xs
xsm
sm
md
lg

เอ.พี.ฮอนด้า เผยแผน 3 ปี “ใหญ่ ใหม่ มัน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลัง“เอ.พี.ฮอนด้า” ประกาศแผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปี ฉบับใหม่ (พ.ศ. 2554-2556) โดยมุ่งเน้นและตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทย ผ่านแบรนด์อันแข็งแกร่ง โปรดักต์คุณภาพ กิจกรรมการตลาดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย พร้อมตอบสนองความพอใจสูงสุดของลูกค้าในทุกๆด้าน

ในส่วนของโปรดักต์ เอ.พี.ฮอนด้า ย้ำว่าภายใน 3 ปีนี้ จะมีการเปิดตัวรถใหม่อย่างน้อย 11 รุ่น ซึ่งจะมีทางเลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถบ้านทั่วไป รถแฟชันเอาใจวัยรุ่น ไปจนถึงความหรูหราระดับ สกูตเตอร์ใหญ่ และบิ๊กไบค์ พร้อมชูเทคโนโลยีหัวฉีด PGM-FI ซึ่งฮอนด้าถือเป็นผู้บุกเบิกและทำตลาดอย่างจริงจังเป็นเจ้าแรก (รถของฮอนด้าเป็นหัวฉีดทุกรุ่น ตั้งแต่เมษายนปีที่แล้ว)

โดยหนึ่งรุ่นที่ประเดิมเปิดตัวไปตั้งแต่ต้นปีคือ มอเตอร์ไซค์คู่บ้านคู่เมือง “เวฟ110ไอ ใหม่” (Honda Wave 110i) ที่ปรับปรุงรูปลักษณ์ และออปชัน มาพร้อมเครื่องยนต์หัวฉีด สนนราคาเริ่มต้น 38,400 บาท ซึ่งฮอนด้าวางเป้าหมายการขายปีนี้ไว้ถึง540,000คัน

อย่างไรก็ตามยังมีความชัดเจนว่า ฮอนด้าเตรียมทำตลาดรถเซกเมนท์ใหม่ หรือเป็นมอเตอร์ไซค์ราคาประหยัด เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าระดับล่างอีกด้วย

“หากจะกล่าวถึงรถระดับล่างคงมี 2 ความหมาย ประการแรกคือการทำรถใหม่ออกมาตอบโต้กับรถจีน หรือแบรนด์ราคาถูกที่ทะลักเข้ามาขายในไทย และประการที่สองคือการทำรถรุ่นใหม่ที่ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย ขณะเดียวกันก็เป็นการขยายธุรกิจไปในตัว ซึ่งฮอนด้าคิดในประเด็นหลัง และเป็นแผนการในระยะยาว” จิอากิ คาโต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด กล่าวกับ “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” และว่า

“ตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทยเริ่มมีสัญญาณอิ่มตัว เราต้องคิดถึงการขยายตลาด หรือการเปิดไปสู่เส้นทางใหม่ๆ ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มลูกค้าที่เรียกร้องรถราคาถูก เราจึงไม่อาจปฎิเสธความต้องการได้”

เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดของรถจักรยานยนต์ราคาประหยัดรุ่นนี้ “จิอากิ คาโต” แย้มว่า กำลังอยู่ในขึ้นตอนศึกษา ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากนัก ส่วนเรื่องของราคาต้องพิจารณาว่า ปัจจุบันรถจักรยานยนต์ถูกที่สุดราคาอยู่ประมาณ 35,000 - 36,000 บาท ดังนั้นถ้าเป็นรถเซกเมนต์ใหม่เพื่อให้ลูกค้าซื้อหาได้ง่าย ราคาก็ควรจะลดลงมาอีกอย่างน้อย 10% แต่ถ้าเหนือไปกว่านั้นสามารถจัดการต้นทุน และทำราคาขายไม่ถึง 30,000 บาทได้ ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก

“เราต้องการทำรถราคาถูกลง แต่รถต้องมีคุณภาพให้อยู่ในระดับที่ลูกค้าชาวไทยยอมรับได้ และมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ซึ่งทีมงานของฮอนด้ากำลังพยายามกันอยู่ และถือเป็นความท้าทายในการทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่มีใครทำได้” จิอากิ คาโต กล่าว

