xs
xsm
sm
md
lg

ไพรด์ ดีไซน์ ไอเดียเริ่มด้วยดินสอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หนึ่งในนักธุรกิจหนุ่มหน้าใหม่ของวงการรถยนต์ “ไพรด์” วุฒิศักดิ์ อินทรภูวศักดิ์ ทายาทอันดับ 2 ของเจ้าสัว อนุศักดิ์ อินทรภูวศักดิ์ เจ้าของเอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์แบรนด์หรู ทั้ง "พอร์เช่" และ "จากัวร์" แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย

ชื่อของ “ไพรด์” อาจจะไม่คุ้นหูนัก แต่ถ้าบอกว่า เขาคนนี้คือ ชายหนุ่มผู้ครอบครองหัวใจของ น้อง “เมย์” พิชญ์นาฏ สาขากร นักแสดงสาวสุดเซ็กซี่ ซึ่งมักจะตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งบนหนังสือบันเทิงหลากหลายเล่มของเมืองไทยอยู่อย่างสม่ำเสมอ

วันนี้ “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” มีโอกาสสัมภาษณ์แบบเปิดอกเกี่ยวกับความในใจ (แต่ไม่ใช่เรื่องหัวใจ) ของหนุ่ม ไพรด์ ว่าแท้จริงแล้วเขาชื่นชอบสิ่งใดในชีวิต หลังจากใช้ชีวิตนักเรียนอยู่ในอเมริกานานถึง 10 ปี ซึ่งประโยคแรกของเขาคือ “ ผมชอบเที่ยวไปเรื่อยๆ กับเพื่อนฝูงครับพี่” คำตอบเชิงทีเล่นทีจริง หลังเจอคำถามถึงเรื่องการความชอบจากเรา

“ผมเรียนจบกราฟฟิค ดีไซน์มาครับ ส่วนตัวชอบเกี่ยวกับงานดีไซน์ มันเป็นศิลปะ ตอนที่เรียน มีเรื่องสนุกสนานเยอะแยะเลย เรียนแบบมีความสุขในการเรียน ไม่ค่อยเครียด การออกแบบต้องเริ่มต้นด้วยดินสอดีที่สุด มันไม่จำกัด ถ้าไปเริ่มในคอมจะมีบางอย่างจำกัดอยู่ ไอเดียดีๆ มักจะเริ่มด้วยดินสอ อย่างหากเราวาดด้วยดินสอ บางจุดมีขาดมีเกิน มันอาจจะสวยตรงที่ขาดหรือเกินนั้นก็ได้” ไพรด์กล่าวอย่างจริงจัง

ส่วนสาเหตุที่เลือกเรียนเพราะความชอบและรู้สึกว่า การใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์สามารถช่วยร่นระยะเวลาการทำงานลงได้มาก ประกอบกับความอยากลองด้วย
สำหรับผลงานที่ประทับใจ ไพรด์ บอกว่าชอบทุกงาน แต่จะมีอยู่ชิ้นหนึ่งที่เขาบอกว่า เป็นความทะลึ่งของตัวเอง ด้วยอาจารย์สั่งให้ไปคิดออกแบบกล่องใส่ชา ปกติส่วนใหญ่เขาก็จะทำเป็นสี่เหลี่ยม ตามสไตล์อังกฤษ แต่จะต่างกันที่วิธีเปิด-ปิด, ขนาดหรือการจัดวางซองชา แต่ของ ไพรด์ เป็น “ทรงกลม”

ฟังดูทีแรกเราก็ว่า แปลกดี แต่มันโดดเด่นตรงไหนหล่ะ คำตอบอยู่ที่ ตอนคิด ตอนวาดรูป ก็ไม่มีปัญหา แต่พอทำจริง แล้วมันจะพับกล่องให้เป็นรูปอย่างที่คิดเอาไว้ได้ยังไง มันยากมาก สุดท้ายเขาใช้เวลานานมากกว่าจะคิดได้และทำจนสำเร็จ

“เราต้องวาดรูปใส่ในกระดาษ ตัดออกมา และก็ต้องพับแบบนี้ๆ (ไพรด์ อธิบายพร้อมหยิบกระดาษมาทำเป็นตัวอย่าง) หลายเหลี่ยมและมุมมาก สุดท้ายผมต้องทำถึง 4 อัน แล้วเอามาประกบกันเป็นทรงกลม ลักษณะคล้ายๆ กับก้อนขนมเค้กเวลาตัดแบ่งเป็น 4 ส่วน” ไพรด์เอ่ย

บางงานอาจารย์สั่งให้พระเอกของเราทำแผนดีไซน์ เหมือนกับเป็นเจ้าของบริษัทหนึ่งแห่ง ซึ่งเขาเลือกโมเดลที่เป็นบริษัทให้บริการเกี่ยวกับรถยนต์อย่างครบวงจร(เหมือนกับธุรกิจของคุณพ่อเลยนะ) โดยเขาจะต้องออกแบบทุกอย่าง ตั้งแต่นามบัตร โลโก้บริษัท ป้ายชื่อ ป้ายโฆษณา ออฟฟิศ

“รถที่จะไปรับลูกค้าเป็นอย่างไร ของใช้ในออฟฟิศ กระติกน้ำ แก้วชา เราต้องออกแบบให้ทุกอย่างต้องสัมพันธ์กันหมด และดูเป็นครอบครัวเดียวกัน”

หรือบางชิ้นงาน อาจารย์ให้เขาออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่โดยใช้แบรนด์ที่มีอยู่แล้ว ซึ่ง ไพรด์ เลือกทำ โลชั่น โดยประกบคู่กับแบรนด์ “ฮาเล่ย์ เดวิดสัน” แต่ไม่ใช่ว่าจะหยิบเอาสิ่งของอะไรหรือแบรนด์อะไรมาจับคู่กันก็ได้ มันต้องมีจุดเกี่ยวเนื่องกัน โดยเขาให้เหตุผลว่า

