xs
xsm
sm
md
lg

ทัวร์ยกแก็งค์กับ Hyundai H-1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รถตู้หรือรถอเนกประสงค์นับว่าเหมาะสำหรับการเดินทางตามประสาครอบครัว เพื่อนฝูงหรือทัวร์ขนาดย่อมสิบคน นอกเหนือจากจะสามารถนั่งได้หลายคนแล้ว การเดินทางก็ถือว่ามีความคล่องตัวค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับบัสขนาดใหญ่

ดังนั้นค่ายรถเกาหลีมาแรงอย่างฮุนไดจึงได้กระตุ้นตลาดรถอเนกประสงค์ด้วยการเผยโฉม Hyundai H-1 โมเดลปี 2009 โดยเน้นการเติมออปชันใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้ถึงขีดสุด พร้อมปรับไลน์เพื่อความชัดเจนในการทำตลาดซึ่งแบ่งออกเป็น 3 รุ่นหลัก เริ่มจากรุ่นท๊อป H-1 Maesto Deluxec ,H-1 Maesto Executive และH-1 Touring

การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกเป็นแบบ Full-Size MPV ที่บ่งบอกถึงความภูมิฐานตามแบบของรถอเนกประสงค์ระดับพรีเมียม ซึ่งสัมผัสได้ตั้งแต่ไฟหน้ารูปทรงสวยดีไซน์แบบแนวตั้งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาพร้อมกับไฟหรี่และไฟเลี้ยวในชุดโคมเดียวกัน คู่กับไฟตัดหมอกคู่หน้า เพิ่มวิสัยทัศน์ที่ดีกว่าในการขับขี่ขณะที่หมอกลงจัด หรือฝนตกหนัก พร้อมกับทำความสะอาดด้วยหัวพ่นน้ำกระจกหน้าแบบ 3 ทิศทางที่ให้แรงดันน้ำสูง

สำหรับรุ่นที่"ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง"เลือกมาทดสอบบนเส้นทางกรุงเทพฯ - ระยองนั้นก็คือ รุ่น Maesto Deluxec เกียร์อัตโนมัติ ที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน เพิ่มเติมออปชันเอาใจผู้บริหารและคนรักครอบครัวหลายรายการ ไล่ตั้งแต่ เบาะหนังแท้ พร้อมที่นั่งแถวสองสามารถเลื่อนได้ทั้ง 2 ตัว และสามารถปรับหมุนเบาะ 180 องศาได้ ประตูเปิดสไลด์ได้ทั้ง 2 ด้าน หมอนรองศีรษะที่เบาะนั่งทุกตำแหน่ง, เครื่องเล่น DVD จอ LCD, กล้องมองหลังพร้อมเซ็นเซอร์ขณะถอยจอด ทั้งหมดนี้อยู่ที่ราคา 1,449,000 บาท(เพิ่มขึ้นจากเดิม 49,000 บาท)

ส่วนรุ่น H-1 Maesto Executiveราคา 1,379,000 บาท เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ทั้งเบาะนั่งแบบรางเลื่อนคู่ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา สามารถปรับหมุนกลับได้ 180 องศา เบาะหนังมีหมอนรองศรีษะทุกตำแหน่ง ติดตั้งเครื่องเล่น CD, MP3 และ เซ็นเซอร์ถอยจอด ฯลฯ ส่วน H-1 Touring นั้นยังตั้งราคาเดิมคือ 1,050,000 บาท เพราะเป็นรุ่นพื้นฐานเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชอบขับขี่ด้วยตัวเองหรือใช้งานทั่วๆไป พร้อมติดตั้งเกียร์ธรรมดา5 สปีด เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้า สามารถเลื่อนเบาะนั่งทางฝั่งขวาได้เพียงข้างเดียว

H-1ทั้ง 3 รุ่น ใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร CRDi เทอร์โบดีเซล ให้กำลังสูงสุดถึง 175 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 392 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4 ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังแบบมัลติลิงค์ และในรุ่น Deluxe และ Executive จะมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะพร้อมโหมด Sport shift ดิสก์เบรก 4 ล้อ ABS และ EBD

สิ่งหนึ่งที่ถือว่าH-1 ได้เปรียบรถตู้ทั่วไปก็คือ เรื่องของประตูบานเลื่อนด้านข้างที่เราเรียกกันว่าเป็นแบบดับเบิลดอร์ หรือบานเลื่อนสองฝั่ง ขณะเดียวกันเบาะนั่งโดยสารสามารถปรับได้หลายรูปแบบ เช่นที่นั่งหลังสุดสามารถเลื่อนเข้าออก พร้อมกับพับที่นั่งได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ ตั้งแต่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ จนถึงถุงกอล์ฟ ได้คราวละหลายๆ ใบ หรือไม่ก็ถอดเบาะออกเพื่อจัดพื้นที่โดยสารให้ดูโปรงๆ นั่งกันสบายๆ สำหรับเป็นรถตู้ส่วนบุคคลยังได้ ระบบปรับอากาศภายในตัวรถติดตั้งท่อส่งความเย็นบนหลังคา สามารถให้ความเย็นจากหลังคาไปยัง 6 จุดรอบคันนอกเหนือจากช่องลมด้านหน้า ซึ่งเรื่องความเย็นก็ถือว่าทั่วถึง

ในเรื่องของความปลอดภัยก็มีให้พอตัว เป็นต้นว่าระบบป้องกันการเกิดอุบัติเหตุควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งไว้ในจุดต่าง ๆ ดูแลความเร็วล้อ ความเร็วของรถ การเอียงตัว มุมของพวงมาลัย รวมทั้งแรงกดแป้นเบรก เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมเบรก ABS และ EBD

...ถึงบรรทัดนี้คงต้องบอกว่าหากใครจะหารถตู้ หรือต้องการความอเนกประสงค์ ในราคาย่อมเยา ฮุนได H-1 ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

กำลังโหลดความคิดเห็น