ในสัปดาห์ที่แล้ว ได้ดูความเคลื่อนไหวและสีสันใหม่ๆ จากผู้ผลิตรถยนต์เจ้าถิ่นในแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ หรือ IAA 2009 กันไปแล้ว ซึ่งเอาแค่แบรนด์เยอรมัน 5 ยี่ห้อหลักกับอีก 1 สำนักแต่งอย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์, บีเอ็มดับเบิลยู, โฟล์คสวาเกน, ออดี้, พอร์ช, โอเปิล และบราบัส ก็มีของใหม่มาให้ดูกันอย่างละลานตาจนหน้ากระดาษแทบไม่พอลง
สำหรับในสัปดาห์นี้มาดูฝั่งผู้มาเยือนกันบ้างว่า แต่ละค่ายมีอะไรใหม่ๆ ออกมาให้ดู ต้องบอกเอาไว้ก่อนว่า ฝั่งแบรนด์ญี่ปุ่นอย่างโตโยต้า, ฮอนด้า, มิตซูบิชิ และนิสสันอาจไม่ค่อยหวือหวามากนัก เพราะอย่างแรก คือ เมื่อเปรียบเทียบความสำคัญของตลาดกับญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาแล้ว ยุโรปยังเป็นรองสองแห่งนี้อยู่ และอีกเรื่อง คือ ในเดือนหน้า (ตุลาคม) จะมีงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2009 หลายค่ายคงอั้นทีเด็ดเอาไว้ปล่อยทีเดียวในงานนี้
ฝรั่งเศสเดินหน้าลุยเต็มสูบ
3 สหายจากแดนน้ำหอมทั้งเรโนลต์, เปอโยต์ และซีตรองเดินหน้าเข้าร่วมงานนี้ด้วยการพกรถยนต์ใหม่ทั้งต้นแบบและในสายการผลิตมากันเต็มพิกัด เรียกว่าโชว์กันเต็มที่ไม่น้อยหน้าแบรนด์เจ้าถิ่นเลย โดยเฉพาะเรโนลต์ ซึ่งจากโปรเจ็กต์ Better Place ที่ร่วมมือกับพันธมิตรอย่างนิสสันในการจับมือกับภาครัฐฯ ของประเทศต่างๆ ในการหันมาสนใจตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้ตลาดมีการขยายตัว ทำให้แบรนด์นี้มุ่งเน้นไปกับตลาด EV อย่างเต็มตัว...ไม่เชื่อลองดูต้นแบบทั้ง 4 คันที่นำมาเปิดตัวในงานนี้ก็ได้
รถยนต์ทั้งหมดมาในชื่อ Z.E. หรือ Zero Emission ซึ่งแน่นนอนว่าตัวย่ออย่างนี้หนีไม่พ้นรถยนต์พลังไฟฟ้าแน่นอน โดยมีทั้งรุ่นสุดล้ำที่ออกแบบชนิดก้าวไปไกลอย่างรุ่น Zoe กับ Twizy และรุ่นที่ดูแล้วมีแนวโน้มว่าอาจจะถูกผลิตขายในเร็วๆ นี้อย่าง Kangkoo และ Fluence ซึ่ง 2 รุ่นหลังนี้แชร์พื้นฐานจากรถยนต์ที่ขายอยู่ในตลาด ส่วน 2 คันแรกดูเหมือนว่ารุ่น Zoe ซึ่งใช้พื้นฐานเดียวกับต้นแบบที่ใช้ชื่อเดียวกันนี้แต่เปิดตัวในเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2005 โดยข่าวแจ้งมาว่าจะถูกผลิตออกขายในปี 2011 หรือไม่ก็ 2012
ขณะที่ทางเปอโยต์ก็ให้ความสนใจเกี่ยวกับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน แต่ใช้วิธีเล่นง่ายๆ เพราะอาศัยสายสัมพันธ์กับทางมิตซูบิชิ มอเตอร์ ด้วยการนำรุ่น i-MiEV มาดัดแปลงและเปลี่ยนชื่อเป็นรุ่น iOn เรียกว่ายกมาทั้งคันแบบแบบปรับนิดนี่หน่อยเท่านั้น โดยจะขายทั้งในแบบฟลีตยกชุดให้กับบริษัท หรือว่าคนทั่วไป และอีกคันที่ถือเป็นของใหม่แกะกล่อง คือ รุ่น BB1 กับรูปทรงสวยล้ำสมัยด้วยความยาวเพียง 2.5 เมตรเท่านั้น ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า แต่เหนือชั้นด้วยการจัดวางพื้นที่ใช้สอยภายใน ถ้าเน้นบรรทุกก็ขับแค่คนเดียว แต่มีพื้นที่สำหรับบรรทุกมากถึง 850 ลิตร หรือเน้นขนคนก็นั่งได้ 4 คน แต่มีพื้นที่บรรทุกเหลือแค่ 160 ลิตรเท่านั้น
