ในที่สุดสายพันธุ์ 147 ก็เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดในการทำตลาด และข่าวที่ว่าจะมีรุ่น 149 (เหมือนกับที่เพื่อนร่วมสายพันธุ์อย่าง 156 มีรุ่น 159) ออกมาทำตลาดแทนที่นั้นก็เป็นข่าวลือไปซ่ะแล้ว เมื่ออัลฟาจัดการคลอดตัวแทนแฮทช์แบ็คคอมแพ็กต์รุ่นนิ้ออกมาแล้ว และเป็นการปัดฝุ่นนำชื่อจุยเลียตต้ากลับมาใช้อีกครั้งหลังจากที่เลิกทำตลาดไปในปี 1985
จุยเลียตตาใหม่ มีคิวเปิดตัวคันจริงให้เห็นในเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2010 ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ แต่ทางอัลฟาอุ่นเครื่องด้วยการเผยภาพพร้อมรายละเอียดของตัวรถรุ่นใหม่ออกมาให้รับทราบกันก่อน โดยจุยเลียตตาใหม่จะเข้ามาทำตลาดแทนที่รุ่น 147 ซึ่งขายมานานตั้งแต่ปี 2000
สำหรับชื่อนี้ถูกใช้กับรถยนต์ซับคอมแพ็กต์ของอัลฟาที่เปิดตัวขายในระหว่างปี 1954-1965 โดยมีทั้งตัวถังซีดาน คูเป้ และเปิดประทุน ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยสายพันธุ์จุยเลีย (Giulia) ในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม จากการที่อัลฟาพยายามเดินหน้ารุกตลาดคอมแพ็กต์ด้วยซีดานรุ่นใหม่จึงเป็นที่มาในการนำชื่อจุยเลียตตากลับมาใช้อีกครั้งให้กับรถยนต์ 4 ประตูซีรีส์ 116 ที่เปิดตัวในปี 1977 ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้แม้จะใช้ชื่อว่าจุยเลียตตา แต่ก็เป็นที่รู้จักในกลุ่มแฟนของอัลฟาว่า Giulietta Nuovo หรือ The New Giulietta ซึ่งในบ้านเราก็มีขายด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้าการเปิดตัวแฮทข์แบ็คคอมแพ็กต์ใหม่รุ่นนี้ ทางอัลฟาวางแผนจะใช้ชื่อ 149 และต่อมาก็ถูกเปลี่ยนมาเป็น Milano แต่สุดท้ายแล้ว ชื่อจุยเลียตตากลับมาวิน และแซงเข้าป้ายไป โดยเป็นการกลับมาอีกครั้งหลังจากหายไปจากตลาดนานร่วม 25 ปีเลยทีเดียว
รถยนต์รุ่นนี้ถูกวางให้เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีอายุระหว่าง 27-40 ปี ซึ่งจากกลุ่มที่มีอายุสูงขึ้นและมีแนวโน้มของการสนใจเรื่องของรถยนต์สำหรับครอบครัว ทำให้จุยเลียตตาใหม่จะมีจำหน่ายด้วยตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 แประตูเท่านั้น ส่วนตลาดสปอร์ตแบบ 3 ประตูจะเป็นหน้าที่ของ Mi.To โดยตัวรถได้รับการพัฒนาอยู่บนพื้นตัวถังแบบเครื่องยนต์วางด้านหน้าและขับเคลื่อนล้อหน้าในรหัส C-EVO ซึ่งเป็นการปรับปรุงมาจากพื้นตัวถังแบบ Group C ของเฟียต ซึ่งใช้อยู่กับรถยนต์อย่างเฟียต บราโว และแลนเซีย เดลต้า
พื้นตัวถังรุ่นใหม่นี้ถูกขยายให้มีระยะฐานล้อยาวขึ้น ซึ่งขยับขึ้นมาอยู่ในระดับ 2,630 มิลลิเมตร และขนาดตัวถังของจียเลียตตาใหม่อยู่ที่ 4,300 มิลลิเมตร กว้าง 1,800 มิลลิเมตร และสูง 1,430 มิลลิเมตร ส่วนเครื่องยนต์ที่จะทำตลาดเป็นแบบ 4 สูบเรียงล้วนๆ มีให้เลือก 5 แบบ คือ เบนซิน 2 รุ่น 1,400 ซีซี แต่รีดกำลังด้วยเทอร์โบในชื่อ TB ซึ่งในรุ่นธรรมดามีกำลังอยู่ที่ 120 แรงม้า ส่วนรุ่นแรงในชื่อ MultiAir ขยับขึ้นมาเป็น 170 แรงม้า ส่วนเทอร์โบดีเซลมีทั้งแบบ 1,600 ซีซี 105 แรงม้า และ 2,000 ซีซีซึ่งมีให้เลือก 2 รุ่นคือ 140 และ 170 แรงม้า
ส่วนความเร้าใจในแบบ Clover Leaf หรือ 'Quadrifoglio Verde' (ซึ่งเมื่อก่อนในยุค 147 ใช้ชื่อ GTA) เพื่ออัดกับ โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ GTI นั้นจะแรงและเร้าใจกับเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,700 ซีซี เทอร์โบ ที่รีดกำลังออกมาได้ 235 แรงม้าเลยทีเดียว และเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้อยู่กับ อัลฟา 159
