xs
xsm
sm
md
lg

มินิ เผยโฉม2 รุ่นพิเศษฉลอง50 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มินิ ประเทศไทย เปิดตัว มินิรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 50 ปี 2 รุ่น คือ MINI Cooper 50 Mayfair ราคา 2.6 ล้านบาท และ MINI Cooper S 50 Camden ราคา 3 ล้านบาท
ซ้าย Cooper 50 Mayfair ส่วนขวาเป็น Cooper S 50 Camden
“คอนเซ็ปต์ของมินิรุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 50 ปีนี้เป็นการแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของความเป็นมินิ ที่ได้ผสมผสานทั้งอดีตที่ยิ่งใหญ่และอนาคตที่สดใสไว้ในตัวเอง ภายใต้คอนเซ็ปต์นี้ มินิจึงพัฒนารุ่น Mayfair ให้เป็นตัวแทนของอดีตที่ยิ่งใหญ่ของรถคันเล็กอย่างมินิ และให้รุ่น Camden เป็นตัวแทนจากอนาคต ซึ่งคาร์แรกเตอร์ของอดีตและอนาคตนี้ได้แสดงออกผ่านดีไซน์พิเศษเฉพาะของแต่ละรุ่น ทั้งในเรื่องของสีภายนอก ล้ออัลลอยด์ลายพิเศษ และการตกแต่งภายในด้วย”กฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย กล่าว

สำหรับรุ่น MINI Cooper 50 Mayfair เป็นการมองผ่านความยิ่งใหญ่ของรถคันเล็กอย่างมินิ โดยการเชื่อมโยงกับความนิยมที่ถึงขีดสุดของมินิในฐานะรถแห่งความภูมิใจของอังกฤษ สำหรับชื่อ ‘Mayfair’ นี้ นอกจากจะเป็นชื่อของย่านกรุงเก่าหรูหราใจกลางมหานครลอนดอนแล้ว ยังเป็นชื่อของหนี่งในมินิ คลาสสิกรุ่นพิเศษของลอนดอน คอลเลคชั่นที่เน้นความสบายและความหรูหราเป็นพิเศษ
Cooper 50 Mayfair


ดีไซน์เนอร์ของมินิจึงให้คาร์แรกเตอร์ของ MINI Cooper 50 Mayfair เน้นที่ความหรูหราภูมิฐานในสไตล์ผู้ดีอังกฤษ โดยแสดงออกผ่านการใช้สีภายนอกเป็นสี Hot Chocolate ตัดกับหลังคาสีขาว ล้ออัลลอยด์สีขาวลายพิเศษ Infinity Stream Spoke ขนาด 17 นิ้ว พร้อมกับสติ๊กเกอร์ฝากระโปรงหน้าสี Toffy light-brown metallic ที่ให้มุมมองสามมิติตัดกับขอบสีขาว ซึ่งเข้ากับการตกแต่งภายในด้วยโทนสีเดียวกันคือ เบาะหนังแบบ Lounge สี Toffy light-brown ตัดกับกุ้นขอบสีขาวและด้ายเดินตะเข็บสีเขียว Turquoise นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น Mayfair เช่น กาบบันได แดชบอร์ด กระจกมองข้าง และพวงมาลัย

MINI Cooper 50 Mayfair ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 1.6 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ สามารถผลิตกำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตรที่ 4,250 รอบ อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 9.1 วินาที อีกทั้งยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย18.5 กิโลเมตรต่อลิตรและอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เฉลี่ย 129 กรัมต่อกิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ EU)
Cooper S 50 Camden
ในส่วนของรุ่น MINI Cooper S 50 Camden เป็นการมองแบรนด์มินิในมุมมองจากอนาคต ก้าวล้ำ นำสมัย สำหรับชื่อ ‘Camden’ นี้ ก็เป็นไปตามธรรมเนียมการตั้งชื่อรุ่นพิเศษของมินิ ซึ่งปฏิบัติมาตั้งแต่มินิ คลาสสิก โดยการใช้ชื่อเขต (Borough) ของลอนดอน โดย Camden เป็นย่านแฟชั่นนำสมัยในใจกลางมหานครลอนดอน

ดีไซน์เนอร์แสดงออกถึงคาร์แรกเตอร์ที่นำสมัย ล้ำยุค แฝงอารมณ์สปอร์ตของ MINI Cooper S 50 Camden ผ่านการโทนสีที่ผสมผสานกันระหว่าง สีเงิน สีขาว และสีดำ โดยภายนอกใช้สีพิเศษ White Silver กับหลังคาสีขาว ล้ออัลลอยด์สีขาวลายพิเศษ White Shield ขนาด 17 นิ้ว ไฟหน้าแบบซีนอนรมดำพร้อมกับสติ๊กเกอร์ฝากระโปรงรูปแบบใหม่สีเงินวิ่งจากไฟฟ้าจรดเสากระจกหน้าให้มุมมองที่แปลกใหม่ ซึ่งเข้ากับการตกแต่งภายในด้วยโทนสีเดียวกันคือ เบาะผ้าสลับหนังแบบ Ray สี Tech White / Carbon Black ด้ายเดินตะเข็บคู่สีเขียว Turquoise และสีขาว นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น Camden เช่น กาบบันได แดชบอร์ด และกระจกมองข้าง



นอกจากนี้ MINI Cooper S 50 Camden ยังติดตั้งระบบเครื่องเสียงไฮไฟของ Harman Kardon พร้อมกับระบบ Mission Control ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้าน Interactive In-Car Entertainment

ด้านเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 1.6 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศ Twin-Scroll Turbo และระบบฉีดน้ำมัน GDI Gasoline Direct Injection สามารถผลิตกำลังสูงสุด 175 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตรระหว่าง 1,600-5,000 รอบ ด้วยฟังก์ชั่น Over-boost ของเทอร์โบอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.1 วินาที อีกทั้งยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 16.1 กิโลเมตรต่อลิตรและอัตราการคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เฉลี่ย 149 กรัมต่อกิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ EU)

โดย มินิ ทั้งสองรุ่น เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 ระหว่าง 2 - 13 ธันวาคม นี้ ที่ อิมแพค เมืองทองธานี

กำลังโหลดความคิดเห็น