“ฮาเล่ย์ เดวิสัน ทำรถมอเตอร์ไซค์ขายใช่ไหมครับ คนซื้อเขาต้องขับ เวลาขับรถกลางแดด ผิวอาจจะเสียได้ ดังนั้นผมคิดว่า การทำโลชั่นบำรุงผิว ออกจำหน่ายภายใต้แบรนด์ ฮาเล่ย์ เดวิดสันจึงน่าสนใจ และไม่ใช่เราจะแค่เอาโลโก้เขามาแปะเท่านั้น ผมต้องปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ ให้มีความแตกต่างจากเดิม โดยผมใช้ตัวอักษร HD เป็นโลโก้แบรนด์ใหม่ แทนของเดิม”

แล้วเขาก็ต้องไปหาผู้บริโภคเพื่อสอบถามข้อมูลต่างๆ ทั้งวิธีการใช้ รูปแบบของสินค้าที่จะใช้ ทาผิวตัวก็อย่างหนึ่ง ทาหน้าก็ต้องอีกอย่างหนึ่ง รวมการจัดชุดและเซ็ตของผลิตภัณฑ์ ให้มีความลงตัว

แล้วมีที่คิดแล้วทำออกมาไม่สำเร็จบ้างไหม? คำตอบของไพรด์ คือ “ถ้าคิดออกมาแล้วมันต้องทำได้ มันเป็นความท้าทายที่จะทำงานให้สำเร็จ พอทำได้แล้วเราก็มีความสุข”

มีอยู่ช่วงหนึ่ง เขาได้เรียนวิชาถ่ายรูป เกิดความลังเล และเกือบตัดสินใจย้ายเมเจอร์ไปเพื่อเรียนถ่ายรูปเป็นหลัก แต่พอดีเมเจอร์ที่เรียนอยู่ใกล้จะจบแล้ว ถ้าต้องไปเริ่มใหม่ เขารู้สึกเสียดายเวลา เลยตัดสินใจไม่ย้ายดีกว่า ประกอบกับการเรียนเรื่องถ่ายรูปจะมีเรื่องของกล้องเข้ามาเกี่ยว

เนื่องจากเมื่อเรียนถึงระดับสูงๆ มีความจำเป็นต้องใช้กล้องแบบมือโปร ที่มีราคาแพงมาก ความจริงก็มีให้เช่า แต่เขาบอกว่า “เวลาอยากถ่ายปุ๊บ เราก็อยากหยิบกล้องมาถ่ายปั๊บ จะให้รอไปเช่าก่อนคงไม่เข้าท่า ฉะนั้นจึงต้องซื้อมาเป็นของตัวเอง ทว่ามันแพงมาก เมื่อพิจารณารวมๆ กันแล้ว เลยตัดใจเรียนแค่พอล้างรูปฟิล์มได้ ถ่ายรูปเป็นเท่านั้นก็พอ”

“หลายครั้งอาจารย์สั่งงานด่วน ผมต้องรีบทำ แต่ห้องแล็บสำหรับล้างฟิล์มไม่ว่างเลย ทำไงดี ผมแก้ปัญหา โดยเข้าห้องน้ำ ปิดไฟให้มืด เตรียมน้ำยา แล้วจัดการล้างฟิล์มในห้องน้ำนั้นเลย สุดยอดวีรกรรมหนึ่งของในชีวิตผม มันดีครับ” ไพรด์กล่าว

เรื่องรถส่วนตัว ไพรด์ จะใช้รถในเครือของที่บ้าน ซึ่งแล้วแต่อารมณ์ คันใช้บ่อยที่สุด “พอร์เช่ คาเยนน์” ถ้าอารมณ์อยากสปอร์ตจะใช้ “พอร์เช่ เทอร์โบ” หรือไม่ก็เป็น “อาร์เอส”

ส่วนรถคันแรกในชีวิตที่ใช้หัดขับ เป็นรถกระบะของคนรถ ในหมู่บ้าน โดยพี่ชาย (วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์) จะเป็นคนมาสอนให้ วิธีการก็แหวกแนว เช่นให้คารถไว้ที่คอสะพาน แล้วเข้าเกียร์ ปล่อยคลัทซ์ ออกตัวอย่าให้รถดับ ฝึกอยู่ 1 วันเต็มๆ จนกว่าจะเป็น และผลของการฝึกเช่นนี้ทำให้เขา สามารถสอบใบขับขี่ผ่านได้ในครั้งเดียวไม่ว่าจะเป็นการสอบในเมืองไทยหรืออเมริกา

ปัจจุบันไพรด์ ดูแลงานในส่วนของ ยูสด์คาร์(รถมือสอง) ทั้งของพอร์เช่ และจากัวร์ รวมถึงเป็นที่ปรึกษาฝ่ายการตลาดอีกหนึ่งตำแหน่ง และผลงานล่าสุด กับการเป็น แบรนด์ แอมบาสเดอร์ ของ จากัวร์ เอ็กซ์เอฟ ที่พึ่งเปิดตัวล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ สำหรับงานของที่บ้านมีการนำเรื่องดีไซน์มาช่วยอยู่บ้าง เช่นเวลาไปออกบู๊ทแสดงตามงานโชว์รถต่างๆ หรือในห้างสรรพสินค้า

ส่วนอนาคต ไพรด์ บอกว่า ขอทำงานนี้ที่คุณพ่อมอบหมายให้ดีที่สุดก่อน เนื่องจากธุรกิจของบริษัทยังมีอีกหลายส่วนที่ต้องเรียนรู้








กำลังโหลดความคิดเห็น