รถยนต์ในสายการผลิตของเปอโยต์ที่เปิดตัวในงานนี้มี 2 รุ่น คือ สปอร์ตรุ่น RCZ ที่ใช้พื้นฐานของ 308 และรถยนต์อเนกประสงค์รุ่น 5008 ซึ่งใช้พื้นฐานร่วมกับซีตรอง C4 ปิกัสโซ่ เพื่อนร่วมเครือ PSA
ส่วนซีตรอง งานนี้เน้นไปกับการเริ่มทำตลาดอย่างเป็นทางการของรถยนต์สายพันธุ์ใหม่ที่หวังเจาะตลาดหรูอย่างรุ่น DS หรือ Different Spirit ซึ่งจะเริ่มขายกับรุ่น DS3 ที่พัฒนามาจากต้นแบบที่เปิดตัวในเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2009 เพื่อเป็นคู่ปรับของมินิ คูเปอร์ และเฟียต 500 เริ่มขายต้นปีหน้ากับเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,400 ซีซี 95 แรงม้า และ 1,600 ซีซี 120 แรงม้า และเทอร์โบ 150 แรงม้า ตามด้วยเทอร์โบดีเซล 2 รุ่นที่แชร์พื้นฐานเดียวกับมินิของบีเอ็มดับเบิลยู คือ 1,600 ซีซี 90 และ 110 แรงม้า
ตามด้วยรุ่น C3 โมเดลเชนจ์ ซึ่งได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับ 207 เพื่อลุยตลาดซับคอมแพ็กต์ หรือ B-Segment และต้นแบบที่เรียกว่า Revolte ที่มีรูปทรงสวยและล้ำสมัย ซึ่งข่าวบางกระแสบอกว่า อาจจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นตัวแทนของ 2CV ในอนาคต
พลังสร้างสรรค์จากหลากผู้ผลิต
อาจไม่หวือหวามากนัก แต่แบรนด์รถยนต์ของอิตาลีก็มีอะไรใหม่ๆ ออกมาโชว์กัน เริ่มจากลัมบอร์กินีกับโปรเจ็กต์ดึงเงินออกจากบัญชีของเศรษฐีครั้งใหม่ด้วยรุ่น Reventon เปิดประทุน ซึ่งแชร์พื้นฐานร่วมกับรุ่นคูเป้ รวมถึงเครื่องยนต์วี12 6,500 ซีซี 670 แรงม้า และมีการผลิตจำกัดเพียง 20 คันเท่านั้น
ตามด้วยเฟอร์รารี่กับการเผยโฉม 458 Italia อย่างเป็นทางการเพื่อทำตลาดแทนที่รุ่น 430 ส่วนมาเซราติมากับสปอร์ตเปิดประทุน 4 ที่นั่งในชื่อ GranCabrio และทางเฟียตเน้นไปที่การเพิ่มรุ่นพิเศษให้กับรถยนต์รุ่น 500 Abarth 695 สีแดงเพลิงแบบเดียวกับเฟอร์รารี่ และเพิ่มกำลังขับเคลื่อนในระดับ 180 แรงม้า ตามด้วยรุ่นพิเศษของพุนโตในชื่อ EVO
ฝั่งสแกนดิเนเวียน ทางวอลโว่เปิดตัวการปรับโฉมของรถยนต์ 2 รุ่นใหม่ คือ C30 และ C70 ส่วนซาบเผยโฉมโมเดลเชนจ์ครั้งแรกในรอบ12 ปีของรุ่น 9-5 ซึ่งนอกจากจะสวยสดใหม่แล้วยังมาพร้อมความประหยัดกับเครื่องยนต์ใหม่ 1,600 ซีซี เทอร์โบที่รีดกำลังออกมาได้ 180 แรงม้าเลยทีเดียว
ส่วนฟอร์ดยุโรป เผยโฉมความอเนกประสงค์ที่ใช้พื้นฐานของโฟกัสอย่างรุ่น C-Max และมีเพิ่มอีกทางเลือกด้วยรุ่น Grand C-Max ซึ่งนอกจากจะมีขนาดใหญ่ขึ้นจากรุ่นธรรมดาแล้ว ประตูบานหลังของรุ่นนี้ยังเปลี่ยนจากแบบเปิดธรรมดามาเป็นแบบสไลด์ไปทางด้านหลังด้วยระบบไฟฟ้า ส่วนใครที่อยากดูโฟกัสใหม่ แบบโมเดลเชนจ์คงต้องรอจนถึงปลายปีนี้ หรือไม่ก็ต้นปีหน้า...น่าจะได้เห็นหน้าตาอย่างแน่นอน
