนับสนุนการส่งออกเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่สมาคมฯ ได้ดำเนินการเพื่อส่งเสริมการส่งออกให้กับสมาชิกในสมาคมฯ คือ การร่วมกับกรมส่งเสริมการส่งออก จัดงานแสดงสินค้า ยานยนต์ ชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง (Thailand Auto Parts & Accessories) หรือ TAPA ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 26-29เมษายนนี้ ที่ไบเทค บางนา ภายใต้แนวคิด นวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ซึ่งในแต่ละปีงานนี้สามารถสร้างมูลค่าการส่งออกได้หลายร้อยล้านบาท โดยคาดว่า TAPA 2012 จะมีเงินสะพัดกว่า 470 ล้านบาท
