ข่ีาวในประเทศ - นิสสัน ชู“วี-แพลตฟอร์ม”ที่ใช้พัฒนาอีโคคาร์ รวมถึงเครื่องยนต์ เกียร์ชุดใหม่สุดเจ๋ง ย้ำราคาสมเหตุสมผล เปิดตัวมีนาคมปีหน้า ก่อนใช้เทคโนโลยีเดียวกันนี้พัฒนารถเล็กสายพันธุ์ใหม่ กับฐานผลิตอีก 4 ประเทศ เช่น อินเดีย จีน หวังดันยอดขาย 4 ปี ทะลุ 1 ล้านคัน โดยมีตลาด 160 ประเทศรองรับ
หลังประกาศตัวเป็นค่ายรถยนต์รายแรกที่เตรียมทำตลาดอีโคคาร์อย่างเป็นทางการช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า ล่าสุด บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแถลงข่าวยืนยันความพร้อม และนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มพัฒนาล่าสุด “วี-แพลตฟอร์ม” (V-Platform) ที่จะนำมาใช้ในรถยนต์รุ่นดังกล่าว
วิเซ็นต์ โคบี ผู้อำนวยการโครงการวี-แลตฟอร์ม บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทญี่ปุ่น เปิดเผยว่า แนวโน้มของรถยนต์นั่งขนาดเล็กจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งโครงการพัฒนารถขนาดเอและบี เซกเมนท์ บนพื้นฐานใหม่ หรือ วี-แพลตฟอร์ม ของบริษัทจะเข้ามาตอบโจทย์ลูกค้า ที่ต้องการความประหยัดน้ำมัน พร้อมอเนกประสงค์ ราคาสมเหตุสมผล ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี
นอกเหนือจากอีโคคาร์แล้ว วี-แพลตฟอร์ม ยังใช้เป็นพื้นฐานในโครงการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเอและบี เซกเมนท์รุ่นใหม่ในอีก 4 ประเทศ ทั้งอินเดีย จีน และอีก 2 ประเทศแถบอเมริกาที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งหลังจาก 5 โรงงานดังกล่าวขึ้นไลน์ผลิตครบ จะมียอดขายรวมระดับ 1 ล้านคันภายในปี 2556 แน่นอน
ปัจจุบันนิสสันมียอดขายรถยนต์นั่งขนาดเล็กทั่วโลกประมาณ 25% ซึ่งแนวโน้มตลาดโลกยังมีความต้องการรถประเภทนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆนับจากปี 2547 เป็นต้นมา ดังนั้นเป้าหมายยอดขาย 1 ล้านคันของรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ผลิตบนวี – แพลตฟอร์ม ในอีก 4 ปีข้างหน้า จะเพิ่มสัดส่วนการขายใหนิสสันอีกประมาณ 1.5%
“ไทยเป็น 1ใน 5 ฐานการผลิตที่สำคัญของนิสสันในการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กบนพื้นฐาน วี-แพลตฟอร์ม เพื่อส่งขายไปยัง 160 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเราพยายามลดต้นทุนการผลิตเพื่อให้ราคาสามารถแข่งกันได้ โดยเฉพาะเรื่องการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Local Content) ดังนั้นอีโคคาร์ที่ผลิตในไทยจะใช้ชิ้นส่วนในประเทศกว่า 80% (อินเดียและจีน จะใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 80% และ 90% ตามลำดับ)”นายโคบี กล่าวและว่า
สำหรับรถในโครงการอีโคคาร์ที่เตรียมทำตลาดช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า ทุกอย่างยังดำเนินการไปตามแผนเดิม และตามกรอบเงื่อนไขที่กำหนดไว้ของรัฐบาลไทย แต่กระนั้นอยากให้เข้าใจว่า รถรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวไม่ใช่รถราคาถูก เนื่องจากใช้เทคโนโลยีสูง ขณะเดียวกันข้อกำนดของรัฐบาลไทยค่อนข้างซับซ้อน ส่วนราคายังไม่สามารถเปิดเผยได้
“รายละเอียดคร่าวๆคือเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก พัฒนาบน วี-แพลตฟอร์มที่ค่อนข้างยืดหยุ่น น้ำหนักเบาดีไซน์สวยงาม พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVTดังนั้นจึงเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันและมีการปล่อยไอเสียต่ำ ส่วนการทำตลาดรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลนั้น บริษัทยังไม่มีแผน และมองไม่เห็นว่าตลาดไทยมีความต้องการ แต่อีก 5 ปีหลังจากนี้ เราอาจจะกลับมาพิจารณาเรื่องเครื่องยนต์ดีเซลอีกครั้ง”นายโคบี กล่าว
