ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับปีแรก งานแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายใหญ่ "Bangsaen Thailand Speed Festival 2008" ทั้งที่เจอกับช่วงความขัดแย้งการเมือง และปัญหาฝนฟ้าแปรปรวนอีก แต่ใช่ว่าจะหยุดความสนใจของผู้ชื่นชอบความความเร็วได้
"นับว่าปีที่สองของการจัดงานประสบความสำเร็จทีเดียว ทั้งในแง่ของผู้มาชมนับแสนคน รถยนต์ที่เข้าร่วมแข่งขันมากกว่าปีแรก และเงินหมุนเวียนในบางแสนอีกร่วม 300 ล้านบาท ในช่วงที่จัดแข่งขัน"
นั่นคือคำกล่าวของ "สนธยา คุณปลื้ม" ซึ่งเป็นโต้โผใหญ่ในการปิดเมืองบางแสน เพื่อใช้เป็นสนามประลองความเร็วปีที่ 2 ในวันที่เขาต้องละเว้นจากแวดวงการเมืองไทย เป็นเวลาถึง 5 ปี ในฐานะ 1 ในบ้านเลขที่ 111 ของพรรคไทยรักไทย
แน่นอนในวันที่เขาต้องเว้นวรรค ประกอบกับการเมืองสนามใหญ่ที่วุ่นวายอย่างหนัก ทำให้สนธยาหันกลับมายังภูมิลำเนาที่จังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะฐานใหญ่ "บางแสน" ด้วยการกลุ่มทุ่มเทพัฒนาบ้านเกิดแบบเต็มร้อย และโดยเฉพาะภารกิจที่จะต้องเปลี่ยนภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวของชลบุรี ไม่ว่าจะเป็นที่พัทยา หรือบางแสน จากเมืองSea, Sand, Sun, Sex ให้เป็นเมือง Activity หรือมีกิจกรรมหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส
"ตอนนี้เรากำลังนำมอเตอร์สปอร์ตเข้ามา จะเห็นได้จากงาน Bangsaen Thailand Speed Festival 2008 และต่อจากนั้นก็มีงานรวมบิ๊กไบค์ที่มีรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่กว่า 5 พันคันมารวมตัวกัน ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 4 แล้ว ส่วนงานบางแสน ไทยแลนด์ สปีดฯ แม้จะจัดเป็นปีที่ 2 แต่เราหวังว่าจะทำให้เป็นงานใหญ่ประจำปี เช่นเดียวกับงานแข่งรถที่มาเก๊า เป็นสนามระดับอินเตอร์ และปีนี้ FIA ก็มาดูการจัดการแข่งขันและสภาพสนามแล้ว และได้ให้คำแนะนำในการปรับปรุงสนาม โดยจะผลักดันให้สนามแห่งนี้อยู่ในระดับ 3 ภายใน 3-5 ปี เพื่อสามารถแข่งขันรถระดับอินเตอร์ เช่นพวกคัพคาร์อย่างปอร์เช่คัพมาแข่งได้"
สนธยายังให้ความเห็นว่า เมื่อก่อนคนมองว่าพวกแข่งรถคือคนมีเงิน ซึ่งเราต้องการส่งเสริมมอเตอร์สปอร์ตให้เป็นกีฬา ซึ่งไทยเราเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ แต่การแข่งรถถูกมองเป็นอีกแบบ มอเตอร์สปอร์ตจึงโตมาด้วยคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ทั้งที่ทำให้กลายเป็นกีฬาที่ทุกคนสามารถร่วมได้ เหตุนี้แม้แต่การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตในสนามพีระเซอร์กิต ก็พร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุน ไม่ได้คิดแบ่งว่าจะเป็นคู่แข่งกัน เพราะล้วนอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีเหมือนกัน
"ที่สำคัญทำให้เกิดเรื่องการท่องเที่ยว อย่างเช่นที่เมืองนอกเวลาแข่งรถ จะมีคนมามากมาย บ้างก็ขับรถคอนเทนเนอร์เข้ามาจอดกางออกเป็นบ้าน มีร้านขายของที่ระลึก ร้านขายรถ จะเห็นว่ามีตู้คอนเทนเนอร์มาเป็นแถว พวกที่เป็นเรื่องอาหาร เรียงกันไป พอวันซ้อมก็จะมีพวกเพ้นต์ หมวกกันน็อก และเสื้อผ้า ทั้งหมดล้วนเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องก่อให้เกิดรายได้ และจากการจัดงานบางแสน ไทยแลนด์ สปีดฯ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ประเมินว่า ตลอดสองปีที่จัดงานมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าปีละ 200-300 ล้านบาท ตัวชาวบ้านก็เห็นชัดเจนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น จึงให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่"
