ข่าวในประเทศ - นิสสันปล่อยทีเด็ดปลายปี ส่งรถไมเนอร์เชนจ์ 3 รุ่นลุยตลาด ทั้ง นาวารา เทียน่า และเอ็กซ์เทรล พร้อมนำไปอวดโฉมในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 ขณะที่โรงงานบางนา กม.21 เร่งหาชิ้นส่วนเพื่อการผลิตทดแทนจากแหล่งต่างๆทั่วโลก คาดมกราคมปีหน้าฟื้นกำลังผลิตเต็มที่ 100%
ประพัฒน์ เชยชม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากวิกฤตน้ำท่วมช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบให้ปริมาณการผลิตรถยนต์นิสสันที่โรงงานย่านบางนา กม.21 หายไปประมาณ 40,000 คัน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นการผลิตเพื่อขายในประเทศกว่า 10,000 คัน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทพยายามอย่างหนักในการฟื้นฟูการผลิตกลับมาอีกครั้ง
ทั้งนี้บริษัทเริ่มจัดหาชิ้นส่วนเพื่อการผลิตรถยนต์จากแหล่งต่างๆทั่วโลก ทั้ง ญี่ปุ่น จีน ยุโรป สหรัฐอเมริกา ซึ่งเดือนพฤศจิกายนนี้จะฟื้นการผลิตได้ 20-30% จากกำลังการผลิตเต็มที่ จนกระทั่งเดือนมกราคมปีหน้าถึงจะเดินเครื่องได้เต็มกำลัง 100% เพื่อรองรับกับความต้องการทั้งตลาดในประเทศ และส่งออก
ในส่วนของอีโคคาร์ “อัลเมรา” ที่เพิ่งเปิดตัว 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดจองเกือบ 10,000 คัน แต่จากสถานการณ์น้ำท่วมทำให้บริษัทส่งมอบรถได้เพียง 1,000 คันเท่านั้น ขณะที่นิสสัน “มาร์ช” ยังได้การตอบรับจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดี และมียอดค้างส่งมอบอีกกว่า 5,000 คัน หรือต้องรอรถประมาณ 2-3 เดือน
นายประพัฒน์ กล่าวว่า จากปัญหาเรื่องการผลิต อาจทำให้เป้ายอดขายเดิมที่บริษัทตั้งไว้ 76,000 คันในปีนี้ได้รับผลกระทบ แต่เชื่อว่าถึงสิ้นปีน่าจะทำยอดขายรวมได้กว่า 70,000 คัน ซึ่งบริษัทได้เตรียมแผนลุยตลาดอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ถึง 3 รุ่น นั่นคือ ไมเนอร์เชนจ์ของปิกอัพ “นาวารา” เก๋งกลาง “เทียน่า” และเอสยูวี “เอ็กซ์เทรล” โดยจะเปิดรับจองที่ผู้จำหน่ายนิสสัน ทั่วประเทศ ตั้งแต่ 22 พฤศจิกายนนี้ พร้อมนำไปจัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 28 (Thailand International Motor Expo 2011)
สำหรับนาวารา ใหม่ เพิ่มความโดดเด่นด้วยรุ่น แกรนด์ไททาเนียม (Grand Titanium) และ สปอร์ตเวอร์ชั่น (Sports version) โดย นาวารา แกรนด์ไททาเนียม จะมาในโมเดลยกสูง “คาลิเบอร์” ทั้งตัวถังคิงแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ เสริมด้วยชุดแต่ง ทั้งกระจังหน้า การ์ดกันชนหน้า กันชนหลัง กระจกมองข้าง มือจับเปิดประตู และล้ออัลลอยใหม่
ส่วนรุ่นสปอร์ต เวอร์ชั่น ได้รับการปรับโฉมทั้งในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ และขับเคลื่อนสองล้อแบบยกสูง คาลิเบอร์ เติมความเข้มด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ทรง V-SHAPE ขนาดใหญ่ และกันชนหน้าสไตล์สปอร์ต พร้อมกับล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษเฉพาะรุ่น
โดย นาวารา แกรนด์ ไททาเนียม มีให้เลือก 6 รุ่นย่อย สนนราคา 695,000 – 837,500 บาท และนาวารา สปอร์ต เวอร์ชั่น มี7 รุ่นย่อย ราคา 675,000-954,000 บาท
ด้านนิสสัน เทียน่า ใหม่ ปรับโฉมรูปลักษณ์ ภายนอกและภายใน ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย และไฟตัดหมอกให้ดูโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น พร้อมกระจังหน้า กันชนหน้า และล้ออัลลอยอารมณ์สปอร์ตสไตล์ใหม่ และยังพิเศษด้วยไฟหน้าไบซีนอนใหม่ พร้อมโปรเจคเตอร์เลนส์ และระบบปรับลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติตามการเลี้ยวของรถ (Adaptive Front-lighting System: AFS) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ขณะเข้าโค้งยามค่ำคืน ในส่วนของภายในมาพร้อมแผงหน้าปัดเรืองแสง แผงคอนโซลหน้าและวิทยุดีไซน์ใหม่ พร้อม 2 โทนสีให้เลือกทั้งโทนสีครีมหรูมีระดับ และโทนสีดำเข้มสไตล์สปอร์ตที่มาพร้อมลายไม้สีดำในรุ่น Sport Series
