ใครก็ตามที่เดินเที่ยวชมรถยนต์ต่างๆในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 26 นี้ หากได้เงยหน้ามองขึ้นไปข้างบนเพดานของชาเลนเจอร์ ฮอลล์ จะเห็นรถยนต์ลอยอยู่คันหนึ่ง นั่นก็คือ “มาสด้า2” บางคนสงสัยเพราะเหตุอันจึงไปลอยอยู่อย่างนั้น "ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง" มีคำตอบมาให้กับบทสัมภาษณ์ “สุรีทิพย์ ละอองทอง” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
- ทำไมจึงนำมาสด้า2ขึ้นไปลอย?
เพื่ออธิบายคอนเซปต์เรื่องรถมีน้ำหนักเบาให้เห็นเป็นรูปธรรม ด้วยนกพับเพียง 1 ฝูงก็สามารถยกรถมาสด้า2 ให้ลอยได้ (ในงานถ้าดูใกล้ๆ จะเห็นนกพับฝูงหนึ่งอยู่เหนือมาสด้า2) ทั้งนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮิโรชิมา ซึ่งเป็นเมืองต้นกำเนิดของเทคโนโลยี ไลท์เวท (Lightweight Technology) ที่ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถมาสด้า2 โดยเป็นเทคโนโลยีที่มาสด้าคิดค้นขึ้นมาตั้งแต่ต้น
- เทคโนโลยีนี้เป็นอย่างไร?
เดิมเทคโนโลยีไลท์เวท นำมาใช้อยู่ในรุ่น เอ็มเอ็กซ์-5 (MX-5) ซึ่งมีส่วนทำให้รถรุ่นดังกล่าวประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ช่วยด้านการประหยัดน้ำมัน เพราะการทำรถให้ประหยัดน้ำมันได้ ไม่ใช่แค่การพัฒนาเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว แต่การพัฒนาชิ้นส่วนและระบบอื่นๆ ก็สามารถบรรลุผลลัพธ์เหมือนกันได้ โดยมาสด้าเลือกพัฒนาด้านการลดน้ำหนักเป็นจุดสำคัญ เนื่องจากเมื่อรถมีน้ำหนักโดยรวมไม่มาก ภาระของเครื่องยนต์ก็จะน้อยลงในการแบกน้ำหนักรถ
มาสด้าใช้เทคโนโยลีไลท์เวท โดยนำมาใช้กับรุ่น 2 ด้วยวิธีการเลือกเหล็กที่นำมาผลิตรถเป็นเกรดสูงคุณภาพ อุลตร้าไฮ ที่มีความเหนียว ทนทาน ฉีดขาดยากกว่าเหล็กธรรมดาทั่วไป นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการออกแบบการเดินสายไฟ ให้มีความซับซ้อนน้อยลงเพื่อลดจำนวนสายไฟที่ใช้ รวมถึงการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้เกี่ยวกับเครื่องยนต์เช่น ฝาสูบเป็นอลูมิเนียม ทำให้น้ำหนักโดยรวมของรถลดลงไปโดยคงสมรรถนะที่ดีเอาไว้
- ความปลอดภัย?
จากเทคโนโลยีไลท์เวท เหล็กที่ใช้ผลิตมาสด้า2 สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดีกว่าเหล็กธรรมดาทั่วไป ยังมีส่วนช่วยรถแรงสั่นสะเทือน ซึ่งจริงๆ แล้วเหล็กที่แข็งกว่าจะด้อยกว่า เพราะคุณสมบัติจะมีความเปราะสูงกว่า และหากเกิดการชนจะถ่ายทอดแรงไปยังผู้โดยสารในห้องโดยสารได้ดีกว่า ฉะนั้นจึงทำให้ผู้โดยสารมีโอกาสได้รับบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น
ต่อข้อถามเรื่องของดรัมเบรกหลัง เหตุใดจึงไม่ใช้ดิสก์เบรก หลักการก็คือเรื่องของการลดน้ำหนักและความนุ่มนวลในการขับขี่ เพราะเมื่อน้ำหนักโดยรวมลดลงแล้วการใช้ดิกส์หลังจึงไม่จำเป็น ทั้งนี้ยังมีเรื่องของความนุ่มนวลในการเบรกที่ดรัมเบรกจะให้ความรู้สึกในการหยุดรถนุ่มนวลกว่าดิสก์ รวมถึงเรื่องของค่าบำรุงรักษา ผู้บริโภคก็จะจ่ายน้อยลง
-ยอดขายมาสด้า2 เป็นอย่างไร?