นั่นเป็นความมุ่งหวังและภารกิจของ สนธยา คุณปลื้ม ในวันที่เว้นวรรคทางการเมือง แต่นั่นเป็นเพียงหนึ่งในโครงการนำร่อง เพราะเขายังมีอีกหลายโครงการที่จะพลิกภาพลักษณ์ดินแดนแห่ง Sex ให้เป็น Activity
"นับว่าปีที่สองของการจัดงานประสบความสำเร็จทีเดียว ทั้งในแง่ของผู้มาชมนับแสนคน รถยนต์ที่เข้าร่วมแข่งขันมากกว่าปีแรก และเงินหมุนเวียนในบางแสนอีกร่วม 300 ล้านบาท ในช่วงที่จัดแข่งขัน"
นั่นคือคำกล่าวของ "สนธยา คุณปลื้ม" ซึ่งเป็นโต้โผใหญ่ในการปิดเมืองบางแสน เพื่อใช้เป็นสนามประลองความเร็วปีที่ 2 ในวันที่เขาต้องละเว้นจากแวดวงการเมืองไทย เป็นเวลาถึง 5 ปี ในฐานะ 1 ในบ้านเลขที่ 111 ของพรรคไทยรักไทย
แน่นอนในวันที่เขาต้องเว้นวรรค ประกอบกับการเมืองสนามใหญ่ที่วุ่นวายอย่างหนัก ทำให้สนธยาหันกลับมายังภูมิลำเนาที่จังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะฐานใหญ่ "บางแสน" ด้วยการกลุ่มทุ่มเทพัฒนาบ้านเกิดแบบเต็มร้อย และโดยเฉพาะภารกิจที่จะต้องเปลี่ยนภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวของชลบุรี ไม่ว่าจะเป็นที่พัทยา หรือบางแสน จากเมืองSea, Sand, Sun, Sex ให้เป็นเมือง Activity หรือมีกิจกรรมหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัส
"ตอนนี้เรากำลังนำมอเตอร์สปอร์ตเข้ามา จะเห็นได้จากงาน Bangsaen Thailand Speed Festival 2008 และต่อจากนั้นก็มีงานรวมบิ๊กไบค์ที่มีรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่กว่า 5 พันคันมารวมตัวกัน ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 4 แล้ว ส่วนงานบางแสน ไทยแลนด์ สปีดฯ แม้จะจัดเป็นปีที่ 2 แต่เราหวังว่าจะทำให้เป็นงานใหญ่ประจำปี เช่นเดียวกับงานแข่งรถที่มาเก๊า เป็นสนามระดับอินเตอร์ และปีนี้ FIA ก็มาดูการจัดการแข่งขันและสภาพสนามแล้ว และได้ให้คำแนะนำในการปรับปรุงสนาม โดยจะผลักดันให้สนามแห่งนี้อยู่ในระดับ 3 ภายใน 3-5 ปี เพื่อสามารถแข่งขันรถระดับอินเตอร์ เช่นพวกคัพคาร์อย่างปอร์เช่คัพมาแข่งได้"
สนธยายังให้ความเห็นว่า เมื่อก่อนคนมองว่าพวกแข่งรถคือคนมีเงิน ซึ่งเราต้องการส่งเสริมมอเตอร์สปอร์ตให้เป็นกีฬา ซึ่งไทยเราเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ แต่การแข่งรถถูกมองเป็นอีกแบบ มอเตอร์สปอร์ตจึงโตมาด้วยคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ทั้งที่ทำให้กลายเป็นกีฬาที่ทุกคนสามารถร่วมได้ เหตุนี้แม้แต่การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตในสนามพีระเซอร์กิต ก็พร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุน ไม่ได้คิดแบ่งว่าจะเป็นคู่แข่งกัน เพราะล้วนอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีเหมือนกัน
"ที่สำคัญทำให้เกิดเรื่องการท่องเที่ยว อย่างเช่นที่เมืองนอกเวลาแข่งรถ จะมีคนมามากมาย บ้างก็ขับรถคอนเทนเนอร์เข้ามาจอดกางออกเป็นบ้าน มีร้านขายของที่ระลึก ร้านขายรถ จะเห็นว่ามีตู้คอนเทนเนอร์มาเป็นแถว พวกที่เป็นเรื่องอาหาร เรียงกันไป พอวันซ้อมก็จะมีพวกเพ้นต์ หมวกกันน็อก และเสื้อผ้า ทั้งหมดล้วนเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องก่อให้เกิดรายได้ และจากการจัดงานบางแสน ไทยแลนด์ สปีดฯ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ประเมินว่า ตลอดสองปีที่จัดงานมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าปีละ 200-300 ล้านบาท ตัวชาวบ้านก็เห็นชัดเจนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น จึงให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่"
นั่นเป็นความมุ่งหวังและภารกิจของ สนธยา คุณปลื้ม ในวันที่เว้นวรรคทางการเมือง แต่นั่นเป็นเพียงหนึ่งในโครงการนำร่อง เพราะเขายังมีอีกหลายโครงการที่จะพลิกภาพลักษณ์ดินแดนแห่ง Sex ให้เป็น Activity
