รถสปอร์ตกับการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ถ้าเป็นเมื่อก่อนดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะจับคู่ร่วมกันได้ แต่สำหรับปัจจุบัน ในยุคที่น้ำมันมีราคาแพง บวกกับกระแสการอนุรักษ์ธรรมชาติ และการพัฒนาของเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ที่มีความก้าวหน้าและมีราคาถูกลง ทำให้ทั้ง 2 สิ่งสามารถสอดประสานกันได้อย่างลงตัว ซึ่งเทสล่า โรดสเตอร์ คือ ตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้
โปรเจ็กต์การพัฒนารถสปอร์ตที่ใช้ระบบไฟฟ้าในการขับเคลื่อนของเทสล่า ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นในปีนี้ แต่เป็นโครงการที่พัฒนาต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2006 หลังจากที่เทสลานำออกแสดงครั้งแรกในซานตาโมนิกา มลรัฐแคลิฟอร์เนีย พร้อมกับทางเทสล่าประกาศว่าจะผลิตขายตั้งแต่ปลายปี 2007 แต่สุดท้ายก็โดนโรคเลื่อนเล่นงานจนเพิ่งจะมาเริ่มผลิตและส่งมอบให้กับลูกค้าได้ในช่วงเกือบค่อนมากลางปีนี้ พร้อมการเปิดโชว์รูมแห่งแรกของตัวเองในนครลอสแองเจลีสเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
นอกจากขายในสหรัฐอเมริกาแล้ว ทางเทสล่ายังนำออกเปิดตัวและจัดแสดงในยุโรปอีกด้วย โดยเปิดตัวครั้งแรกที่งาน Top Marques Monaco ในโมนาโค และดูเหมือนว่าจะได้รับความสนใจอย่างมากจากบรรดาคนดังในยุโรป โดยเฉพาะโบโน นักร้องนำของวงยูทู
ตัวรถเป็นแบบสปอร์ตเปิดประทุนที่ได้รับการพัฒนาอยู่ร่วมกันระหว่างวิศวกรของเทสล่ากับโลตัสในการปรับปรุงตัวรถโดยปรับปรุงจากพื้นฐานของรถสปอร์ตรุ่นอีลิสของโลตัส โดยมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและชิ้นส่วนตัวถังมาผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์เพื่อจุดเด่นในเรื่องของการลดน้ำหนัก และทางเทสล่าเองเปิดเผยว่าใช้ชิ้นส่วนร่วมกับอีลิสไม่ถึง 10% แม้ว่าการประกอบตัวรถจะมีขึ้นที่โรงงานที่เมืองฮีเทลของโลตัสในประเทศอังกฤษ ขณะที่ชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวรถถูกส่งมาจากซัพพลายเออร์หลายแห่งทั่วโลกทั้งในนอรเวย์ ไต้หวัน รวมถึงเมืองไทยซึ่งรับหน้าที่ผลิต Energy Storage System ให้กับตัวรถ
การขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ 3 Phase รีดกำลังออกมาได้สูงสุด 248 แรงม้า (แต่บางข่าวบอกว่าสเปกที่ขายในนอรเวย์ ซึ่งเป็นตลาดสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอีกแห่งของโลก เทสล่าสามารปรับสเปกให้มีกำลังสูงสุดแตะ 300 แรงม้าเลยทีเดียว) โดยมีรอบสูงสุดที่ 13,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. ที่ 0-6,000 รอบต่อนาที
สมรรถนะถือว่าไม่ธรรมดา ซึ่งในรุ่นต้นแบบ เทสล่าเคลมเอาไว้ว่าใช้เวลาเพียง 3.9 วินาทีในการทะยานจาก 0-97 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่เมื่อถึงเวลาขายจริงตัวเลขเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่มาก ขยับขึ้นมาเป็น 5.7 วินาที และความเร็วปลายทะลุ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยตัวรถใช้เลย์เอาท์การวางขุมพลังแบบกลางลำและขับเคลื่อนล้อหลังเหมือนกับอีลิส
แบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไออนสามารถแล่นทำระยะทางได้ 356 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้งจากการทดสอบภายใต้เงื่อนไขของ EPA ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา และใช้เวลาการชาร์จจนเต็มลูกเพียง 3 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ส่วนอายุการใช้งานนานกว่า 160,000 กิโลเมตร
หลังจากที่โดนเลื่อนมาจากกำหนดการดั้งเดิมซึ่งจะเริ่มผลิตในเดือนตุลาคม 2007 มาเป็นเกือบๆ กลางปีนี้ มีข่าวเผยว่าเทสล่าผลิตโรดสเตอร์ออกมาแล้ว 4 คันเพื่อเป็นการทดสอบไลน์ผลิต ก่อนที่จะเริ่มผลิตจริง โดยในปีนี้เทสล่าวางคิวผลิตรวม 650 คัน และในปี 2009 อีก 1,500 คัน
ส่วนราคาขายในแต่ละปีก็ไม่เท่ากัน ถ้าเป็นรุ่นปี 2008 จะมีราคา 98,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 3.03 ล้านบาท และจะขยับขึ้นมาเป็น 109,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 3.38 ล้านบาทในปี 2009 โดยในยุโรปเริ่มขายในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2008 พร้อมกับจำนวนการผลิตเพียง 250 คันจะมีราคาอยู่ที่ 100,000 ยูโร หรือ 5 ล้านบาท และมีขายเฉพาะรุ่นพวงมาลัยซ้ายเท่านั้น....ใครที่คิดอยากจะซื้อมาขับต้องทำใจหน่อย