ในเมื่อโปรดักต์มีความพร้อมจากการวางแผนระยาว และบูรณาการเทคโนโลยีขับเคลื่อนให้มีความชัดเจนสอดคล้องกับกฏหมาย-มาตรฐานไอเสีย (เหมือนตอนเปลี่ยนจาก มอเตอร์ไซค์ 2 จังหวะ เป็น 4 จังหวะ) ที่เหลือคงเป็นวิธีแนะนำรถเข้าสู่ตลาด ซึ่งในระยะหลังมักจะเห็นสีสันความแปลกใหม่จากฮอนด้าอยู่เสมอ

โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดคือการทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น ไว้ว่าจะแบบ Above the Line หรือBelow the Line และตามแผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปีที่เพิ่งประกาศไป คือการใช้แบรนด์กลยุทธ์ “ชีวิตสนุกถ้าไม่หยุดค้นหา Discover Your Fun” เน้นจัดกิจกรรมที่ “ใหญ่ ใหม่ มัน” แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

ดังนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย คือการเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในทุกด้าน ผ่านแบรนด์แมสเสจ “ชีวิตสนุกถ้าไม่หยุดค้นหา” ฮอนด้าจึงตัดสินใจใช้เครื่องมือระดับโลกอย่าง สโมสรฟุตบอล “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ต” และ “ลิเวอร์พูล”

บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด จัดการเซ็นสัญญา 3 ปี เป็นพันธมิตรกับ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ต” และ “ลิเวอร์พูล” เพื่อร่วมทำกิจกรรมการตลาดแบบ“สปอร์ต ไลฟ์สไตล์” และคาดว่าจะต้องจ่ายเงินในการเซ็นสัญญาเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท (แมนฯยู ประมาณ 100 ล้านบาท ส่วน ลิเวอร์พูล ประมาณ 50 ล้านบาท)

สำหรับรายละเอียดต่างๆของแคมเปญยังไม่เปิดเผย แต่เชื่อว่า เอ.พี.ฮอนด้า จะจัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการช่วงเดือนกรกฎาคม หรือก่อนเปิดฤดูกาลแข่งขันใหม่ 2011-2012

“นอกเหนือไปจากรถจักรยานยนต์คุณภาพ ที่ใช้งานดี ขับขี่ง่าย ซ่อมบำรุงไม่มีปัญหา เราอยากมอบความสุขให้คนไทยในหลายรูปแบบ ทั้ง ดนตรี(คอนเสิร์ต) กีฬา และประสบการณ์การขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้ภาพใหญ่ของแคมเปญ ชีวิตสนุกถ้าไม่หยุดค้นหา” จิอากิ คาโต กล่าวและว่า

ในส่วนของ “กีฬา” ฮอนด้าเห็นว่าคนไทยชอบฟุตบอลมาก โดยเฉพาะฟุตบอลอังกฤษ ที่มีสโมสร “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ต” และ “ลิเวอร์พูล” เป็นขวัญใจ ซึ่งกิจกรรมร่วมสนุกจะมีต่อยอดหลากหลายตลอดทั้งปี

สำหรับงบการตลาดที่ใช้ในแคมเปญตลอด 3 ปีค่อนข้างสูง และถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ทำธุรกิจในไทยมา 25 ปี แต่กระนั้นก็ถือว่าคุ้มค่า ถ้าสิ่งที่ได้รับกลับมาคือความสุขของลูกค้า อันไม่สามารถตีเป็นจำนวนเงินได้

จิอากิ คาโต ยังย้ำว่า การนำสโมสร “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ต” และ “ลิเวอร์พูล” มาร่วมทำกิจกรรมการตลาดถือเป็นการตอบแทนความไว้วางใจที่ลูกค้ามีให้กับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า โดยสิ่งที่ได้รับจากทั้งสองสโมสรจะต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น และขณะนี้เรากำลังต่อรองผลประโยชน์ต่างๆอยู่ แต่เชื่อว่าสุดท้ายจะมีเซอร์ไพรส์แน่นอน

...นั่นเป็นดีลกระหึ่มวงการที่ เอ.พี.ฮอนด้า เตรียมขนมาให้คนไทยได้สัมผัสในเร็วๆนี้ ซึ่งภายในระยะเวลา 3 ปี ที่เซ็นสัญญา ย่อมมีค่าใช้จ่ายรวมกับกิจกรรมต่างๆไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท ดังนั้นก็ต้องวัดกึ๋นของฮอนด้า ว่าจะดึงผลประโยชน์ หรือสิ่งที่ควรจะได้รับจากทั้งสองสโมสรออกมาใช้ทำตลาดในไทยได้คุ้มค่าแค่ไหน?


กำลังโหลดความคิดเห็น