ข่าวในประเทศ – “ฮอนด้า” เปิดโรงงานแห่งที่ 2 มูลค่า 6.2 พันล้านบาท ไม่หวั่นผลกระทบเศรษฐกิจ แม้ตลาดต่างประเทศจะตกลง 10% เล็งหาตลาดใหม่อย่างยุโรปตะวันออกทดแทน เชื่อจะไม่มีการปลดพนักงาน แต่จะเป็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพการผลิตและพัฒนาสินค้า
นายเคนจิ โอตะกะ ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยแห่งที่ 2 ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณเดียวกับโรงงานแรก ซึ่งมีมูลค่าการลงทุน 6.2 พันล้านบาท ได้เริ่มเดินไลน์ผลิตตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา และเป็นที่น่าภูมิใจยิ่งที่ฐานการผลิตในไทย ได้รับบทบาทเป็นโรงงานแม่ของฮอนด้าในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย นั่นแสดงให้ถึงความเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ ทั้งด้านการผลิต การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เช่นเดียวกับโรงงานในญี่ปุ่น บุคลากรที่มีทักษะ และเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ครอบคลุม รวมถึงการถ่ายทอดคามรู้และความชำนาญสู่โรงงานฮอนด้าแห่งอื่นๆ
“การเปิดโรงงานแห่งใหม่นี้ ยังรองรับความต้องการรถยนต์ฮอนด้าของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นทั้งภายในประเทศและในตลาดส่งออกหลักๆ ในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย โดยในประเทศไทยยอดขายถึงเดือนตุลาคมมีกว่า 7.2 หมื่นคัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 35% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว”
นายมาโกะโตะ โมริอิ รองประธาน บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าทั้งสองแห่ง มีพื้นที่กว่า 530 ไร่ โดยเป็นโรงงานผลิตที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ในโลกของฮอนด้า รองจากโรงงานในญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน แคนาดา และสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นโรงงานที่เทคโนโลยีล้ำสมัย มีความยืดหยุ่นและผลิตรถยนต์รุ่นขายดีของฮอนด้า 5 รุ่น ได้แก่ ฮอนด้า แจ๊ซ, ซิตี้, ซีวิค, ซีอาร์-วี และแอคคอร์ด ที่สำคัญยังออกแบบมาเพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
“โรงงานแห่งใหม่นี้มีกำลังการผลิต 1.2 แสนคันต่อปี ทำให้กำลังการผลิตโดยรวมของฮอนด้า เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว 2.4 แสนคันต่อปี และสามารถเพิ่มการผลิตได้เต็มที่ 2.8 แสนคันต่อปี ซึ่งโรงงานแห่งที่สองนี้ได้รองรับโครงการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์ด้วย โดยกำลังการผลิตจากโรงงานแห่งนี้ประมาณ 60% จะรองรับการส่งออก ส่วนผลกระทบจากสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก ตลาดไทยคงยังพอไปได้ แต่ส่งออกคงมีผลกระทบบ้าง ซึ่งขณะนี้มีคำสั่งซื้อลดลงประมาณ 10%”
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการบริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า วิกฤตเศรษฐกิจแฮมเบอเกอร์ที่ส่งผลกระทบทั่วโลกขณะนี้ คงจะต้องดำเนินการเพื่อให้สามารถลดต้นทุนลง แต่ยืนยันจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ฮอนด้าไม่ได้มีการปลดพนักงาน แต่ได้ส่งพนักงานจำนวนหนึ่งไปอบรมที่ญี่ปุ่น และได้กลายมาเป็นกำลังหลักในปัจจุบัน ครั้งนี้เช่นกันน่าจะเป็นเปิดโอกาสให้ฮอนด้า ได้พัฒนาคุณภาพ และประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ของฮอนด้า
“ส่วนการแก้ปัญหายอดขายในต่างประเทศตกลง แน่นอนเราคงจะมองหาตลาดใหม่ๆ มาแทนออสเตรเลีย โดยตลาดที่น่าสนใจจะเป็นแถบยุโรปตะวัน อย่างประเทศตุรกีเป็นต้น แต่ทั้งหมดคงจะต้องให้บริษัทแม่พิจารณาว่าจะให้มีการส่งออกประเทศไหนบ้าง”
