xs
xsm
sm
md
lg

6 สาวเซ็กซี่เชียร์ “ขับไม่โทร.”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เนื่องจากวันที่ 8 พฤษภาคมคมที่ผ่านมาถือว่าเป็นวันแรกของการเริ่มใช้พระราชบัญญัติจราจร ฉบับที่ 8 พ.ศ.2551 เพื่อกำหนดห้ามผู้ขับขี่รถยนต์ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในขณะขับรถ เว้นแต่ในกรณีมีความจำเป็นต้องใช้จะต้องมีอุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา โดยผู้ขับขี่จะต้องไม่ถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งนี้ ได้กำหนดโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนคือ ปรับ 400-1,000 บาท ซึ่งปรากฏว่าในวันแรกนั้นมีผู้กระทำผิดกว่า 115 ราย แต่ประชาชนทั่วไปที่เป็นผู้ขับขี่ยานยนต์ส่วนมากอาจะยังไม่ทราบ หรือไม่เข้าใจในสาระสำคัญที่ถูกต้อง บางคนคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่เสียปรับ แล้วสำหรับเหล่าดาราที่ต้องมีเหตุให้ต้องใช้โทรศัพท์กันอยู่ตลอดเวลานั้น พวกเขาจะคิดอย่างไรกันบ้าง “ผู้จัดการ มอเตอริ่ง” จะพาไปฟังกัน

แอน ทองประสม

“ปกติแล้วแอนจะขับรถด้วยตัวเองเสมอเพราะมั่นใจกว่าให้คนอื่นมาขับให้ แล้วแอนจะเป็นคนที่ขับรถช้า ขับด้วยความระมัดระวัง ถ้ามีใครโทร.มาตอนที่เรากำลังขับรถอยู่ก็จะไม่รับ ส่วนมากจะให้ผู้จัดการส่วนตัวรับค่ะ หรือไม่พอหาที่จอดรถได้ค่อยโทร.กลับไป เพราะบางทีเราขับไปคุยไปมันทำให้เราลืมว่าข้างหน้ามีรถข้างหลังก็มีรถตามมา จะเลี้ยวก็ไม่เปิดไฟ ขับช้าแต่อยู่เลนขวาสุดอะไรแบบนี้ แอนอยากให้ทุกคนทำให้ชินค่ะ คือมีอะไรก็คุยให้เสร็จก่อนขับรถจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียค่าปรับ เสียเวลา แล้วเสียสุขภาพจิตด้วยค่ะ”

ชมพู่ อารายา เอ ฮาร์เก็ต

“ชมพู่คิดว่ากฎหมายนี้ออกมาในช่วงจังหวะที่ดี เพราะทุกวันนี้คนไทยขับรถกันไม่ค่อยมีวินัย ทั้งๆ ที่รถก็ติดอยู่แล้วยังมาคุยโทรศัพท์กันอีก บางทีชมก็เข้าใจว่าอาจจะเป็นเรื่องที่สำคัญกับเขา แต่ก็ต้องเกรงใจคนใช้รถคนอื่นด้วย ส่วนตัวของชมเองตอนนี้พอดีว่าเพิ่งมีคนขับรถก็เลยใช้โทรศัพท์ตามปกติค่ะ นอกจากเวลาที่ขับรถเองก็จะไม่โทร.คอยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเราต้องมีสมาธิ เหมือนกันตอนที่แข่งรถถ้าเราทำหลายๆ สิ่งไปพร้อมกันก็ไม่มีอะไรดีเลย ฉะนั้นชมอยากให้ทุกๆ คนให้ความสำคัญกับกฎหมายนี้ด้วยค่ะ”

เมจิ-พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์

“เรื่องรถติดและการขับรถของคนไทยนั้นเมจิว่าเป็นเรื่องที่แก้ยากมากเหมือนเป็นปัญหาธรรมดาโลกไปแล้วซึ่งตรงนี้ผมก็เข้าใจว่าเมืองที่มีธุรกิจใหญ่เป็นจุดศูนย์กลางอย่างกรุงเทพฯก็ต้องมีปัญหารถติดเป็นธรรมดา คือไม่อยากให้ทุกคนคิดว่าเป็นการทำผิดกฎจราจรอย่างการคุยโทรศัพท์เป็นเรื่องเล็กน้อยๆ เพราะถ้าคิดแบบนี้ก็จะให้แก้ปัญหาไม่ได้สักทีค่ะ”

กระแต ศุภักษร ไชยมงคล

“เรื่องขับรถกระแตคิดว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน คำว่าขับรถได้กับขับรถเป็นมันต่างกันเพราะการขับรถเป็นคือคุณต้องมีสติและมีการตัดสินใจที่แม่นยำรู้กฎจราจรและรู้ความสามาถรของตัวเอง ไม่ใช่คิดอยากจะโทร.ก็โทร. แบบนี้ถนนเมืองไทยแย่แน่ๆ เพราะมันทำให้เราเสียสมาธิในการขับมากต้องบังคับพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียว กฎหมายที่ออกมากระแตเห็นด้วยมาก ที่สำคัญอีกอย่างคือเรื่องของความใจร้อนที่เมื่อก่อนกระแตเป็นบ่อยเพราะเรารีบกลัวไม่ทัน มันทำให้ขาดสติ ลนลานจนเกือบจะเกิดอุบัติเหตุอยู่หลายครั้ง ตอนนี้เลยคิดได้ว่ามันไม่คุ้มกันเลยพยายามใจเย็นลงแล้วค่ะ”

ใหม่-สุคนธวา เกิดนิมิตร

“เรื่องขับแล้วโทร.เนี่ยใหม่เคยเจอกับตัวเองเลยค่ะ เกือบจะขับรถชนคันอื่นๆ เป็นเพราะว่าเรามัวแต่คุยโทรศัพท์ นอกจากนี้ยังทำให้หาทางไม่เจออีกต่างหาก เพราะสมาธิเราไม่ได้อยู่ที่การขับรถ ตั้งแต่นั้นเข็ดเลยอีกอย่างเทคโนโลยีสมัยนี้มันช่วยได้เยอะทั้งสมอลทอล์ก หรือบลูทูธมันก็คุยได้เหมือนกัน แต่ทางที่ดีคือไม่ควรคุยเลยค่ะ จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุ"

วีเจจ๋า- ณัฐฐาวีรนุช ทองมี

“สำหรับกฎหมายนี้จ๋าคิดว่าคนไทยบางคนอาจจะไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ในความเป็นจริงการคุยโทรศัพท์ขณะที่ขับรถไปด้วยเป็นสิ่งที่ไม่ดีมากโดยเฉพาะผู้หญิงเพราะจะทำให้เสียการควบคุมรถไปเยอะ มัวพะวงไปกับการคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้จนลืมไปว่านี่ขับรถอยู่นะ จ๋าเคยเจอบ่อยๆ ค่ะ บางครั้งตัวเองก็เคยเป็น แต่หลังๆ มานี่พยายามปรับตัวใช้บลูทูธแทน อยากให้ทุกๆ คนช่วยกันลดการใช้โทรศัพท์ด้วยค่ะ”
กำลังโหลดความคิดเห็น