ถึงวันนี้ (10 ธ.ค.) ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการคือยอดจอง 2,700 คัน ทั่วประเทศ รวมกับในมอเตอร์ เอ็กซ์โปอีก 900 คัน เท่ากับมียอดจองราว 3,600 คัน ขณะที่เมื่อเดือนที่แล้วมาสด้ารายงานตัวเลขขายและส่งมอบแล้วราว 1,017 คัน รวมกันทั้งหมดนับตั้งแต่เปิดตัวมาสด้า2 มียอดขายกว่า 4,600 คันแล้ว
ทั้งนี้ลูกค้าที่จองรถหลังจากวันนี้จะต้องรอรถประมาณ 30 วัน ขึ้นอยู่กับสีและรุ่นย่อย โดยสีที่ขายดีที่สุดคือ ขาว 40% รองลงมาเป็นสีเขียว 25% ส่วนสีที่ขายน้อยที่สุดเป็นสีดำ ซึ่งถ้าใครเลือกสีดำหรือสีที่คนเลือกน้อยก็จะได้รับรถเร็วกว่ารถสียอดฮิต
-อยากบอกอะไรกับลูกค้ามาสด้า2
ภูมิใจและรับรองว่าไม่ผิดหวัง การดูแลเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของมาสด้า เราสัญญาว่าจะดูแลลูกค้าทุกคนให้ดีสมกับความมั่นใจของท่านที่มีต่อมาสด้า ด้านศูนย์บริการมาสด้ามีทั่วประเทศ 104 แห่งพร้อมให้บริการ และยังไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพและอะไหล่หาง่าย มีพร้อมเสมอ
- ทำไมจึงนำมาสด้า2ขึ้นไปลอย?
เพื่ออธิบายคอนเซปต์เรื่องรถมีน้ำหนักเบาให้เห็นเป็นรูปธรรม ด้วยนกพับเพียง 1 ฝูงก็สามารถยกรถมาสด้า2 ให้ลอยได้ (ในงานถ้าดูใกล้ๆ จะเห็นนกพับฝูงหนึ่งอยู่เหนือมาสด้า2) ทั้งนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของเมืองฮิโรชิมา ซึ่งเป็นเมืองต้นกำเนิดของเทคโนโลยี ไลท์เวท (Lightweight Technology) ที่ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถมาสด้า2 โดยเป็นเทคโนโลยีที่มาสด้าคิดค้นขึ้นมาตั้งแต่ต้น
- เทคโนโลยีนี้เป็นอย่างไร?
