xs
xsm
sm
md
lg

ซูบารุ อิมเพรซ่า ชาเลนจ์ 2009 แตะ..อึดนรกแตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โมฮัมเหม็ด อานวล (กลาง)
ปิดฉากอย่างสวยงามเรียบร้อยโรงเรียนสิงคโปร์ กับการแข่งขันแตะ อึดชิงรถในชื่อรายการ “Subaru Impreza WRX Challenge 2009” รอบชิงชนะเลิศ ณ บริเวณลานหน้าอาคาร หงี่ อัน ซิตี้ พลาซ่า ประเทศสิงคโปร์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยสถิติการแตะรถซูบารุ อิมเพรซ่าเป็นเวลา 77 ชั่วโมง 43 นาทีของ “โมฮัมเหม็ด อานวล” ยาวนานที่สุดในบรรดาผู้เข้าแข่งขันทั้งสิ้น 400 คนจาก 8 ประเทศ ในแถบเอเชียที่มอเตอร์ อิมเมจเข้าไปทำตลาดรถยนต์ซูบารุอยู่
ผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 400 คนจาก 8 ชาติ
แม้ว่าสถิติ 77 ชั่วโมงกว่าจะไม่ยาวนานเพียงพอทำลายสถิติเดิมของแชมป์เมื่อปีที่แล้ว แต่ก็เพียงพอจะทำให้ อานวล หนุ่มใหญ่วัย 41 ปี ได้รับรางวัลรถยนต์ “ซูบารุ รุ่นอิมเพรสซ่า ดับบิวอาร์เอ็กซ์” มูลค่า 81,000 ดอลล่าร์สิงคโปร์ ไปไว้ใช้งาน ซึ่งอานวล กล่าวถึงรางวัลที่ได้รับว่า “จะใช้สักพักหนึ่งก่อนเนื่องจากเป็นรถที่ชอบมากหลังจากนั้นค่อยตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเก็บไว้ใช้ต่อหรือจะทำอย่างไร”

นอกจากนั้นเขายังเล่าถึงเทคนิคในการคว้าชัยชนะว่า “ก่อนการแข่งขันก็ไม่ได้มีการเตรียมตัวพิเศษอะไร เพียงแค่ในระหว่างการแข่ง พยายามมองหาผู้หญิงสวยแล้วก็มองอยู่อย่างนั้น ผมเคยเข้าร่วมการแข่งนี้มาแล้วเมื่อปี 2007 ทำเวลาได้ 55 ชั่วโมง แต่ไม่เพียงพอจะคว้าชัยชนะได้ ส่วนช่วงที่แย่ที่สุดในคราวนี้คือ ราวชั่วโมงที่ 48 เกิดภาพว่ารถนิ่ม มือที่แตะอยู่ถูกดูดเข้าไปในตัวถังรถ แต่ก็ได้เทคนิคดังกล่าวช่วยเอาไว้”

รถของผู้แข่งขันทีมไทยและชาติอื่นๆ ในอาเซียน
ส่วนผู้เข้าร่วมการแข่งขันของไทยทั้ง 10 ชีวิต สามารถคว้ารางวัลมาได้ถึง 3 ตำแหน่ง ได้แก่ รางวัลใหญ่ ประเภททีม มูลค่า 10,000 ดอลล่าร์สิงคโปร์, รางวัลผู้แตะนานที่สุดในภูมิภาค(เว้นสิงคโปร์ เจ้าภาพ) มูลค่า 5,000 ดอลล่าร์สิงคโปร์ ได้แก่ “สมัชญ์ เทพเสน” เจ้าของสถิติ 74 ชั่วโมง 34 นาที และควบรางวัลผู้แตะนานที่สุดของประเทศไทยมาอีกหนึ่งตำแหน่งมูลค่า 1,000 ดอลล่าร์สิงคโปร์

