เปิดตัวและพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปแล้วทั้งในประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ สำหรับสปอร์ตคูเป้ขับเคลื่อนล้อหลัง “ซูบารุ บีอาร์ซีร์” (BRZ) ผลผลิตภายใต้ความร่วมมือระหว่างซูบารุและโตโยต้า หรือเรียกสั้นๆ ว่า โปรเจกต์ “โตโยบารุ” โดยมีคิวเข้ามาทำตลาดในบ้านเราช่วงไตรมาสที่ 4 หรือน่าจะเผยโฉมพร้อมรับจองในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ปลายปีนี้ (คลิ๊กอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
ขณะที่แฝดคนละฝาอย่าง “จีที86” ของทางฝั่งโตโยต้านั้นพร้อมขายในช่วงพฤษภาคมนี้แล้ว คาดสนนราคาประมาณ 2.5 ล้านบาท แถมยังนำคันจริงเข้ามาโชว์ตัวก่อนที่อิมแพค เมืองทองธานี อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเบรกกระแสคู่แข่ง กลุ่มมอเตอร์ อิมเมจ กรุ๊ป จึงจัดทริปทดสอบอุ่นเครื่องให้กับรถสปอร์ตรุ่นใหม่ โดยมี “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” เป็นหนึ่งในคณะสื่อมวลชนที่ได้ร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วย
การทดสอบใช้พื้นที่บริเวณลานจอดรถในสนามม้า Turf Club ประเทศสิงคโปร์ เนรมิตด้วยการวางกรวยไพลอนเพื่อให้ได้ระยะขับขี่สั้นๆ ไม่น่าจะเกิน 400 เมตร แยกย่อยได้ 3 ส่วน แบ่งออกเป็นการซิกแซกสลาลม, ขับวนเป็นวงกลม และสุดท้ายวนเป็นเลข8 โดยจะมีเวลาให้ 2 นาทีในแต่ละสถานี รวมเบ็ดเสร็จแล้วไม่เกิน 6 นาทีต่อตัวแทนสื่อมวลชนหนึ่งคน ซึ่งประกอบด้วยมาเลเซีย, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเก๊า และไทย
ด่านแรกการขับขี่แบบสลาลม สัมผัสได้ถึงการควบคุมพวงมาลัยที่แม่นยำ สนุกมือ ตอบโจทย์แนวคิดการพัฒนาตามสโลแกน Pure Handling Delight ควบคู่กับช่วงการกดคันเร่งทางตรงก่อนหมดรอบ ขุมพลังเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ขนาดสุทธิ 1998 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้าที่ 7,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตรที่ 6,400-6,600 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด ทั้งแบบธรรมดาและอัตโนมัติ (รถทดสอบเกียร์อัตโนมัติ) ความเร็วต้นอึดใจแรกประมาณ 3 วินาที ต้องรอรอบพอสมควร แต่ด้วยระยะทางที่จำกัด พอเริ่มรู้สึกมีอาการดึงเล็กๆ ก็ต้องเหยียบเบรกแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปุ่มแพดเดิ้ลชิพที่พวงมาลัย มีมาให้ก็ไม่ทันได้ใช้แน่นอน
มาถึงในส่วนการขับขี่แบบวงกลมถูกยกเลิกออกไป เพราะทีมงานกังวลว่าจะเสียเวลาที่ต้องจัดเรียงไพลอนใหม่ จึงข้ามมาที่การขับขี่แบบเลข 8 เป็นสถานีสุดท้ายแทน ทั้งนี้ ได้ชดเชยการทดสอบแบบสลาลมเพิ่มให้อีก 2 รอบ หรือประมาณ 2 นาทีนั่นเอง
ด้วยคุณสมบัติเด่น 5 ประการ ตามที่ซูบารุใช้เป็นจุดขาย ได้แก่ เครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นใหม่, ระบบอิเล็คทรอนิกภายในล้ำสมัยง่ายต่อการควบคุม, การออกแบบหรูหราลดแรงต้านอากาศได้ดีเยี่ยม, น้ำหนักตัวรถเบามีความทนทานสูง รวมถึงการมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้การทรงตัวที่ด่านทดสอบเลข 8 เป็นไปอย่างประทับใจ รักษาสมดุลตัวได้ดี
ย้ำอีกครั้ง สำหรับคิวการเข้ามาทำตลาดในบ้านเราอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 4 ส่วนราคาขายจริงยังไม่เปิดเผยออกมาในตอนนี้ แต่น่าจะใกล้เคียงกับการเปิดตัวที่สิงคโปร์ ซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ 117,000-118,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือลองคำนวนเล่นๆ จากอัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดประมาณ 25 บาท/หนึ่งดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราวๆ 2,925,000-2,950,000 บาท
ท้ายที่สุด...กับการอุ่นเครื่องเพียง 6 นาที คงไม่สามารถสรุปได้ว่าสปอร์ตคูเป้ขับหลัง “ซูบารุ บีอาร์ซีร์” จะมีบุคลิกที่แท้จริงอย่างไร แต่เชื่อว่าก่อนการทำตลาดในไทยช่วงปลายปีนี้ กลุ่มมอเตอร์ อิมเมจ กรุ๊ป น่าจะมีการจัดทริปทดสอบอย่างเป็นทางการอีกครั้ง และ “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” จะนำบทความมาเสนอให้สาวกแบรนด์ดาวลูกไก่ได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมในโอกาสต่อไป
