เชื่อว่าใครหลายคนคงประทับใจกับภาพยนตร์เรื่องเพื่อนสนิทด้วยเหตุผลร้อยแปด แต่หนึ่งในน่าจะมาจากสาวน้อยดากานดา ซึ่งรับบทโดย "นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา" ในวันนี้เธอกำลังจะมีผลงานล่าสุด "หนึ่งใจเดียวกัน" ภาพยนตร์แนวดราม่า สร้างสรรค์สังคม จากบทพระนิพนธ์เรื่องสั้นที่ฉันคิด ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
"ในชีวิตการแสดงของนุ่นการได้มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิดกับพระองค์นั้นถือว่าเกียรติและความภาคภูมิใจของนุ่นมากค่ะ ตอนแรกๆก็เกร็งเพราะเราเองก็ไม่เคยชินที่ต้องมาแสดงร่วมกับพระองค์แต่ก็ผ่านไปด้วยดี ซึ่งนุ่นรับบทเป็นครูต้องอยู่กับเด็กๆเยอะสนุกดีค่ะ บรรยากาศที่ไปถ่ายทำส่วนใหญ่อยู่บนดอยอากาศดีวิวสวยอยากให้ทุกๆคนไปชมเรื่องนี้กันค่ะ"
กลับมาถึงเรื่องของ "ผู้จัดการ มอเตอริ่ง" ที่เราถามถึงเรื่องการใช้รถของสาวนุ่นซึ่งเธอบอกว่าทุกวันนี้มิตซูบิชิ สแปซแวกอน เป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจเพราะเป็นรถคันใหญ่ใส่ของได้เยอะไปเที่ยวกันได้หลายคน และที่สำคัญคือความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น
"นุ่นเป็นคนที่ชอบไปไหนหลายๆคนค่ะ ไปกันทั้งครอบครัว อยากให้ทุกคนนั่งรถสบายๆแล้วคันนี้ก็ใหญ่แต่ไม่ขับยากอย่างที่คิดเพราะมีกล้องมองหลังด้วยทำให้เวลาจอดง่ายขึ้น แต่ช่วงนี้พยายามใช้น้อยลงค่ะเพราะน้ำมันแพง ถ้าไปไหนในเมืองนุ่นจะใช้บริการของรถไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ สะดวกรวดเร็วดีค่ะ ไม่จำเป็นว่าเราเป็นดาราแล้วต้องไปไหนแบบเอารถไปด้วยตลอด นุ่นเป็นแค่คนธรรมดาก่อนหน้าที่จะมีรถก็ขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้าตามปกติค่ะ แต่ที่ตัดสินใจซื้อเพราะบางครั้งเราต้องไปกันทั้งบ้านหรือไปถ่ายละครไกลๆ"
นอกจากนี้สาวนุ่นก็ยังเห็นด้วยเต็มที่กับฎหมาย "ขับไม่โทร" และอยากให้ผู้ใช้รถทุกคนช่วยกันปฏิบัติตาม บางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่จริงๆแล้วมีผลกระทบหลายต่อเนื่องจากผู้ขับรถไม่ได้ใช้ถนนคนเดียวถ้าโทรศัพท์ไปด้วยจะเสียสมาธิและความสามารถในการควบคุมรถก็น้อยลง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนั่นเอง อีกเรื่องหนึ่งที่สาวนุ่นอยากบอกกับผู้ใช้รถทุกคนในขณะที่ปัญหาการจราจรในเมืองกำลังมีปัญหาอย่างมากคืออการแบ่งปันน้ำใจให้แก่กัน
"กรุงเทพฯมีปัญหารถติดอยู่แล้วนุ่นอยากให้มีน้ำใจกันมากขึ้นโดยเฉพาะกับผู้หญิง เพราะบางครั้งผู้หญิงอาจจะขับรถได้ไม่ชำนาญเท่าผู้ชาย แต่ถ้าจะลดอุบัติเหตุก็ต้องเริ่มที่ตัวคุณก่อน นุ่นเชื่อว่าทำแบบนี้แล้วท้องถนนเมืองไทยจะสวยงามขึ้นอีกมากค่ะ"
"ในชีวิตการแสดงของนุ่นการได้มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิดกับพระองค์นั้นถือว่าเกียรติและความภาคภูมิใจของนุ่นมากค่ะ ตอนแรกๆก็เกร็งเพราะเราเองก็ไม่เคยชินที่ต้องมาแสดงร่วมกับพระองค์แต่ก็ผ่านไปด้วยดี ซึ่งนุ่นรับบทเป็นครูต้องอยู่กับเด็กๆเยอะสนุกดีค่ะ บรรยากาศที่ไปถ่ายทำส่วนใหญ่อยู่บนดอยอากาศดีวิวสวยอยากให้ทุกๆคนไปชมเรื่องนี้กันค่ะ"
กลับมาถึงเรื่องของ "ผู้จัดการ มอเตอริ่ง" ที่เราถามถึงเรื่องการใช้รถของสาวนุ่นซึ่งเธอบอกว่าทุกวันนี้มิตซูบิชิ สแปซแวกอน เป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจเพราะเป็นรถคันใหญ่ใส่ของได้เยอะไปเที่ยวกันได้หลายคน และที่สำคัญคือความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น
"นุ่นเป็นคนที่ชอบไปไหนหลายๆคนค่ะ ไปกันทั้งครอบครัว อยากให้ทุกคนนั่งรถสบายๆแล้วคันนี้ก็ใหญ่แต่ไม่ขับยากอย่างที่คิดเพราะมีกล้องมองหลังด้วยทำให้เวลาจอดง่ายขึ้น แต่ช่วงนี้พยายามใช้น้อยลงค่ะเพราะน้ำมันแพง ถ้าไปไหนในเมืองนุ่นจะใช้บริการของรถไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ สะดวกรวดเร็วดีค่ะ ไม่จำเป็นว่าเราเป็นดาราแล้วต้องไปไหนแบบเอารถไปด้วยตลอด นุ่นเป็นแค่คนธรรมดาก่อนหน้าที่จะมีรถก็ขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้าตามปกติค่ะ แต่ที่ตัดสินใจซื้อเพราะบางครั้งเราต้องไปกันทั้งบ้านหรือไปถ่ายละครไกลๆ"
นอกจากนี้สาวนุ่นก็ยังเห็นด้วยเต็มที่กับฎหมาย "ขับไม่โทร" และอยากให้ผู้ใช้รถทุกคนช่วยกันปฏิบัติตาม บางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่จริงๆแล้วมีผลกระทบหลายต่อเนื่องจากผู้ขับรถไม่ได้ใช้ถนนคนเดียวถ้าโทรศัพท์ไปด้วยจะเสียสมาธิและความสามารถในการควบคุมรถก็น้อยลง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุนั่นเอง อีกเรื่องหนึ่งที่สาวนุ่นอยากบอกกับผู้ใช้รถทุกคนในขณะที่ปัญหาการจราจรในเมืองกำลังมีปัญหาอย่างมากคืออการแบ่งปันน้ำใจให้แก่กัน
"กรุงเทพฯมีปัญหารถติดอยู่แล้วนุ่นอยากให้มีน้ำใจกันมากขึ้นโดยเฉพาะกับผู้หญิง เพราะบางครั้งผู้หญิงอาจจะขับรถได้ไม่ชำนาญเท่าผู้ชาย แต่ถ้าจะลดอุบัติเหตุก็ต้องเริ่มที่ตัวคุณก่อน นุ่นเชื่อว่าทำแบบนี้แล้วท้องถนนเมืองไทยจะสวยงามขึ้นอีกมากค่ะ"