สำหรับเกาะอังกฤษก็ยังมีของดีให้ติดตามกัน ทั้งแอสตัน มาร์ติน ราปิด รุ่นจำหน่ายจริง ซึ่งได้ฤกษ์เผยโฉมอย่างเป็นทางการในงานนี้ เช่นเดียวกับเบนท์ลีย์ มุลซานน์ ความหรูรุ่นใหม่กับเครื่องยนต์วี8 6,750 ซีซี เทอร์โบ 505 แรงม้า และส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ตามด้วยโรลส์-รอยซ์ โกสต์ ความหรูรุ่นเล็ก (กว่าแฟนธอม) ส่วนมินิเผยโฉมต้นแบบทั้งรุ่นคูเป้ และเปิดประทุนที่จะผลิตขายจริงแน่นอนในปี 2011 ส่วนโลตัสมากับตัวแข่งทางเรียบที่ใช้พื้นฐานของสปอร์ตรุ่นอีโวร่า
ญี่ปุ่นเงียบไม่ถึงกับเหงา
ต้องบอกว่าโตโยต้าเป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น 1 ใน 2 รายที่มีอะไรใหม่ๆ มาจัดแสดงในงานนี้ และเน้นไปที่ผลผลิตจากการขับเคลื่อนในแบบไฮบริด ทั้งพริอุสแบบ PHEV หรือ Plug-in Hybrid Electric Vehicle ซึ่งสามารถเสียบปลั๊กชาร์จกระแสไฟฟ้าเวลาที่ไม่ใช้งานได้
โตโยต้าจะส่งรถยนต์ PHEV ที่ใช้พื้นฐานเดียวกับพริอุสใหม่นี้ลงขายในตลาดยุโรปต้นปีหน้า ส่วนอีกคันมีขายด้วยเช่นกันแต่เป็นปลายปี คือ ออริส ไฮบริด ซึ่งใช้พื้นฐานตัวรถจากออริส หรือรุ่นแฮทช์แบ็ก 5 ประตูพื้นฐานเดียวกับโคโรลล่า อัลติส ส่วนเครื่องยนต์ไฮบริดยกชุดมาจากของพริอุสใหม่ โดยโรงงานผลิตสำหรับขายในยุโรปตั้งอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ตามด้วยโมเดลเชนจ์ของเอสยูวีรุ่นแลนด์ครูสเซอร์ ซึ่งในบ้านเราใช้ชื่อว่า แลนด์ครูสเซอร์ พราโด และเล็กซัส GX สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา ส่วนเล็กซัส บริษัทร่วมเครือก็เปิดตัวแฮทช์แบ็กต้นแบบรุ่น LF-Ch ออกมา
อีกค่ายที่มีของใหม่มาจัดแสดงในงานนี้คือ มาสด้ากับต้นแบบรุ่น Superlight ซึ่งเป็นการฉลองครบรอบ 20 ปีในการทำตลาดของ MX-5 และจับเอาโรดสเตอร์รุ่นนี้มาดัดแปลงเป็นโรดสเตอร์ที่มีน้ำหนักไม่ถึง 1 ตัน พร้อมกับการออกแบบที่สวยสปอร์ตล้ำสมัย
เกาหลีพร้อมลุย ส่งของใหม่บุกยุโรป
ทั้งเกียและฮุนได บริษัทพี่น้องจากเกาหลีใต้ เดินหน้าลุยตลาดรถยนต์ยุโรป ด้วยการส่งของใหม่ในการเข้าทำตลาดกลุ่มนี้มากมายหลายรุ่น เริ่มจากเกียกับ 3 รุ่นใหม่ ทั้ง Venga รถยนต์ขนาดซับคอมแพ็กต์รุ่นใหม่คลาสเดียวกับฮอนด้า แจ๊ซ และโตโยต้า ยาริส ตามด้วยการปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ให้กับรุ่น cee’D คอมแพ็กต์คาร์รุ่นดัง พร้อมกับเพิ่มทางเลือกด้วยตัวถังแวกอน และปิดท้ายกับโมเดลเชนจ์ของโซเรนโต้
ส่วนฮุนได งานนี้ยังไม่เห็นโฉมของโซนาต้าใหม่ เพราะทางฮุนไดตั้งใจส่งโซนาต้า YF ลุยตลาดบ้านตัวเองก่อน ก็เลยเก็บเอาไว้อวดโฉมที่เกาหลีใต้ งานนี้ก็เลยมีผลผลิตในแบบเอสยูวีเป็นหลัก ทั้งโมเดลเชนจ์ของรุ่นทูซอน ที่เปลี่ยนชื่อมาเป็น iX35 สำหรับขายในยุโรป และต้นแบบ 2 รุ่น คือ Blue Will ในแนวสปอร์ตล้ำสมัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยตัวถังที่ผลิตจากวัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และ iX-Metro ที่ได้รับการออกแบบโดยอิงอทธิพลมาจากรถยนต์ที่ใช้ในภาพยนตร์ไซ-ไฟ