จากที่ผมได้สังเกตดูกระแสคามคิดเห็นในบทความและตามเว็บไซต์ต่างๆ ทำให้ทราบว่ามีกลุ่มผู้สนใจ Nissan TIIDA บางกลุ่มที่สนใจรูปลักษณ์และแนวคิดของรถยนต์รุ่นนี้ ที่พร้อมจะซื้อแต่พลาดข่าวสารเกี่ยวกับรถรุ่นนี้ไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด เพราะไม่ทราบว่าจะมีรุ่นไมเนอร์เชนจ์เกิดขึ้นเลยต้องหันไปใช้รถรุ่นอื่นแทนทั้งที่เตรียมตัว เตรียมใจและเตรียมทรัพย์สำหรับการซื้อรถรุ่นนี้ไปแล้ว ครั้งนี้ผมขอขยายความเพิ่มเติมโดยเน้นให้เห็นความแตกต่างของ TIIDA Hatchback ไมเนอร์เชนจ์ใหม่นี้กับโฉมเก่า ซึ่งผมจะเน้นการเปรียบเทียบในรุ่น 1.6 G เป็นหลักครับ
เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ถ้านึกถึงรถรุ่นไมเนอร์เชนจ์หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Facelift ก็จะมองในเรื่องรูปโฉมเป็นหลักเพราะเป็นสื่งที่สังเกตง่ายที่สุด และก็พอจะเดาต่อได้อีกว่า รุ่นใหม่ย่อมมีคุณสมบัติที่จากเดิมเคยเป็น option หรือเป็นของรถรุ่นที่ใหญ่กว่าจะกลายมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถรุ่นใหม่แบบไมเนอร์เชนจ์ ก็ต้องบอกว่า ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับ Nissan TIIDA Hatchback เช่นกัน คือ นอกจากจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งโฉมภายนอกและภายในแล้ว ยังมีอุปกรณ์หรือฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาอีกด้วย
ในการเปิดตัว TIIDA เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ตอนนั้นคนส่วนใหญ่จะสนใจในเรื่องราคาและโฉมของรถยนต์มากกว่าความแตกต่างระหว่างรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ วันนี้ผมเลยขอสรุปให้ชัดๆ เป็นข้อๆ พร้อมภาพประกอบของทั้งรุ่นใหม่และเก่าดังนี้ครับ
1. รูปลักษณ์ใหม่ของ Nissan TIIDA Hatchback 1.6G
ภายนอกมีการเปลี่ยนแปลงแบบบังคับให้ต้องเปลี่ยนอยู่แล้ว แต่โฉมใหม่นั้นโดยรวมจะดูโฉบเฉี่ยวขึ้น เริ่มจากแผงกระจังหน้าที่มีเส้นตัดกลางแนวนอนเพิ่มเข้ามา ในขณะที่เส้นแนวตั้งก็มีความชัดเจนของเส้นสายมากขึ้นทำให้ดูแกร่งมากกว่าเดิม กันชนหน้าที่มีการเน้นช่องของไฟตัดหมอกที่กินพื้นที่ของช่องอากาศกลางเข้ามา ทำให้รถดูปราดเปรียวและโฉบเฉี่ยวมากขึ้น
มองด้านหน้าแล้วก็ต้องไล่มาทางด้านหลัง และแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นกับไฟท้ายที่เป็นแบบใหม่ มีดวงไฟใหญ่ขึ้น มองเห็นชัดเจน ช่วยให้วิสัยทัศน์ในการขับขี่ยามค่ำคืนดีขึ้น
เข้ามาสู่ภายในกันบ้าง การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนก็คือ มีแถบสีเงิน 2 แถบซ้ายขวาของคอนโซลกลาง ที่มีปุ่มควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ออกแบบใหม่สำหรับรุ่น 1.6G ในขณะที่รูปแบบเดิมของรุ่นนี้ ได้ย้ายเข้าไปสู่รุ่น 1.6S แทน กล่าวคือ รุ่น 1.6S ใหม่ ได้ใช้ดีไซน์ของรุ่น 1.6 G เดิม
2. อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เพิ่มเข้ามาหลายจุด
จะว่าไปแล้วมันคือสูตรทางการตลาดของรถรุ่นไมเนอร์เชนจ์ที่จะต้องเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ เข้ามาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อต่อกรกับรถยี่ห้ออื่นๆ ที่ออกสู่ตลาดในฐานะรถใหม่แบบ All-New พูดง่ายๆ ก็คือเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่เข้ามาเยอะๆ เพื่อชนกับรถโฉมใหม่อื่นๆ นั่นเอง และ TIIDA Hatchback 1.6G ก็ทำให้ลูกค้าตัดสินใจยากขึ้นเพราะเพิ่มสิ่งใหม่ๆ เข้ามาอีกพอสมควรเพื่อเข้ามาชนกับรถที่กำลังออกมาใหม่ในตลาดโดยตรง ส่วนหนึ่งของสิ่งใหม่ๆ ที่ว่าก็คืออุปกรณ์เหล่านี้ครับ
