ข่าวในประเทศ - ฮอนด้า เปิดตัวเก๋งซับคอมแพต์ “แจ็ซ ใหม่” เครื่องยนต์ i-VTEC ทุกรุ่นรองรับแก๊สโซฮอล์ E20 ส่งราคาถูกกว่าเดิม 1.1 – 4.5 หมื่นบาท ใน 3 รุ่นย่อย เริ่มต้น 5.5 - 6.95 แสนบาท คาดทั้งปีขายได้ 20,000 คัน ดันยอดรวมโต30%
เคนจิ โอตะกะ ประธาน บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯเปิดตัว “แจ็ซ ใหม่” ที่มาพร้อมความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ให้การขับขี่สนุกเร้าใจกับเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร 120 แรงม้า เป็นมาตรฐานทุกรุ่น ทั้งยังรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าน้ำมัน พร้อมราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้
“แจ็ซ ใหม่ ได้รับอานิสงค์จากการลดภาษีสรรพษามิต 5% สำหรับรถยนต์ใช้แก๊สโซฮอล์ E20 ทำให้ราคาในรุ่นล่างสุด( เอส เกียร์ธรรมดา)ถูกกว่าเดิม 1.1 หมื่นบาท(เทียบกับรุ่นเครื่องยนต์ V-TEC เดิม) ส่วนรุ่นท็อป(เอสวี เกียร์อัตโนมัติ)ลดลงประมาณ 4.5 หมื่นบาท โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 5.5 - 6.95 แสนบาท ทั้งนี้จะมีกำหนดเปิดตัวต่อสาธารณชนในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 29 ณ ไบเทค ระหว่าง 28 มีนาคมถึง 6 เมษายน นี้ โดยลูกค้าสามารถสั่งจองได้ในงานและที่โชว์รูมของผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ ซึ่งรถพร้อมส่งมอบตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป”
สำหรับ ฮอนด้า แจ็ซ ใหม่ ถือเจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งบริษัทวางเป้ายอดขายปีนี้ไว้ 20,000 คัน และคาดว่าการเปิดตัว “แจ็ซ ใหม่” จะส่งให้ยอดขายรวมทุกรุ่นในปี 2551โตมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับปี 2550 ที่ทำได้ 58,525 คัน ส่วนการส่งออกตั้งเป้าไว้ 12,000 คัน โดยตลาดสำคัญอยู่ที่ ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย
นายโอตะกะ กล่าวว่า ฮอนด้า แจ๊ซ เป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วโลกในกว่า 115 ประเทศรวมทั้งประเทศไทย โดยมียอดขายทั่วโลกแล้วกว่า 2.2 ล้านคัน สำหรับประเทศไทย แจ๊ซ ได้รับการแนะนำสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2546 มีลูกค้าสนใจสั่งจองถึงกว่า 10,000 คัน ภายใน 2 เดือน จากนั้นรถแฮทช์แบ็ค 5 ประตูของฮอนด้ารุ่นนี้ ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก ปัจจุบันมีผู้ใช้รถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ ในประเทศไทยกว่า 80,000 คนแล้ว
“ในปี 2550 ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งมีมากกว่า 170,000 คัน และ51% เป็นของเก๋งซับคอมแพคท์ ซึ่งฮอนด้า แจ๊ซ ถือเป็นรถแฮทช์แบ็คในกลุ่มนี้ที่ขายดีสุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้บริษัทยังคาดการณ์ตลาดรถยนต์รวมของไทยปีนี้จะดีขึ้นโดยยอดขายจะอยู่ประมาณ 7 แสนคัน เติบโตจากปี 2550 ที่ทำได้ 6.3 แสนคัน”นายโอตะกะ กล่าว