เดิมเทคโนโลยีไลท์เวท นำมาใช้อยู่ในรุ่น เอ็มเอ็กซ์-5 (MX-5) ซึ่งมีส่วนทำให้รถรุ่นดังกล่าวประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ช่วยด้านการประหยัดน้ำมัน เพราะการทำรถให้ประหยัดน้ำมันได้ ไม่ใช่แค่การพัฒนาเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว แต่การพัฒนาชิ้นส่วนและระบบอื่นๆ ก็สามารถบรรลุผลลัพธ์เหมือนกันได้ โดยมาสด้าเลือกพัฒนาด้านการลดน้ำหนักเป็นจุดสำคัญ เนื่องจากเมื่อรถมีน้ำหนักโดยรวมไม่มาก ภาระของเครื่องยนต์ก็จะน้อยลงในการแบกน้ำหนักรถ
มาสด้าใช้เทคโนโยลีไลท์เวท โดยนำมาใช้กับรุ่น 2 ด้วยวิธีการเลือกเหล็กที่นำมาผลิตรถเป็นเกรดสูงคุณภาพ อุลตร้าไฮ ที่มีความเหนียว ทนทาน ฉีดขาดยากกว่าเหล็กธรรมดาทั่วไป นอกจากนั้นยังมีเรื่องของการออกแบบการเดินสายไฟ ให้มีความซับซ้อนน้อยลงเพื่อลดจำนวนสายไฟที่ใช้ รวมถึงการเปลี่ยนวัสดุที่ใช้เกี่ยวกับเครื่องยนต์เช่น ฝาสูบเป็นอลูมิเนียม ทำให้น้ำหนักโดยรวมของรถลดลงไปโดยคงสมรรถนะที่ดีเอาไว้
- ความปลอดภัย?
จากเทคโนโลยีไลท์เวท เหล็กที่ใช้ผลิตมาสด้า2 สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดีกว่าเหล็กธรรมดาทั่วไป ยังมีส่วนช่วยรถแรงสั่นสะเทือน ซึ่งจริงๆ แล้วเหล็กที่แข็งกว่าจะด้อยกว่า เพราะคุณสมบัติจะมีความเปราะสูงกว่า และหากเกิดการชนจะถ่ายทอดแรงไปยังผู้โดยสารในห้องโดยสารได้ดีกว่า ฉะนั้นจึงทำให้ผู้โดยสารมีโอกาสได้รับบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น
ต่อข้อถามเรื่องของดรัมเบรกหลัง เหตุใดจึงไม่ใช้ดิสก์เบรก หลักการก็คือเรื่องของการลดน้ำหนักและความนุ่มนวลในการขับขี่ เพราะเมื่อน้ำหนักโดยรวมลดลงแล้วการใช้ดิกส์หลังจึงไม่จำเป็น ทั้งนี้ยังมีเรื่องของความนุ่มนวลในการเบรกที่ดรัมเบรกจะให้ความรู้สึกในการหยุดรถนุ่มนวลกว่าดิสก์ รวมถึงเรื่องของค่าบำรุงรักษา ผู้บริโภคก็จะจ่ายน้อยลง
-ยอดขายมาสด้า2 เป็นอย่างไร?
ถึงวันนี้ (10 ธ.ค.) ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการคือยอดจอง 2,700 คัน ทั่วประเทศ รวมกับในมอเตอร์ เอ็กซ์โปอีก 900 คัน เท่ากับมียอดจองราว 3,600 คัน ขณะที่เมื่อเดือนที่แล้วมาสด้ารายงานตัวเลขขายและส่งมอบแล้วราว 1,017 คัน รวมกันทั้งหมดนับตั้งแต่เปิดตัวมาสด้า2 มียอดขายกว่า 4,600 คันแล้ว
ทั้งนี้ลูกค้าที่จองรถหลังจากวันนี้จะต้องรอรถประมาณ 30 วัน ขึ้นอยู่กับสีและรุ่นย่อย โดยสีที่ขายดีที่สุดคือ ขาว 40% รองลงมาเป็นสีเขียว 25% ส่วนสีที่ขายน้อยที่สุดเป็นสีดำ ซึ่งถ้าใครเลือกสีดำหรือสีที่คนเลือกน้อยก็จะได้รับรถเร็วกว่ารถสียอดฮิต
-อยากบอกอะไรกับลูกค้ามาสด้า2
ภูมิใจและรับรองว่าไม่ผิดหวัง การดูแลเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของมาสด้า เราสัญญาว่าจะดูแลลูกค้าทุกคนให้ดีสมกับความมั่นใจของท่านที่มีต่อมาสด้า ด้านศูนย์บริการมาสด้ามีทั่วประเทศ 104 แห่งพร้อมให้บริการ และยังไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพและอะไหล่หาง่าย มีพร้อมเสมอ