แฟนๆ อัลฟาที่กำลังมองหาความสปอร์ตแบบกะทัดรัดรอกันได้อีกไม่นาน โดยหลังจากเปิดตัวแล้ว อัลฟาจะเริ่มทำตลาดให้กับจุยเลียตตาใหม่ในช่วงกลางปี 2010 โดยคาดว่าน่าจะมีราคาขายในยุโรปประมาณ 20,000 ยูโร หรือ 1 ล้านบาท
จุยเลียตตาใหม่ มีคิวเปิดตัวคันจริงให้เห็นในเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2010 ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ แต่ทางอัลฟาอุ่นเครื่องด้วยการเผยภาพพร้อมรายละเอียดของตัวรถรุ่นใหม่ออกมาให้รับทราบกันก่อน โดยจุยเลียตตาใหม่จะเข้ามาทำตลาดแทนที่รุ่น 147 ซึ่งขายมานานตั้งแต่ปี 2000
สำหรับชื่อนี้ถูกใช้กับรถยนต์ซับคอมแพ็กต์ของอัลฟาที่เปิดตัวขายในระหว่างปี 1954-1965 โดยมีทั้งตัวถังซีดาน คูเป้ และเปิดประทุน ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยสายพันธุ์จุยเลีย (Giulia) ในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม จากการที่อัลฟาพยายามเดินหน้ารุกตลาดคอมแพ็กต์ด้วยซีดานรุ่นใหม่จึงเป็นที่มาในการนำชื่อจุยเลียตตากลับมาใช้อีกครั้งให้กับรถยนต์ 4 ประตูซีรีส์ 116 ที่เปิดตัวในปี 1977 ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้แม้จะใช้ชื่อว่าจุยเลียตตา แต่ก็เป็นที่รู้จักในกลุ่มแฟนของอัลฟาว่า Giulietta Nuovo หรือ The New Giulietta ซึ่งในบ้านเราก็มีขายด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้าการเปิดตัวแฮทข์แบ็คคอมแพ็กต์ใหม่รุ่นนี้ ทางอัลฟาวางแผนจะใช้ชื่อ 149 และต่อมาก็ถูกเปลี่ยนมาเป็น Milano แต่สุดท้ายแล้ว ชื่อจุยเลียตตากลับมาวิน และแซงเข้าป้ายไป โดยเป็นการกลับมาอีกครั้งหลังจากหายไปจากตลาดนานร่วม 25 ปีเลยทีเดียว
รถยนต์รุ่นนี้ถูกวางให้เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีอายุระหว่าง 27-40 ปี ซึ่งจากกลุ่มที่มีอายุสูงขึ้นและมีแนวโน้มของการสนใจเรื่องของรถยนต์สำหรับครอบครัว ทำให้จุยเลียตตาใหม่จะมีจำหน่ายด้วยตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 แประตูเท่านั้น ส่วนตลาดสปอร์ตแบบ 3 ประตูจะเป็นหน้าที่ของ Mi.To โดยตัวรถได้รับการพัฒนาอยู่บนพื้นตัวถังแบบเครื่องยนต์วางด้านหน้าและขับเคลื่อนล้อหน้าในรหัส C-EVO ซึ่งเป็นการปรับปรุงมาจากพื้นตัวถังแบบ Group C ของเฟียต ซึ่งใช้อยู่กับรถยนต์อย่างเฟียต บราโว และแลนเซีย เดลต้า
พื้นตัวถังรุ่นใหม่นี้ถูกขยายให้มีระยะฐานล้อยาวขึ้น ซึ่งขยับขึ้นมาอยู่ในระดับ 2,630 มิลลิเมตร และขนาดตัวถังของจียเลียตตาใหม่อยู่ที่ 4,300 มิลลิเมตร กว้าง 1,800 มิลลิเมตร และสูง 1,430 มิลลิเมตร ส่วนเครื่องยนต์ที่จะทำตลาดเป็นแบบ 4 สูบเรียงล้วนๆ มีให้เลือก 5 แบบ คือ เบนซิน 2 รุ่น 1,400 ซีซี แต่รีดกำลังด้วยเทอร์โบในชื่อ TB ซึ่งในรุ่นธรรมดามีกำลังอยู่ที่ 120 แรงม้า ส่วนรุ่นแรงในชื่อ MultiAir ขยับขึ้นมาเป็น 170 แรงม้า ส่วนเทอร์โบดีเซลมีทั้งแบบ 1,600 ซีซี 105 แรงม้า และ 2,000 ซีซีซึ่งมีให้เลือก 2 รุ่นคือ 140 และ 170 แรงม้า
ส่วนความเร้าใจในแบบ Clover Leaf หรือ 'Quadrifoglio Verde' (ซึ่งเมื่อก่อนในยุค 147 ใช้ชื่อ GTA) เพื่ออัดกับ โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ GTI นั้นจะแรงและเร้าใจกับเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,700 ซีซี เทอร์โบ ที่รีดกำลังออกมาได้ 235 แรงม้าเลยทีเดียว และเป็นเครื่องยนต์ที่ใช้อยู่กับ อัลฟา 159
แฟนๆ อัลฟาที่กำลังมองหาความสปอร์ตแบบกะทัดรัดรอกันได้อีกไม่นาน โดยหลังจากเปิดตัวแล้ว อัลฟาจะเริ่มทำตลาดให้กับจุยเลียตตาใหม่ในช่วงกลางปี 2010 โดยคาดว่าน่าจะมีราคาขายในยุโรปประมาณ 20,000 ยูโร หรือ 1 ล้านบาท