ซึ่งสมัชญ์กล่าวหลังออกจากการแข่งขันและพักผ่อนเรียบร้อยแล้วว่า “ปีนี้เป็นการเข้าร่วมแข่งขันครั้งที่ 2 ของผมกับการมายืนที่นี่ โดยเตรียมตัวมาพอสมควรและผมก็ทำได้ตามเป้าหมายคือยืนนานกว่าครั้งที่ผ่านมา ปีนี้มีทั้งแดดร้อนนรกแตกสลับกับฝนตกแบบพายุถือว่าสาหัสมาก แม้จะพลาดรางวัลใหญ่ แต่ก็ถือว่า ภูมิใจแล้วกับการยืนเป็น 1 ใน 4 คนสุดท้ายของการแข่งคราวนี้”

มือต้องอยู่ในกรอบนี้ตลอด
สิ่งสำคัญที่สมัชญ์บอกกับผู้ร่วมทีมไทยทุกคนคือ เรื่องของ “ภาพหลอน” หลังจากเมื่อคราวที่แล้วเขาได้พบกับภาพหล่านี้ เนื่องจากสมองไม่ได้รับการพักผ่อนเพียงพอก็จะเกิดภาพจากจินตนาการขึ้น โดยภาพหลอนของสมัชญ์ในปีนี้คือ เขามองไม่เห็นมือของตัวเองที่แตะรถอยู่

ส่วนคนไทยทุกคนที่เข้าแข่งก็ประสบเหตุดังเช่นคำเตือน แต่สามารถผ่านมาได้ด้วยดี เพราะการบอกกันล่วงหน้าโดยให้ถือเป็นสัญญาณที่ผู้เข้าแข่งขันทุกคนบอกทีมงานผู้ควบคุมการแข่งขันว่า ถึงเวลาต้องออกจากการแข่งแล้วเพื่อป้องกันผลร้ายอันอาจจะเกิดกับสุขภาพของตัวเองได้

ทั้งนี้กติการการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ จะให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันทุกคนยืนแตะรถยนต์ซูบารุ อิมเพรซ่า ในตำแหน่งที่กำหนดไว้ โดยห้ามมิให้มือหลุดออกนอกกรอบ(ทุกสภาพทั้งฝนตก แดดออก) เมื่อยืนครบทุก 6 ชั่วโมงจะพัก 5 นาที สามารถทำฟาล์วได้ 2 ครั้ง เช่น มือเคลื่อนออกนอกกรอบ หากมีครั้งที่ 3 จะถูกให้ออกจากการแข่งขัน
เอนเตอเทนต์กันตลอดเวลา
สำหรับการแข่งขันซูบารุ อิมเพรซ่า ชาเลนจ์ในปีหน้าจะมีชาติเข้าร่วมเพิ่มเติมอีก 2 ประเทศได้แก่ เวียดนามและกัมพูชา ซึ่งมอเตอร์ อิมเมจกำลังจะเข้าไปเปิดตลาดรถยนต์ซูบารุ รวมกับผู้เข้าแข่งขันเดิมได้แก่ ไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, ฮ่องกง, จีน, ไต้หวัน และสิงคโปร์เจ้าภาพ จะกลายเป็นผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 10 ชาติ เข้มข้มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

ร้อนแค่นี้จิ๊บๆ
ไม่ว่าจะแดด จะฝนกระหน่ำ แต่ทีมไทยยังยิ้มได้เสมอ
เริ่มเข้าสู่กลางคืน เริ่มออกอาการง่วง
สมัชญ์ เทพเสน
3 คนสุดท้ายของไทย ในคืนที่ 3
บรรดากองเชียร์ บินตรงมาจากเมืองไทย
สมัชญ์ ในชั่วโมงที่ 70 กว่าๆ
ตอนเหลือ 4 คนสุดท้ายต้องมีเจ้าหน้าที่จับตาดูตลอด
หลังออกจากการแข่งขันก็สวมกอดแม่ที่ตามมาเป็นกำลังใจให้ถึงสิงคโปร์
รับใบประกาศ 74 ชั่วโมง 34 นาที
รับรางวัล ประเภทเดี่ยว
รับรางวัล ประเภททีม
ร่วมกันระหว่างผู้เข้าแข่งขันทีมไทยกับผู้บริหารและทีมงานผู้ดูแลของ มอเตอร์ อิมเมจ ซูบารุ ประเทศไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น