xs
xsm
sm
md
lg

เก๋งเล็กแข่งเดือด! ค่ายรถทั่วทิศเปิดศึก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ค่ายรถจากแดนมังกรประเทศจีน “เฌอรี่” ยืนยันที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ในไทย ไม่ว่าจะเป็น “เฌอรี่ เอ13” (A13) ซับคอมแพ็กต์ซีดานและแฮทช์แบคขนาด 1.5 ลิตร
ข่าวในประเทศ - ปรอทองศาตลาดเก๋งระเบิด! ค่ายรถจากทั่วสารทิศรุมชิงเค้กก้อนโต 2.5-2.6 แสนคันในปีนี้ ประเดิมเปิดศึกกับ “มาสด้า2” ใหม่เวอร์ชั่นปี 2011 ที่ปรับรูปลักษณ์และเพิ่มอุปกรณ์ สร้างความคุ้มค่าให้กับลูกค้า แต่ต้องถูกยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” สกัดโอกาสรุ่ง ด้วยการส่งกิจกรรมการตลาด “VIOS We Love” แคมเปญพิเศษและกิจกรรมยาวตลอดปี และยังเป็นปฏิบัติการเบรกเกมคู่แข่ง “ฮอนด้า ซิตี้” ซึ่งเดือนกันยายนี้จะแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ ทั้งภายนอกและภายใน เพิ่มอุปกรณ์ความสะดวกสบายและปลอดภัย มาทุบคู่แข่งช่วงไตรมาสสุดท้าย โดยเฉพาะการเปิดตัวเขย่าตลาดของอีโคคาร์เวอร์ชั่นซีดาน 4 ประตู จากค่าย “นิสสัน” ที่กำหนดส่งลงทำตลาดในเดือนตุลาคมนี้ เพื่อกินรวบตลาดอีโคคาร์และซับคอมแพ็กต์ ขณะที่ค่ายจากแดนกิมจิไม่ยอมขอชิงเค้กกับเขาบ้าง “ฮุนได” ประกาศนำซับคอมแพ็กต์รุ่น “แอคเซนต์” มาลุยช่วงงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 ปลายปีนี้ เช่นเดียวกับ “เกีย ริโอ” ที่ขอมีเอี่ยวด้วย รวมถึงรถจีน “เฌอรี่” แต่ที่แหวกแนวเห็นจะเป็นค่ายรถอินเดีย “ทาทา” นำซิตี้คาร์รุ่น “นาโน” ฉีกไปเปิดตลาดใหม่ หวังจับกลุ่มลูกค้ารถจักรยานยนต์ ที่ต้องการขยับขึ้นมาซื้อรถคันแรก ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 2.75 แสนบาท
มาสด้า 2 ใหม่ เวอร์ชั่นปี 2011 ซึ่งได้มีการปรับรูปลักษณ์ในรุ่นซีดาน 4 ประตู ให้เป็นแบบเดียวกับรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู
“ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.ค.) ตลาดรถเก๋งขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นอีโคคาร์ หรือซับคอมแพ็กต์อย่างรุ่นมาสด้า2 มีสัดส่วนในตลาดรถยนต์ 27% ซึ่งหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 25% นับว่ามีการขยายตัวมากขึ้น หรือหากนับเป็นตัวเลขมียอดขาย 1.16 แสนคัน จากปีที่แล้วทำได้ 1.05 แสนคัน และหากดูสัดส่วนการขายในตลาดเก๋งทั้งหมด จะพบว่าเก๋งเล็กครองมากกว่า 65% นั่นแสดงให้เห็นทิศทางตลาดและความต้องการของผู้บริโภคต่อเก๋งเล็กได้เป็นอย่างดี โดยคาดว่าตลาดเก๋งเล็กปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2.5-2.6 แสนคัน ขณะที่ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 2.2 แสนคัน”

นั่นเป็นการรายงานสภาพตลาดและทิศทางของเก๋งเล็กของ “สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มเก๋งเล็กมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนผลักดันให้ภาพรวมตลาดเก๋งทั้งหมด มีสัดส่วนใกล้เคียง หรือเกือบเท่ากับปิกอัพ โดยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 43-44%