**ผู้สนใจเข้าชมงาน Motor Expo สามารถมารับบ้ตรได้ท่านละ 5 ใบที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ โทร.02-6294488 ตั้งแต่วันนี้จนกว่าบัตรจะหมด**
นายเคนจิ โอตะกะ ประธานบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าในประเทศไทยแห่งที่ 2 ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณเดียวกับโรงงานแรก ซึ่งมีมูลค่าการลงทุน 6.2 พันล้านบาท ได้เริ่มเดินไลน์ผลิตตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา และเป็นที่น่าภูมิใจยิ่งที่ฐานการผลิตในไทย ได้รับบทบาทเป็นโรงงานแม่ของฮอนด้าในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย นั่นแสดงให้ถึงความเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคนี้ ทั้งด้านการผลิต การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เช่นเดียวกับโรงงานในญี่ปุ่น บุคลากรที่มีทักษะ และเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ครอบคลุม รวมถึงการถ่ายทอดคามรู้และความชำนาญสู่โรงงานฮอนด้าแห่งอื่นๆ
“การเปิดโรงงานแห่งใหม่นี้ ยังรองรับความต้องการรถยนต์ฮอนด้าของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นทั้งภายในประเทศและในตลาดส่งออกหลักๆ ในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย โดยในประเทศไทยยอดขายถึงเดือนตุลาคมมีกว่า 7.2 หมื่นคัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 35% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว”
นายมาโกะโตะ โมริอิ รองประธาน บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้าทั้งสองแห่ง มีพื้นที่กว่า 530 ไร่ โดยเป็นโรงงานผลิตที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ในโลกของฮอนด้า รองจากโรงงานในญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน แคนาดา และสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นโรงงานที่เทคโนโลยีล้ำสมัย มีความยืดหยุ่นและผลิตรถยนต์รุ่นขายดีของฮอนด้า 5 รุ่น ได้แก่ ฮอนด้า แจ๊ซ, ซิตี้, ซีวิค, ซีอาร์-วี และแอคคอร์ด ที่สำคัญยังออกแบบมาเพื่อเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
“โรงงานแห่งใหม่นี้มีกำลังการผลิต 1.2 แสนคันต่อปี ทำให้กำลังการผลิตโดยรวมของฮอนด้า เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว 2.4 แสนคันต่อปี และสามารถเพิ่มการผลิตได้เต็มที่ 2.8 แสนคันต่อปี ซึ่งโรงงานแห่งที่สองนี้ได้รองรับโครงการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์ด้วย โดยกำลังการผลิตจากโรงงานแห่งนี้ประมาณ 60% จะรองรับการส่งออก ส่วนผลกระทบจากสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก ตลาดไทยคงยังพอไปได้ แต่ส่งออกคงมีผลกระทบบ้าง ซึ่งขณะนี้มีคำสั่งซื้อลดลงประมาณ 10%”
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการบริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า วิกฤตเศรษฐกิจแฮมเบอเกอร์ที่ส่งผลกระทบทั่วโลกขณะนี้ คงจะต้องดำเนินการเพื่อให้สามารถลดต้นทุนลง แต่ยืนยันจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ฮอนด้าไม่ได้มีการปลดพนักงาน แต่ได้ส่งพนักงานจำนวนหนึ่งไปอบรมที่ญี่ปุ่น และได้กลายมาเป็นกำลังหลักในปัจจุบัน ครั้งนี้เช่นกันน่าจะเป็นเปิดโอกาสให้ฮอนด้า ได้พัฒนาคุณภาพ และประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ของฮอนด้า
“ส่วนการแก้ปัญหายอดขายในต่างประเทศตกลง แน่นอนเราคงจะมองหาตลาดใหม่ๆ มาแทนออสเตรเลีย โดยตลาดที่น่าสนใจจะเป็นแถบยุโรปตะวัน อย่างประเทศตุรกีเป็นต้น แต่ทั้งหมดคงจะต้องให้บริษัทแม่พิจารณาว่าจะให้มีการส่งออกประเทศไหนบ้าง”
**ผู้สนใจเข้าชมงาน Motor Expo สามารถมารับบ้ตรได้ท่านละ 5 ใบที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ โทร.02-6294488 ตั้งแต่วันนี้จนกว่าบัตรจะหมด**