2.1 สวิทช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ซึ่งโฉมเก่าจะเตียนโล่ง ดูเหงาๆ เพราะไม่มีปุ่มควบคุมอะไรเลย ดูจากภาพก็จะเห็นความแตกต่างว่ารุ่นไมเนอร์เชนจ์มีชุดปุ่มควบคุมเพิ่มเข้ามาด้านซ้ายมือที่ก้านพวงมาลัย แต่สำหรับรุ่น Hatchback 1.6S ยังเป็นแบบเดิมๆ คือไม่มีปุ่มควบคุม
2.2 ช่อง Aux Audio สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง เหมาะกับคอ gadget ทั้งหลายที่มีอุปกรณ์เครื่องเล่นเพลงหรือ media player ต่างๆ ที่พกติดตัวหรืออยากจะนำมาใช้ในรถยนต์ นั่นหมายความว่า TIIDA Hatchback เอาใจคนรักเสียงเพลงมากขึ้น
2.3 ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ซึ่งแตกต่างจากระบบปรับอากาศธรรมดาตรงที่ เป็นระบบที่สามารถปรับตั้งระดับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารได้ที่ 18-32 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยทำให้ความเย็นภายในคงที่ตามที่เราต้องการ นอกจากนั้นระบบนี้ยังมีระบบทำความร้อนหรือ heater ที่จะใช้ความร้อนจากเครื่องยนต์ส่งเข้ามาภายในห้องโดยสารซึ่งระบบปรับอากาศธรรมดาก็ไม่มีเช่นกัน ระบบนี้จึงเหมาะกับคนที่เน้นความสบายภายในรถ หรือสภาพร่างกายไวต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับอุณหภูมิ เรียกว่าเป็นฟังก์ชั่นเพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดีก็ว่าได้
3. ห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอยภายในที่กว้างขึ้น
ในเรื่องนี้ถือว่าเป็นจุดขายสำคัญของ Nissan TIIDA เลยก็ว่าได้ เพราะ Nissan ย้ำว่าพื้นที่ใช้สอยมากกว่ารถในระดับเดียวกัน จริงๆ แล้วไม่มีการเปรียบเทียบกับโฉมเดิมอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้ แต่ผมพูดจากการที่ได้ลองเข้าไปนั่งดูพื้นที่ภายในโดยที่ไม่ทราบว่านี่คือจุดขายของ TIIDA รุ่นใหม่ในตอนแรก แล้วก็ต้องยอมรับว่าสิ่งแรกที่ทำให้รู้สึกแปลกใจก็คือ พื้นที่ภายในกว้างมากๆ โดยเฉพาะเบาะหลัง ซึ่งผมว่าไม่แตกต่างจากรถขนาดกลางเครื่องยนต์ 2.0 หรือ 2.5 ลิตรเลย อาจจะใหญ่กว่าด้วยซ้ำไปจากความรู้สึกส่วนตัว (หลังจากนั้นผมก็ลองมานั่งเบาะหลังของรถตัวเองซึ่งเป็นรถขนาดกลาง ก็ยังยืนยันความคิดในตอนแรกว่าพื้นที่เบาะหลังใหญ่จริงๆ หรืออาจจะใหญ่กว่าด้วยซ้ำ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!) นอกจากนั้นแล้วเบาะหลังยังสามารถปรับเลื่อนได้ถึง 24 ซม. และปรับนอนได้มากถึง 40 องศา ให้ความรู้สึกสบายแก่ผู้นั่งโดยสาร หรือจะปรับเพื่อให้เป็นพื้นที่เก็บสัมภาระได้เพิ่มขึ้นก็ได้ ราวกับว่า TIIDA Hatchback เผื่อสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้สำหรับการมีปาร์ตี้กันในรถ! พื้นที่กว้าง ที่วางแก้วเพียบ ช่องเก็บของถึง 17 แห่ง ช่องเสียบอุปกรณ์ต่อพ่วงระบบเสียง ห้องผู้โดยสารที่เงียบกริบและเป็นจุดขายที่ Nissan อาจจะไม่เคยพูดถึง (ผมเคยใช้ Nissan Cefiro มาก่อน)
ทางด้านตัวเครื่องยนต์ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดี ไม่เป็นสนิม ช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ จึงส่งผลให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นทั้งเครื่องยนต์ 1600 และ 1800
โดยสรุปแล้วความแตกต่างของ TIIDA Hatchback 1.6G ใหม่และรุ่นก่อนหน้านี้ก็จะมี 3 เรื่องหลักๆ คือ รูปโฉมใหม่ทั้งในและนอก อุปกรณ์ใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา และพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางมาก ตามรายละเอียดปลีกย่อยเยอะแยะมากมายที่ได้สาธยายไป ส่วนท่านผู้อ่านที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเลือกรถใหม่ยี่ห้อไหนรุ่นไหนดีก็ต้องตัดสินใจกันเองแล้วละครับว่าเหมาะสมกับตัวเราหรือไม่