นี่จึงเป็นสาเหตุให้หลายค่ายรถ มองเห็นความต้องการของตลาดที่มีสูง และถือเป็นตลาดที่ค่อนข้างเปิดกว้าง ไม่ผูกขาดกับแบรนด์ใหญ่เหมือนปิกอัพ หรือเก๋งอื่นๆ ดังนั้นบรรดาค่ายรถจากทั่วสารทิศ จึงส่งสัญญาณเข้ามาชิงเค้กก้อนโตนี้กันอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นรายเก่าที่ทำตลาดอยู่แล้ว และรายใหม่ที่กำลังจะเข้ามา โดยเฉพาะนับจากเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป…
โตโยต้าออกกิจกรรมการตลาด “VIOS We Love”
ดังจะเห็นได้จากค่ายมาสด้า ที่แม้จะเพิ่งเปิดตัว “มาสด้า2” สู่ตลาดไทยเพียงปีกว่าๆ แต่ล่าสุดได้มีการขยับรับตลาดที่เริ่มแข่งขันรุนแรง ด้วยการแนะนำมาสด้า 2 ใหม่ เวอร์ชั่นปี 2011 ซึ่งได้มีการปรับรูปลักษณ์ในรุ่นซีดาน 4 ประตู ให้เป็นแบบเดียวกับรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู ในรุ่น SPIRIT และ MAXX ด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าใหม่ พร้อมไฟตัดหมอก และติดชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน และล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว ในรุ่นรองท็อป(SPIRIT) พร้อมปรับช่วงแบบสปอร์ต และในรุ่นล่างทั้งสองโมเดลเปลี่ยนเป็นล้ออัลลอยด์ 15 นิ้ว กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้าทุกรุ่น เช่นเดียวกับเสริมความปลอดภัยด้วยเบรกเอบีเอส และถุงลมนิรภัยคู่หน้าทุกรุ่นเช่นกัน โดยรุ่นท็อปของทั้งสองโมเดลติดตั้งเครื่องเล่น DVD/CD/MP3 ระบบสัมผัส ด้วยจอขนาด 7 นิ้ว พร้อมเชื่อมโทรศัทท์ผ่าน Bluetooth เชื่อมต่อ USB และ SD Card

นอกจากนี้ เพื่อคอนเซ็ปต์การตลาดใหม่และแตกแต่งกัน ให้กับมาสด้า2 เวอร์ชั่นปี 2011 จึงได้ใช้ชื่อรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตูว่า “New Mazda2 Sport S” พร้อมสโลแกน “สตาร์ทชีวิตอิสระ... กับตัวตนที่ท้าทาย” และรุ่นซีดาน 4 ประตู ใช้ชื่อรุ่นว่า ““New Mazda2 Elegance” ภายใต้สโลแกน “หรูมีสไตล์...ดีไซน์ชีวิตได้อย่างใจ” โดยมาสด้า2 ใหม่มีราคาเริ่มต้น 5.45 แสนบาท และรุ่นท็อปสุด 6.95 แสนบาท หรือปรับเพิ่ม 5,000-25,000 บาทแล้วแต่รุ่น
เป็นไปอย่างที่คาดกันไว้ รูปลักษณ์ของอีโคคาร์รุ่นซีดานในไทย แทบไม่แตกต่างจาก “นิสสัน ซันนี่” ที่จะเปิดตัวทำตลาดในประเทศจีน
ขณะที่ยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” ช่วงนี้ยังไม่มีการแต่งหน้าทาปากให้กับ “โตโยต้า วีออส-ยาริส” จนกว่าจะถึงท้ายปี หรือต้นปีหน้า แต่เพื่อไม่ให้คู่แข่งที่กำลังจะทยอยเปิดตัวรุ่นปรับโฉม และโมเดลใหม่สู่ตลาด จึงได้ออกกิจกรรมการตลาด “VIOS We Love” ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม VIOS We Love Festival ที่ฟรีช็อปปิ้งที่ห้างบิ๊กซี สำหรับลูกค้าที่จองรถวีออสในงาน ลูกค้าที่ใช้รถวีออส และลูกค้าทั่วไปที่มาร่วมงานที่โชว์รูม และผู้ทดลองขับวีออสรับเงื่อนไขพิเศษในงาน และยังมีกิจกรรม VIOS We Love photo contest ประกวดภาพถ่ายคู่กับรถวีออสคู่ใจ และปิดกิจกรรมส่งท้ายปีกับคอนเสิร์ตใหญ่ด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจจะซื้อรถโตโยต้า วีออส ยังมีแคมเปญพิเศษให้เป็นเจ้าของรถได้ง่ายขึ้น ด้วยการรับดอกเบี้ย 1.49% หรือเลือกรับบัตรกำนัลอุปกรณ์ตกแต่งโตโยต้ามูลค่า 15,000 บาท และแคมเปญทริปเปิลซีโร(Triple Zero) คือ 1.ดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน ผ่อน 0 บาท ในเดือนแรก และ3. ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน

“กิจกรรมทั้งหมดนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าวีออส และโตโยต้าได้เล็งเห็นถึงความนิยมที่มาต่อเนื่อง จึงได้เสริมบุคลิกวีออสให้หลากหลายยิ่งขึ้น โดยแนะนำพรีเซนเตอร์สาว สวย สดใส ร่าเริง และเต็มไปด้วยบุคลิกของคนรุ่นใหม่ อย่างเต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ ซึ่งเหมาะสำหรับโตโยต้า วีออส เพื่อเข้ามาเสริมภาพลักษณ์ร่วมกับ โจ-ภานุพล เอกเพชร และว่าน-ธนกฤต พานิชวิทย์ ในภาพยนตร์โฆษณาชุดล่าสุด ที่จะออกอากาศช่วงปลายเดือนนี้” วิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดกล่าว
“ฮุนได” ประกาศรุกตลาดเก๋งเล็กชัดเจนเช่นกัน โดยมีการเปิดเผยว่าช่วงปลายปีนี้เตรียมจะนำเข้าเก๋งซับคอมแพ็กต์โมเดลใหม่ “ฮุนได แอคเซนต์” (Hyundai Accent) เข้ามาทำตลาด
เรียกว่ายักษ์โตโยต้าชิงเหลี่ยมทางการตลาด ส่งกิจกรรมชน “มาสด้า2” และคู่แข่งสำคัญ “ฮอนด้า ซิตี้” ที่เร็วๆ นี้จะเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์สู่ตลาด หลังจากทำตลาดมาจะครบ 3 ปีแล้ว เพราะตามรายงานข่าวประมาณเดือนกันยายนนี้ จะมีการเปิดตัว “ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่” ซึ่งป็นการไมเนอร์เชนจ์ปรับรูปลักษณ์ให้สปอร์ตมากขึ้น โดยเฉพาะกระจังหน้า กันชนหน้าและหลังใหม่ พร้อมเพิ่มอุปกรณ์ความสะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้า เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำ และสวิทซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย เป็นต้น ส่วน “ซิตี้” รุ่นพลังงานทางเลือกอย่างระบบแก็สซีเอ็นจี นั้นมาแน่ แต่จากความเคลื่อนไหวล่าสุด น่าจะเลื่อนการเปิดตัวไปเป็นต้นปีหน้า

ส่วนค่าย “นิสสัน” ได้ตีฆ้องสกัดคู่แข่งไปแล้ว กับการประกาศจะเปิดตัวอีโคคาร์รุ่นซีดาน 4 ประตู มาทำตลาดเสริมรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู “นิสสัน มาร์ช” โดยได้มีการนำรถโมเดลของอีโคคาร์รุ่นซีดาน มาเปิดเผยให้ผู้สื่อข่าวได้ยลรูปลักษณ์ ไปแล้ว และก็เป็นไปอย่างที่คาดกันไว้ รูปลักษณ์ของอีโคคาร์รุ่นซีดานในไทย แทบไม่แตกต่างจาก “นิสสัน ซันนี่” ที่จะเปิดตัวทำตลาดในประเทศจีน แต่ในไทยยังไม่ชัดเจนจะใช้ชื่ออะไร เพียงแต่มีกระแสข่าวอาจจะใช้ชื่อ “อัลเมรา”(Almera) เท่านั้น


ทั้งนี้นิสสัน ประเทศไทย ระบุว่าจะเริ่มผลิตอีโคคาร์รุ่นซีดานเดือนกันยายน และจะเปิดตัวทำตลาดช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการเชิญดีลเลอร์และสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง ไปทดลองขับอีโคคาร์รุ่นซีดาน และชัดเจนว่าจะใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกับ นิสสัน มาร์ช และแม้ตัวถังของรุ่นซีดานจะใหญ่ขึ้น ระดับเดียวกับซับคอมแพ็กต์ หรือน้องๆ เก๋งคอมแพ็กต์ แต่น้ำหนักไม่มากอย่างที่คิด จึงไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์ซูเปอร์ชาร์จ หรือ DIG-S (Direct Injection Gasoline - Supercharger) ที่ติดตั้งบนรถมาร์ชรุ่นขายในต่างประเทศ และจากตัวถังที่ใหญ่ขึ้น นิสสันประเทศไทยจึงวางตำแหน่งทางการตลาดของอีโคคาร์รุ่นซีดาน ครอบคลุมกลุ่มซับคอมแพ็กต์แบบซีดานด้วย

“เกีย” เตรียมนำเข้าเก๋งซับคอมแพ็กต์รุ่นใหม่ “เกีย ริโอ” (KIA RIO)
ส่วนอีกค่ายรถ “ฮุนได” ประกาศรุกตลาดเก๋งเล็กชัดเจนเช่นกัน โดยมีการเปิดเผยว่าช่วงปลายปีนี้เตรียมจะนำเข้าเก๋งซับคอมแพ็กต์โมเดลใหม่ “ฮุนได แอคเซนต์” (Hyundai Accent) เข้ามาทำตลาดในไทยช่วงงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 นี้แน่นอน แต่ฮุนไดประเทศไทยยังไม่ระบุรายละเอียดจะนำเข้ารุ่นไหน เพราะกำลังศึกษารายละเอียดความเหมาะสมอยู่ เนื่องจากมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล 1400 และ 1600 ซีซีให้เลือก แต่เบื้องต้นจะนำเข้ารุ่นซีดาน หรือแบบ 4 ประตูมาขายก่อน