นิสสัน เทียน่า ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 7 รุ่น 5 สี โดยมีสี Greyish Bronze (KAC) ใหม่ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือก โดยรุ่นเครื่องยนต์ วี6 2.5 ลิตร ปรับราคาขึ้น 24,000 บาท และรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ปรับขึ้น 27,000 บาท
ปิดท้ายด้วยเอสยูวี เอ็กซ์เทรล ที่ปรับเปลี่ยนไฟหน้า ไฟท้าย ลายกระจังหน้า และกันชนหน้าให้ดูมีเอกลักษณ์ และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว ภายในมาพร้อมกับแผงหน้าปัดดีไซน์ใหม่ และเพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งภายในสีเงินบริเวณคอนโซลหน้าและที่เปิดประตูให้ทันสมัยเต็มขั้น รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น เบาะคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า ที่วางแก้วน้ำ ลิ้นชักด้านหน้าพร้อมระบบรักษาอุณหภูมิความเย็น และช่องปรับอากาศสำหรับที่นั่งด้านหลัง เครื่องเล่น DVD หน้าจอระบบสัมผัส ช่องเชื่อมต่อ USB iPod และ SD Card และระบบเชื่อม Bluetooth สนนราคาขาย 1.153 ล้านบาท หรือปรับขึ้นจากรุ่นเดิม 12,000บาท
“เรามั่นใจว่ารถทั้ง 3 รุ่นนี้จะช่วยสร้างสีสันให้กับตลาด โดยตั้งเป้าการขายสำหรับนิสสัน เทียน่าใหม่ที่ 7,000 คันต่อปี นาวาราใหม่ 27,000 คันต่อปี และ เอ็กซ์เทรลใหม่ 500 คันต่อปี ซึ่งเราคาดว่าสองรุ่นแรกจะเริ่มส่งทยอยมอบให้ลูกค้าได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ ส่วนเอ็กซ์เทรล จะเริ่มส่งมอบในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า”นายประพัฒน์ กล่าว
ประพัฒน์ เชยชม รองผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากวิกฤตน้ำท่วมช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบให้ปริมาณการผลิตรถยนต์นิสสันที่โรงงานย่านบางนา กม.21 หายไปประมาณ 40,000 คัน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นการผลิตเพื่อขายในประเทศกว่า 10,000 คัน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทพยายามอย่างหนักในการฟื้นฟูการผลิตกลับมาอีกครั้ง
ทั้งนี้บริษัทเริ่มจัดหาชิ้นส่วนเพื่อการผลิตรถยนต์จากแหล่งต่างๆทั่วโลก ทั้ง ญี่ปุ่น จีน ยุโรป สหรัฐอเมริกา ซึ่งเดือนพฤศจิกายนนี้จะฟื้นการผลิตได้ 20-30% จากกำลังการผลิตเต็มที่ จนกระทั่งเดือนมกราคมปีหน้าถึงจะเดินเครื่องได้เต็มกำลัง 100% เพื่อรองรับกับความต้องการทั้งตลาดในประเทศ และส่งออก
ในส่วนของอีโคคาร์ “อัลเมรา” ที่เพิ่งเปิดตัว 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดจองเกือบ 10,000 คัน แต่จากสถานการณ์น้ำท่วมทำให้บริษัทส่งมอบรถได้เพียง 1,000 คันเท่านั้น ขณะที่นิสสัน “มาร์ช” ยังได้การตอบรับจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดี และมียอดค้างส่งมอบอีกกว่า 5,000 คัน หรือต้องรอรถประมาณ 2-3 เดือน
นายประพัฒน์ กล่าวว่า จากปัญหาเรื่องการผลิต อาจทำให้เป้ายอดขายเดิมที่บริษัทตั้งไว้ 76,000 คันในปีนี้ได้รับผลกระทบ แต่เชื่อว่าถึงสิ้นปีน่าจะทำยอดขายรวมได้กว่า 70,000 คัน ซึ่งบริษัทได้เตรียมแผนลุยตลาดอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ถึง 3 รุ่น นั่นคือ ไมเนอร์เชนจ์ของปิกอัพ “นาวารา” เก๋งกลาง “เทียน่า” และเอสยูวี “เอ็กซ์เทรล” โดยจะเปิดรับจองที่ผู้จำหน่ายนิสสัน ทั่วประเทศ ตั้งแต่ 22 พฤศจิกายนนี้ พร้อมนำไปจัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 28 (Thailand International Motor Expo 2011)