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nissan.co.th
(ข่าวประชาสัมพันธ์)
เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ถ้านึกถึงรถรุ่นไมเนอร์เชนจ์หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Facelift ก็จะมองในเรื่องรูปโฉมเป็นหลักเพราะเป็นสื่งที่สังเกตง่ายที่สุด และก็พอจะเดาต่อได้อีกว่า รุ่นใหม่ย่อมมีคุณสมบัติที่จากเดิมเคยเป็น option หรือเป็นของรถรุ่นที่ใหญ่กว่าจะกลายมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานของรถรุ่นใหม่แบบไมเนอร์เชนจ์ ก็ต้องบอกว่า ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับ Nissan TIIDA Hatchback เช่นกัน คือ นอกจากจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งโฉมภายนอกและภายในแล้ว ยังมีอุปกรณ์หรือฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาอีกด้วย
ในการเปิดตัว TIIDA เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ตอนนั้นคนส่วนใหญ่จะสนใจในเรื่องราคาและโฉมของรถยนต์มากกว่าความแตกต่างระหว่างรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ วันนี้ผมเลยขอสรุปให้ชัดๆ เป็นข้อๆ พร้อมภาพประกอบของทั้งรุ่นใหม่และเก่าดังนี้ครับ
1. รูปลักษณ์ใหม่ของ Nissan TIIDA Hatchback 1.6G
ภายนอกมีการเปลี่ยนแปลงแบบบังคับให้ต้องเปลี่ยนอยู่แล้ว แต่โฉมใหม่นั้นโดยรวมจะดูโฉบเฉี่ยวขึ้น เริ่มจากแผงกระจังหน้าที่มีเส้นตัดกลางแนวนอนเพิ่มเข้ามา ในขณะที่เส้นแนวตั้งก็มีความชัดเจนของเส้นสายมากขึ้นทำให้ดูแกร่งมากกว่าเดิม กันชนหน้าที่มีการเน้นช่องของไฟตัดหมอกที่กินพื้นที่ของช่องอากาศกลางเข้ามา ทำให้รถดูปราดเปรียวและโฉบเฉี่ยวมากขึ้น
มองด้านหน้าแล้วก็ต้องไล่มาทางด้านหลัง และแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นกับไฟท้ายที่เป็นแบบใหม่ มีดวงไฟใหญ่ขึ้น มองเห็นชัดเจน ช่วยให้วิสัยทัศน์ในการขับขี่ยามค่ำคืนดีขึ้น
เข้ามาสู่ภายในกันบ้าง การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนก็คือ มีแถบสีเงิน 2 แถบซ้ายขวาของคอนโซลกลาง ที่มีปุ่มควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ออกแบบใหม่สำหรับรุ่น 1.6G ในขณะที่รูปแบบเดิมของรุ่นนี้ ได้ย้ายเข้าไปสู่รุ่น 1.6S แทน กล่าวคือ รุ่น 1.6S ใหม่ ได้ใช้ดีไซน์ของรุ่น 1.6 G เดิม
2. อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เพิ่มเข้ามาหลายจุด
จะว่าไปแล้วมันคือสูตรทางการตลาดของรถรุ่นไมเนอร์เชนจ์ที่จะต้องเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ เข้ามาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อต่อกรกับรถยี่ห้ออื่นๆ ที่ออกสู่ตลาดในฐานะรถใหม่แบบ All-New พูดง่ายๆ ก็คือเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่เข้ามาเยอะๆ เพื่อชนกับรถโฉมใหม่อื่นๆ นั่นเอง และ TIIDA Hatchback 1.6G ก็ทำให้ลูกค้าตัดสินใจยากขึ้นเพราะเพิ่มสิ่งใหม่ๆ เข้ามาอีกพอสมควรเพื่อเข้ามาชนกับรถที่กำลังออกมาใหม่ในตลาดโดยตรง ส่วนหนึ่งของสิ่งใหม่ๆ ที่ว่าก็คืออุปกรณ์เหล่านี้ครับ
2.1 สวิทช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ซึ่งโฉมเก่าจะเตียนโล่ง ดูเหงาๆ เพราะไม่มีปุ่มควบคุมอะไรเลย ดูจากภาพก็จะเห็นความแตกต่างว่ารุ่นไมเนอร์เชนจ์มีชุดปุ่มควบคุมเพิ่มเข้ามาด้านซ้ายมือที่ก้านพวงมาลัย แต่สำหรับรุ่น Hatchback 1.6S ยังเป็นแบบเดิมๆ คือไม่มีปุ่มควบคุม