ขณะที่อีกค่ายจากแดนกิมจิ “เกีย” เตรียมนำเข้าเก๋งซับคอมแพ็กต์รุ่นใหม่ “เกีย ริโอ” (KIA RIO) เข้ามาทำตลาด โดยอย่างเร็วน่าจะเป็นภายในกันยายนหรือตุลาคมนี้ หรืออย่างช้าน่าจะเป็นภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 ช่วงท้ายปี ซึ่งรุ่นริโอที่จะนำเข้ามาทำตลาด เป็นโฉมใหม่เจเนอเรชันที่ 4 เพิ่งเปิดตัวไปในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2011 มีทั้งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซิน คาดว่าจะทำตลาดกับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร 90 แรงม้า


ไม่เพียงเท่านั้นค่ายรถจากแดนมังกรประเทศจีน “เฌอรี่” หลังจากแนะนำรถตู้ขนาด 14 ที่นั่ง รุ่น “บิ๊ก-ดี” (Big- D) และได้รับการตอบรับจากลูกค้าในไทยเกินคาด แต่ติดปัญหาบริษัทแม่ในจีนไม่สามารถส่งมอบรถให้ได้ทันตามต้องการ แต่ยังยืนยันที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ในไทย ไม่ว่าจะเป็น “เฌอรี่ เอ13” (A13) ซับคอมแพ็กต์ซีดานและแฮทช์แบคขนาด 1.5 ลิตร, “เฌอรี่ เอ3” (A3) รถซีดานและแฮทช์แบ็ก 1.6 และ 1.8 ลิตร และรถมินิเอ็มพีวี “เฌอรี่ คิว22” (Q22)

“ทาทา” ล่าสุดมีความชัดเจนมากขึ้นในการทำตลาดรถเล็ก
“ปลายปีนี้อาจจะมีการนำรถบางรุ่น เข้ามาทำตลาดในงานมอเตอร์เอ็กซ์ 2011 อย่างรุ่นเฌอรี่ เอ13 หากทางจีนเริ่มผลิตรุ่นพวงมาลัยขวาได้ทั รวมถึงการผลิตเกียร์เกียร์อัตโนมัติให้กับรถที่ขายอยู่อย่างรุ่นเอ1 เพราะปัญหาปัจจุบันมีเฉพาะรุ่นเกียร์ธรรมดา ทำให้ตลาดใหญ่ของเฌอรี่อยู่ที่ต่างจังหวัด หากมีรุ่นเกียร์อัตโนมัติจะช่วยขยายตลาดในเมืองได้มากขึ้น” มนทกานติ์ คณะวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเฌอรี่ยานยนตร์ จำกัดกล่าว

สำหรับค่ายรถจากประเทศอินเดีย “ทาทา” ที่เงื้อง่าจะรุกตลาดเก๋งเล็กในไทยมาตลอด ตั้งแต่ขอร่วมโครงการอีโคคาร์และสุดท้ายต้องถอนตัวออกไป จนนำซิตี้คาร์ “ทาทา นาโน” เข้ามาสำรวจความต้องการตลาดร่วม 2 ปีแล้ว ล่าสุดมีความชัดเจนมากขึ้นในการทำตลาดรถเล็ก เมื่อได้ให้บริษัทแม่ที่อินเดียผลิตรถรุ่นนาโน เวอร์ชั่นที่จะทำตลาดในไทยออกมาแล้ว เหลือเพียงปรับสเปกบางอย่าง คาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในช่วงงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 นี้ และอาจจะไม่ใช้ชื่อรุ่น “ทาทา นาโน” ด้วย

ทาทา นาโน เป็นซิตี้คาร์วางเครื่องยนต์ 624 ซีซี อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 23.6 กม./ลิตร โดยทาทา มอเตอร์ส ประเทศไทย จะไม่ลงไปแข่งขันกับ “อีโคคาร์” แต่จะเปิดตลาดใหม่เจาะกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ที่ต้องการจะขยับมาใช้รถยนต์เป็นครั้งแรก โดยเบื้องต้นมีให้เลือกเพียงรุ่นเดียวเฉพาะเกียร์ธรรมดา และมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 2.75 แสนบาท

นี่เป็นเพียงเก๋งเล็กที่มีแผนจะทยอยแนะนำสู่ตลาด ไปจนถึงภายในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งยังไม่นับรวมรถรุ่นอื่นๆ ที่จะเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นอีโคคาร์ของ “มิตซูบิชิ” และ “ซูซูกิ” แต่แค่นี้... ปรอทองศาตลาดเก๋งเล็ก ก็แทบจะระเบิดแล้ว!!
กำลังโหลดความคิดเห็น