บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยขั้นสูง Mercedes-Benz Driving Experience (MBDE) ให้กับลูกค้าและสื่อมวลชน ณ กองพันทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้
สำหรับ Mercedes-Benz Driving Experience ในปีนี้เป็นโปรแกรมการขับขี่ขั้นสูงที่มีความยากกว่าปีก่อนๆ โดยแบ่งเป็น 4 ฐานหลักคือ 1.การขับขี่แบบ “สลาลม” ด้วยความเร็วสูง 2.การเปลี่ยนช่องทางวิ่ง ด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. 3.การเข้าโค้ง 180 องศา และ 4.การควบคุมรถในสนามด้วยความเร็วสูง ซึ่งอำนวยการอบรบโดย 3 ผู้ฝึกสอนมืออาชีพจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศเยอรมนี
ทั้งนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้เตรียมรถยนต์ไว้ให้ลูกค้าและสื่อมวลชนได้ฝึกทักษะการขับขี่กว่า 10 คัน เกือบครบทุกรุ่นที่ทำตลาดในไทย ไล่ตั้งแต่แต่ B 180 CDI ,C230 AVANTGARDE, CLC 200, E230,S320CDI และ SLK 200 เป็นต้น
การขับขี่แบบ “สลาลม”
การทดสอบแบบ “สลาลม” เป็นการเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่การทดสอบอื่นๆ โดยมุ่งเน้นที่ทักษะการขับขี่หลบหลีกสิ่งกีดขวางต่างๆ ทั้งเล็กและใหญ่ที่มักเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ที่ฐานทดสอบนี้ เราจะได้ฝึกทักษะการขับขี่หลบหลีกกรวยกีดขวางบนท้องถนน ซึ่งวางเรียงไว้เป็นแถวในระยะห่างที่ไม่สม่ำเสมอ
การเปลี่ยนช่องทางวิ่ง
การทดสอบนี้เราต้องจินตนาการว่า พบสิ่งกีดขวางด้านหน้าอย่างกะทันหัน และตัดสินใจเบี่ยงรถออกนอกเส้นทางเพื่อหลบหลีกสิ่งกีดขวางนั้น จากนั้นผู้ขับต้องควบคุมรถให้กลับมาวิ่งบนเส้นทางเดิมอย่างรวดเร็วเพื่อหลบรถที่วิ่งสวนมาจากอีกเลนหนึ่ง และจากแรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นระบบ ESP จะช่วยให้รถทรงตัวอยู่ได้ ในขณะที่ผู้ขับเองก็ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และสามารถควบคุมรถได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะเมื่อขับด้วยความเร็วสูงถึง 120 กม./ชม.
การเข้าโค้ง 180 องศา
ในกรณีที่ขับรถมาด้วยความเร็วสูง และพบว่าต้องเข้าโค้งอย่างกะทันหัน ในขณะโค้งที่ 180 องศา ผู้ขับจะได้ฝึกทักษะในการควบคุมพวงมาลัยและหาแนวเส้นที่จะเข้าโค้งอย่างปลอดภัย ในกรณีนี้ระบบ ESP และระบบเบรก ABS จะทำงานประสานกันเพื่อช่วยในการทรงตัวของรถ นอกจากนี้เราจะได้ทดสอบความแตกต่างในการเข้าโค้งระหว่างรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในแต่ละรุ่นอีกด้วย
การควบคุมรถด้วยความเร็วสูง
ด่านนี้ผู้จัดจะเนรมิตสนามฝึกให้มีลักษณะเป็นเหมือนสนามแข่งรถ เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ฝึกสังเกตเส้นแนวการขับที่หลากหลาย และนำความรู้จากการฝึกในฐานที่ผ่านมาแล้วมาใช้ ซึ่งสิ่งสำคัญของฐานนี้คือการฝึกที่จะควบคุมพวงมาลัยในโค้งหรือสถานการณ์ที่แตกต่างไป พร้อมๆกับการควบคุมความเร็วที่เหมาะสม รวมถึงใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ติดมากับตัวรถได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่
ทั้งหมดเป็น 4 ฐานที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดให้เพื่อเสริมทักษะการขับขี่ โดยหวังว่าประสบการณ์นี้จะให้ผู้ขับสามารถควบคุมสภาวะวิกฤตได้ถูกต้องตามแต่ละสถานการณ์ และช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุให้มากที่สุด
สำหรับโปรแกรม Mercedes-Benz Driving Experience จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และเป็นกิจกรรมที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังขยายโอกาสให้ลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดทั้ง สุราษฏร์ธานี ราชบุรี สมุทรสาคร อุบลราชธานี ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ ฯ โดยจะเดินสายต่อเนื่องตลาดทั้งปี ทั้งนี้ลูกค้าที่สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ทั่วประเทศ