สำหรับนาวารา ใหม่ เพิ่มความโดดเด่นด้วยรุ่น แกรนด์ไททาเนียม (Grand Titanium) และ สปอร์ตเวอร์ชั่น (Sports version) โดย นาวารา แกรนด์ไททาเนียม จะมาในโมเดลยกสูง “คาลิเบอร์” ทั้งตัวถังคิงแค็บ และดับเบิ้ลแค็บ เสริมด้วยชุดแต่ง ทั้งกระจังหน้า การ์ดกันชนหน้า กันชนหลัง กระจกมองข้าง มือจับเปิดประตู และล้ออัลลอยใหม่
ส่วนรุ่นสปอร์ต เวอร์ชั่น ได้รับการปรับโฉมทั้งในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ และขับเคลื่อนสองล้อแบบยกสูง คาลิเบอร์ เติมความเข้มด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ทรง V-SHAPE ขนาดใหญ่ และกันชนหน้าสไตล์สปอร์ต พร้อมกับล้ออัลลอยดีไซน์พิเศษเฉพาะรุ่น
โดย นาวารา แกรนด์ ไททาเนียม มีให้เลือก 6 รุ่นย่อย สนนราคา 695,000 – 837,500 บาท และนาวารา สปอร์ต เวอร์ชั่น มี7 รุ่นย่อย ราคา 675,000-954,000 บาท
ด้านนิสสัน เทียน่า ใหม่ ปรับโฉมรูปลักษณ์ ภายนอกและภายใน ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย และไฟตัดหมอกให้ดูโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น พร้อมกระจังหน้า กันชนหน้า และล้ออัลลอยอารมณ์สปอร์ตสไตล์ใหม่ และยังพิเศษด้วยไฟหน้าไบซีนอนใหม่ พร้อมโปรเจคเตอร์เลนส์ และระบบปรับลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติตามการเลี้ยวของรถ (Adaptive Front-lighting System: AFS) ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ขณะเข้าโค้งยามค่ำคืน ในส่วนของภายในมาพร้อมแผงหน้าปัดเรืองแสง แผงคอนโซลหน้าและวิทยุดีไซน์ใหม่ พร้อม 2 โทนสีให้เลือกทั้งโทนสีครีมหรูมีระดับ และโทนสีดำเข้มสไตล์สปอร์ตที่มาพร้อมลายไม้สีดำในรุ่น Sport Series
นิสสัน เทียน่า ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 7 รุ่น 5 สี โดยมีสี Greyish Bronze (KAC) ใหม่ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือก โดยรุ่นเครื่องยนต์ วี6 2.5 ลิตร ปรับราคาขึ้น 24,000 บาท และรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ปรับขึ้น 27,000 บาท
ปิดท้ายด้วยเอสยูวี เอ็กซ์เทรล ที่ปรับเปลี่ยนไฟหน้า ไฟท้าย ลายกระจังหน้า และกันชนหน้าให้ดูมีเอกลักษณ์ และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว ภายในมาพร้อมกับแผงหน้าปัดดีไซน์ใหม่ และเพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งภายในสีเงินบริเวณคอนโซลหน้าและที่เปิดประตูให้ทันสมัยเต็มขั้น รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น เบาะคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า ที่วางแก้วน้ำ ลิ้นชักด้านหน้าพร้อมระบบรักษาอุณหภูมิความเย็น และช่องปรับอากาศสำหรับที่นั่งด้านหลัง เครื่องเล่น DVD หน้าจอระบบสัมผัส ช่องเชื่อมต่อ USB iPod และ SD Card และระบบเชื่อม Bluetooth สนนราคาขาย 1.153 ล้านบาท หรือปรับขึ้นจากรุ่นเดิม 12,000บาท
“เรามั่นใจว่ารถทั้ง 3 รุ่นนี้จะช่วยสร้างสีสันให้กับตลาด โดยตั้งเป้าการขายสำหรับนิสสัน เทียน่าใหม่ที่ 7,000 คันต่อปี นาวาราใหม่ 27,000 คันต่อปี และ เอ็กซ์เทรลใหม่ 500 คันต่อปี ซึ่งเราคาดว่าสองรุ่นแรกจะเริ่มส่งทยอยมอบให้ลูกค้าได้ภายในเดือนธันวาคมนี้ ส่วนเอ็กซ์เทรล จะเริ่มส่งมอบในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า”นายประพัฒน์ กล่าว