หลังประกาศตัวเป็นค่ายรถยนต์รายแรกที่เตรียมทำตลาดอีโคคาร์อย่างเป็นทางการช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า ล่าสุด บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแถลงข่าวยืนยันความพร้อม และนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มพัฒนาล่าสุด “วี-แพลตฟอร์ม” (V-Platform) ที่จะนำมาใช้ในรถยนต์รุ่นดังกล่าว
วิเซ็นต์ โคบี ผู้อำนวยการโครงการวี-แลตฟอร์ม บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ประเทญี่ปุ่น เปิดเผยว่า แนวโน้มของรถยนต์นั่งขนาดเล็กจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งโครงการพัฒนารถขนาดเอและบี เซกเมนท์ บนพื้นฐานใหม่ หรือ วี-แพลตฟอร์ม ของบริษัทจะเข้ามาตอบโจทย์ลูกค้า ที่ต้องการความประหยัดน้ำมัน พร้อมอเนกประสงค์ ราคาสมเหตุสมผล ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี
นอกเหนือจากอีโคคาร์แล้ว วี-แพลตฟอร์ม ยังใช้เป็นพื้นฐานในโครงการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเอและบี เซกเมนท์รุ่นใหม่ในอีก 4 ประเทศ ทั้งอินเดีย จีน และอีก 2 ประเทศแถบอเมริกาที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งหลังจาก 5 โรงงานดังกล่าวขึ้นไลน์ผลิตครบ จะมียอดขายรวมระดับ 1 ล้านคันภายในปี 2556 แน่นอน
ปัจจุบันนิสสันมียอดขายรถยนต์นั่งขนาดเล็กทั่วโลกประมาณ 25% ซึ่งแนวโน้มตลาดโลกยังมีความต้องการรถประเภทนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆนับจากปี 2547 เป็นต้นมา ดังนั้นเป้าหมายยอดขาย 1 ล้านคันของรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ผลิตบนวี – แพลตฟอร์ม ในอีก 4 ปีข้างหน้า จะเพิ่มสัดส่วนการขายใหนิสสันอีกประมาณ 1.5%
“ไทยเป็น 1ใน 5 ฐานการผลิตที่สำคัญของนิสสันในการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กบนพื้นฐาน วี-แพลตฟอร์ม เพื่อส่งขายไปยัง 160 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเราพยายามลดต้นทุนการผลิตเพื่อให้ราคาสามารถแข่งกันได้ โดยเฉพาะเรื่องการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ (Local Content) ดังนั้นอีโคคาร์ที่ผลิตในไทยจะใช้ชิ้นส่วนในประเทศกว่า 80% (อินเดียและจีน จะใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 80% และ 90% ตามลำดับ)”นายโคบี กล่าวและว่า
สำหรับรถในโครงการอีโคคาร์ที่เตรียมทำตลาดช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า ทุกอย่างยังดำเนินการไปตามแผนเดิม และตามกรอบเงื่อนไขที่กำหนดไว้ของรัฐบาลไทย แต่กระนั้นอยากให้เข้าใจว่า รถรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวไม่ใช่รถราคาถูก เนื่องจากใช้เทคโนโลยีสูง ขณะเดียวกันข้อกำนดของรัฐบาลไทยค่อนข้างซับซ้อน ส่วนราคายังไม่สามารถเปิดเผยได้
“รายละเอียดคร่าวๆคือเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็ก พัฒนาบน วี-แพลตฟอร์มที่ค่อนข้างยืดหยุ่น น้ำหนักเบาดีไซน์สวยงาม พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVTดังนั้นจึงเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันและมีการปล่อยไอเสียต่ำ ส่วนการทำตลาดรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลนั้น บริษัทยังไม่มีแผน และมองไม่เห็นว่าตลาดไทยมีความต้องการ แต่อีก 5 ปีหลังจากนี้ เราอาจจะกลับมาพิจารณาเรื่องเครื่องยนต์ดีเซลอีกครั้ง”นายโคบี กล่าว