สำหรับ Mercedes-Benz Driving Experience ในปีนี้เป็นโปรแกรมการขับขี่ขั้นสูงที่มีความยากกว่าปีก่อนๆ โดยแบ่งเป็น 4 ฐานหลักคือ 1.การขับขี่แบบ “สลาลม” ด้วยความเร็วสูง 2.การเปลี่ยนช่องทางวิ่ง ด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. 3.การเข้าโค้ง 180 องศา และ 4.การควบคุมรถในสนามด้วยความเร็วสูง ซึ่งอำนวยการอบรบโดย 3 ผู้ฝึกสอนมืออาชีพจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศเยอรมนี
ทั้งนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ได้เตรียมรถยนต์ไว้ให้ลูกค้าและสื่อมวลชนได้ฝึกทักษะการขับขี่กว่า 10 คัน เกือบครบทุกรุ่นที่ทำตลาดในไทย ไล่ตั้งแต่แต่ B 180 CDI ,C230 AVANTGARDE, CLC 200, E230,S320CDI และ SLK 200 เป็นต้น
การขับขี่แบบ “สลาลม”
การทดสอบแบบ “สลาลม” เป็นการเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่การทดสอบอื่นๆ โดยมุ่งเน้นที่ทักษะการขับขี่หลบหลีกสิ่งกีดขวางต่างๆ ทั้งเล็กและใหญ่ที่มักเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ที่ฐานทดสอบนี้ เราจะได้ฝึกทักษะการขับขี่หลบหลีกกรวยกีดขวางบนท้องถนน ซึ่งวางเรียงไว้เป็นแถวในระยะห่างที่ไม่สม่ำเสมอ
การเปลี่ยนช่องทางวิ่ง
การทดสอบนี้เราต้องจินตนาการว่า พบสิ่งกีดขวางด้านหน้าอย่างกะทันหัน และตัดสินใจเบี่ยงรถออกนอกเส้นทางเพื่อหลบหลีกสิ่งกีดขวางนั้น จากนั้นผู้ขับต้องควบคุมรถให้กลับมาวิ่งบนเส้นทางเดิมอย่างรวดเร็วเพื่อหลบรถที่วิ่งสวนมาจากอีกเลนหนึ่ง และจากแรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นระบบ ESP จะช่วยให้รถทรงตัวอยู่ได้ ในขณะที่ผู้ขับเองก็ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และสามารถควบคุมรถได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะเมื่อขับด้วยความเร็วสูงถึง 120 กม./ชม.
การเข้าโค้ง 180 องศา
ในกรณีที่ขับรถมาด้วยความเร็วสูง และพบว่าต้องเข้าโค้งอย่างกะทันหัน ในขณะโค้งที่ 180 องศา ผู้ขับจะได้ฝึกทักษะในการควบคุมพวงมาลัยและหาแนวเส้นที่จะเข้าโค้งอย่างปลอดภัย ในกรณีนี้ระบบ ESP และระบบเบรก ABS จะทำงานประสานกันเพื่อช่วยในการทรงตัวของรถ นอกจากนี้เราจะได้ทดสอบความแตกต่างในการเข้าโค้งระหว่างรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในแต่ละรุ่นอีกด้วย
การควบคุมรถด้วยความเร็วสูง
ด่านนี้ผู้จัดจะเนรมิตสนามฝึกให้มีลักษณะเป็นเหมือนสนามแข่งรถ เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ฝึกสังเกตเส้นแนวการขับที่หลากหลาย และนำความรู้จากการฝึกในฐานที่ผ่านมาแล้วมาใช้ ซึ่งสิ่งสำคัญของฐานนี้คือการฝึกที่จะควบคุมพวงมาลัยในโค้งหรือสถานการณ์ที่แตกต่างไป พร้อมๆกับการควบคุมความเร็วที่เหมาะสม รวมถึงใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ติดมากับตัวรถได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่
ทั้งหมดเป็น 4 ฐานที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ จัดให้เพื่อเสริมทักษะการขับขี่ โดยหวังว่าประสบการณ์นี้จะให้ผู้ขับสามารถควบคุมสภาวะวิกฤตได้ถูกต้องตามแต่ละสถานการณ์ และช่วยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุให้มากที่สุด
สำหรับโปรแกรม Mercedes-Benz Driving Experience จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และเป็นกิจกรรมที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ซึ่งบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังขยายโอกาสให้ลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดทั้ง สุราษฏร์ธานี ราชบุรี สมุทรสาคร อุบลราชธานี ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ ฯ โดยจะเดินสายต่อเนื่องตลาดทั้งปี ทั้งนี้ลูกค้าที่สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการ ทั่วประเทศ