ขณะเดียวกัน ฮอนด้าได้เปิดเผยยอดขายรถยนต์ซับคอมแพกต์ในปี 2550 ว่ามีจำนวน 86,050 คัน โดยโตโยต้า วีออส ครองส่วนแบ่งตลาด 52.3% ฮอนด้า ซิตี้ ซีร์เอ็กซ์ 15.4% ฮอนด้า แจ๊ซ 11.4% โตโยต้า ยาริส 11.5% และอแวนซ่า 3.9%
เคนจิ โอตะกะ ประธาน บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯเปิดตัว “แจ็ซ ใหม่” ที่มาพร้อมความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ให้การขับขี่สนุกเร้าใจกับเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร 120 แรงม้า เป็นมาตรฐานทุกรุ่น ทั้งยังรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าน้ำมัน พร้อมราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้
“แจ็ซ ใหม่ ได้รับอานิสงค์จากการลดภาษีสรรพษามิต 5% สำหรับรถยนต์ใช้แก๊สโซฮอล์ E20 ทำให้ราคาในรุ่นล่างสุด( เอส เกียร์ธรรมดา)ถูกกว่าเดิม 1.1 หมื่นบาท(เทียบกับรุ่นเครื่องยนต์ V-TEC เดิม) ส่วนรุ่นท็อป(เอสวี เกียร์อัตโนมัติ)ลดลงประมาณ 4.5 หมื่นบาท โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 5.5 - 6.95 แสนบาท ทั้งนี้จะมีกำหนดเปิดตัวต่อสาธารณชนในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 29 ณ ไบเทค ระหว่าง 28 มีนาคมถึง 6 เมษายน นี้ โดยลูกค้าสามารถสั่งจองได้ในงานและที่โชว์รูมของผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศ ซึ่งรถพร้อมส่งมอบตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป”
สำหรับ ฮอนด้า แจ็ซ ใหม่ ถือเจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งบริษัทวางเป้ายอดขายปีนี้ไว้ 20,000 คัน และคาดว่าการเปิดตัว “แจ็ซ ใหม่” จะส่งให้ยอดขายรวมทุกรุ่นในปี 2551โตมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับปี 2550 ที่ทำได้ 58,525 คัน ส่วนการส่งออกตั้งเป้าไว้ 12,000 คัน โดยตลาดสำคัญอยู่ที่ ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย
นายโอตะกะ กล่าวว่า ฮอนด้า แจ๊ซ เป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วโลกในกว่า 115 ประเทศรวมทั้งประเทศไทย โดยมียอดขายทั่วโลกแล้วกว่า 2.2 ล้านคัน สำหรับประเทศไทย แจ๊ซ ได้รับการแนะนำสู่ตลาดครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2546 มีลูกค้าสนใจสั่งจองถึงกว่า 10,000 คัน ภายใน 2 เดือน จากนั้นรถแฮทช์แบ็ค 5 ประตูของฮอนด้ารุ่นนี้ ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก ปัจจุบันมีผู้ใช้รถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ ในประเทศไทยกว่า 80,000 คนแล้ว
“ในปี 2550 ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งมีมากกว่า 170,000 คัน และ51% เป็นของเก๋งซับคอมแพคท์ ซึ่งฮอนด้า แจ๊ซ ถือเป็นรถแฮทช์แบ็คในกลุ่มนี้ที่ขายดีสุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้บริษัทยังคาดการณ์ตลาดรถยนต์รวมของไทยปีนี้จะดีขึ้นโดยยอดขายจะอยู่ประมาณ 7 แสนคัน เติบโตจากปี 2550 ที่ทำได้ 6.3 แสนคัน”นายโอตะกะ กล่าว
ขณะเดียวกัน ฮอนด้าได้เปิดเผยยอดขายรถยนต์ซับคอมแพกต์ในปี 2550 ว่ามีจำนวน 86,050 คัน โดยโตโยต้า วีออส ครองส่วนแบ่งตลาด 52.3% ฮอนด้า ซิตี้ ซีร์เอ็กซ์ 15.4% ฮอนด้า แจ๊ซ 11.4% โตโยต้า ยาริส 11.5% และอแวนซ่า 3.9%