ข่าวในประเทศ-ตลาดรถยนต์ไทยหลังผ่านพ้น 7 เดือนแรกของปี 2554 เริ่มกลับสู่หนทางเติบโตที่ชัดเจนอีกครั้ง หลังจากกำลังการผลิตที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติของค่ายรถญี่ปุ่น ทำให้สามารถส่งมอบรถได้เร็วขึ้น รวมปิดยอดอยู่ที่ 504,914 คัน เพิ่มขึ้น 19.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนกรกฎาคม 2554 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 72,902 คัน เพิ่มขึ้น 11.% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 32,277 คัน เพิ่มขึ้น 12.2% รถเพื่อการพาณิชย์ 40,625 คัน เพิ่มขึ้น 10.1% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 35,028 คัน เพิ่มขึ้น 12.6%
ขณะที่ตลาดรถยนต์สะสม 7 เดือนแรก มีปริมาณการขาย 504,914 คัน เพิ่มขึ้น 19.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากความนิยมอย่างต่อเนื่องของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ การแข่งขันในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่จูงใจ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่ขยายตัวและอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ
รวมทั้งคาดการณ์ในเดือนสิงหาคมยังคงเติบโตต่อไป จากความนิยมต่อเนื่องในรถยนต์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะรถเพื่อการพาณิชย์ ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 50% ประกอบกับการจัดกิจกรรมทางการตลาดรูปแบบใหม่ๆ จากค่ายรถยนต์ กระแสเงินไหลเข้าในประเทศยังอยู่ในระดับสูง แม้จะได้รับผลกระทบบ้างจากการเพิ่มเพดานหนี้ ของสหรัฐอเมริกา และปัญหาหนี้ของกลุ่มประเทศในแถบยุโรป อย่างไรก็ดีอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อาจส่งผลให้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการดำเนินธุรกิจและอาจส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ได้
รวมยอดขายรถยนต์ประจำเดือนกรกฎาคม 2554
ยอดขายรถยนต์นั่ง
ยอดขายปิกอัพขนาด 1 ตัน
ที่มา : บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
หน่วย : คัน
วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนกรกฎาคม 2554 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 72,902 คัน เพิ่มขึ้น 11.% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 32,277 คัน เพิ่มขึ้น 12.2% รถเพื่อการพาณิชย์ 40,625 คัน เพิ่มขึ้น 10.1% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 35,028 คัน เพิ่มขึ้น 12.6%
ขณะที่ตลาดรถยนต์สะสม 7 เดือนแรก มีปริมาณการขาย 504,914 คัน เพิ่มขึ้น 19.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากความนิยมอย่างต่อเนื่องของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ การแข่งขันในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่จูงใจ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่ขยายตัวและอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ
รวมทั้งคาดการณ์ในเดือนสิงหาคมยังคงเติบโตต่อไป จากความนิยมต่อเนื่องในรถยนต์รุ่นใหม่ โดยเฉพาะรถเพื่อการพาณิชย์ ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 50% ประกอบกับการจัดกิจกรรมทางการตลาดรูปแบบใหม่ๆ จากค่ายรถยนต์ กระแสเงินไหลเข้าในประเทศยังอยู่ในระดับสูง แม้จะได้รับผลกระทบบ้างจากการเพิ่มเพดานหนี้ ของสหรัฐอเมริกา และปัญหาหนี้ของกลุ่มประเทศในแถบยุโรป อย่างไรก็ดีอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อาจส่งผลให้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการดำเนินธุรกิจและอาจส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ได้
รวมยอดขายรถยนต์ประจำเดือนกรกฎาคม 2554
ยอดขายรถยนต์นั่ง
ยอดขายปิกอัพขนาด 1 ตัน
ที่มา : บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
หน่วย : คัน