2.2 ช่อง Aux Audio สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง เหมาะกับคอ gadget ทั้งหลายที่มีอุปกรณ์เครื่องเล่นเพลงหรือ media player ต่างๆ ที่พกติดตัวหรืออยากจะนำมาใช้ในรถยนต์ นั่นหมายความว่า TIIDA Hatchback เอาใจคนรักเสียงเพลงมากขึ้น
2.3 ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ซึ่งแตกต่างจากระบบปรับอากาศธรรมดาตรงที่ เป็นระบบที่สามารถปรับตั้งระดับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารได้ที่ 18-32 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยทำให้ความเย็นภายในคงที่ตามที่เราต้องการ นอกจากนั้นระบบนี้ยังมีระบบทำความร้อนหรือ heater ที่จะใช้ความร้อนจากเครื่องยนต์ส่งเข้ามาภายในห้องโดยสารซึ่งระบบปรับอากาศธรรมดาก็ไม่มีเช่นกัน ระบบนี้จึงเหมาะกับคนที่เน้นความสบายภายในรถ หรือสภาพร่างกายไวต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับอุณหภูมิ เรียกว่าเป็นฟังก์ชั่นเพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดีก็ว่าได้
3. ห้องโดยสารและพื้นที่ใช้สอยภายในที่กว้างขึ้น
ในเรื่องนี้ถือว่าเป็นจุดขายสำคัญของ Nissan TIIDA เลยก็ว่าได้ เพราะ Nissan ย้ำว่าพื้นที่ใช้สอยมากกว่ารถในระดับเดียวกัน จริงๆ แล้วไม่มีการเปรียบเทียบกับโฉมเดิมอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้ แต่ผมพูดจากการที่ได้ลองเข้าไปนั่งดูพื้นที่ภายในโดยที่ไม่ทราบว่านี่คือจุดขายของ TIIDA รุ่นใหม่ในตอนแรก แล้วก็ต้องยอมรับว่าสิ่งแรกที่ทำให้รู้สึกแปลกใจก็คือ พื้นที่ภายในกว้างมากๆ โดยเฉพาะเบาะหลัง ซึ่งผมว่าไม่แตกต่างจากรถขนาดกลางเครื่องยนต์ 2.0 หรือ 2.5 ลิตรเลย อาจจะใหญ่กว่าด้วยซ้ำไปจากความรู้สึกส่วนตัว (หลังจากนั้นผมก็ลองมานั่งเบาะหลังของรถตัวเองซึ่งเป็นรถขนาดกลาง ก็ยังยืนยันความคิดในตอนแรกว่าพื้นที่เบาะหลังใหญ่จริงๆ หรืออาจจะใหญ่กว่าด้วยซ้ำ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!) นอกจากนั้นแล้วเบาะหลังยังสามารถปรับเลื่อนได้ถึง 24 ซม. และปรับนอนได้มากถึง 40 องศา ให้ความรู้สึกสบายแก่ผู้นั่งโดยสาร หรือจะปรับเพื่อให้เป็นพื้นที่เก็บสัมภาระได้เพิ่มขึ้นก็ได้ ราวกับว่า TIIDA Hatchback เผื่อสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้สำหรับการมีปาร์ตี้กันในรถ! พื้นที่กว้าง ที่วางแก้วเพียบ ช่องเก็บของถึง 17 แห่ง ช่องเสียบอุปกรณ์ต่อพ่วงระบบเสียง ห้องผู้โดยสารที่เงียบกริบและเป็นจุดขายที่ Nissan อาจจะไม่เคยพูดถึง (ผมเคยใช้ Nissan Cefiro มาก่อน)
ทางด้านตัวเครื่องยนต์ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดี ไม่เป็นสนิม ช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ จึงส่งผลให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้นทั้งเครื่องยนต์ 1600 และ 1800
โดยสรุปแล้วความแตกต่างของ TIIDA Hatchback 1.6G ใหม่และรุ่นก่อนหน้านี้ก็จะมี 3 เรื่องหลักๆ คือ รูปโฉมใหม่ทั้งในและนอก อุปกรณ์ใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา และพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางมาก ตามรายละเอียดปลีกย่อยเยอะแยะมากมายที่ได้สาธยายไป ส่วนท่านผู้อ่านที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเลือกรถใหม่ยี่ห้อไหนรุ่นไหนดีก็ต้องตัดสินใจกันเองแล้วละครับว่าเหมาะสมกับตัวเราหรือไม่
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nissan.co.th
(ข่าวประชาสัมพันธ์)
