xs
xsm
sm
md
lg

'ยนตรกิจ'ยุคใหม่หนุนเกียดึงนาซ่าบุกไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวในประเทศ - “ยนตรกิจกรุ๊ป” ยุคใหม่เดินหน้ารุกหนัก หลังได้ข้อสรุปเบื้องต้น แบ่งสมบัติกงสีระหว่างพี่น้อง “ลีนุตพงษ์” โดยกลุ่มที่ยังผลักดันเครือยนตรกิจกรุ๊ป ให้ยืนหยัดอยู่ในอุตฯ รถยนต์ไทยต่อไป จากการนำของ “สรวิศย์ ลีนุตพงษ์” ประกาศสยายปีกสร้างความแข็งแกร่งใหม่ จากเดิมมีรถยนต์ในมือ 7 เหลือ แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 5 แบรนด์ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจับมือค่ายรถทำมือ “มิตซูโอกะ” ของญี่ปุ่น ขายและชูไทยเป็นฐานการผลิตในอาเซียน ล่าสุดยังรุกคืบดึงแบรนด์ใหม่ “นาซ่า” จากมาเลเซีย เข้ามาอยู่ในเครืออีกยี่ห้อ เปิดตัวในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2008 นี้ ประเดิมด้วยรุ่น “นาซ่า ฟอร์ซ่า” ซิตี้คาร์ขนาด 1.1 ลิตร ที่ได้รับโนว์ฮาวน์มาจากจีน “ฮาเฟย-โลโบ” เคาะราคาประมาณ 4 แสนบาท ด้วยการมอบให้ “ยนตรกิจเกียมอเตอร์” บริษัทในเครือบริหาร ขณะที่รถยนต์ “เกีย” กลับมาลุยอีกครั้ง เปิดตัวจัมโบปิกอัพใหม่ “K2900” ราคา 6.32 แสนบาท พร้อมกับปรับราคารุ่น “พิแคนโต” ลงจากเดิมอีก 1 แสนบาท!!

หลังจากที่พี่น้องในตระกูล “ลีนุตพงษ์” ใกล้ลงตัวในการปรับโครงสร้างและแบ่งธุรกิจในกงสี “ยนตรกิจกรุ๊ป” ซึ่งเป็นบริษัทผู้จำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ โฟล์คสวาเกน, ออดี้, เปอโยต์, ซีตรอง, สโกด้า, เซียท และเกีย รวมถึงมีโรงงานประกอบรถยนต์ในเครือ ตามที่ “ผู้จัดการรายวัน” ได้รายงานไปแล้ว โดยรถยนต์โฟล์คสวาเกน “วิทิต ลีนุพงษ์” ได้แยกนำออกไปดูแลเอง เช่นเดียวกับเปอโยต์ที่ “พลกฤษณ์-พสุพงษ์ ลีนุตพงษ์” นำไปบริหารแยกจากกลุ่มยนตรกิจเช่นกัน ส่วนรถยนต์ยี่ห้อที่เหลือยังร่วมกันบริหาร ภายใต้บริษัทในเครือยนตรกิจกรุ๊ปต่อไป โดยมีสรวิศย์ ลีนุต์พงษ์, ถาวร ลีนุตพงษ์ และวิเชียร ลีนุตพงษ์ นำทีมบริหาร

ภายใต้โครงสร้างการบริหารยนตรกิจกรุ๊ปยุคใหม่ ค่อนข้างชัดเจนที่จะเดินหน้าในไลน์ธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท มิตซูโอกะ มอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ได้เซ็นสัญญาแต่งตั้งให้บริษัทในเครือยนตรกิจกรุ๊ป เป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ “มิตซูโอกะ” ในไทย และยังมีการลงนามข้อตกลงเพื่อร่วมทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์มิตซูโอกะต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้มิตซูโอกเป็นรถแฮนด์เมดของญี่ปุ่น ที่ได้ดีไซน์รถในสไตล์ย้อนยุค อันมีต้นแบบมาจากรถยนต์คลาสสิคของอังกฤษ ผลิตรถประเภทซูเปอร์คาและไมโครคาร์ โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1968 และรถที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในไทยเบื้องต้นมี 2 รุ่น ได้แก่ มิตซูโอกะ กาลู เป็นรถยนต์ซีดานที่ออกแบบให้มีความหรูหรา และรถที่นำเข้าจำหน่ายเป็นรุ่นธรรมดา เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ราคา 3.89 ล้านบาท และเครื่องยนต์ 3.5 ลิตร ราคา 5.87 ล้านบาท และภายในปีนี้จะนำเข้ากาลูรุ่นฐานล้อยาวเข้ามาจำหน่ายด้วย ขณะที่อีกรุ่นเป็น มิตซูโอกะ โอโรชิ รถสปอร์ตที่ดีไซน์พิเศษ ด้านหน้าคล้ายงูโบราณในตำนานของญี่ปุ่น ราคา 11.9 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่ายนตรกิจกรุ๊ปยุคใหม่จะหยุดอยู่เพียงแค่นี้ เพราะล่าสุดมีรายงานว่า เตรียมดึงรถยนต์แบรนด์ใหม่ “นาซ่า” เข้ามาอยู่ในเครือบริษัทยนตรกิจ โดยจะให้บริษัท ยนตรกิจเกีย มอเตอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์เกียในไทย เป็นผู้ดูแลการทำตลาดรถยนต์ยี่ห้อใหม่นี้

สำหรับนาซ่าเป็นแบรนด์รถยนต์จากประเทศมาเลเซีย ภายใต้การผลิตและจำหน่ายของกลุ่มนาซ่า บริษัทเทรดดิ้งรายใหญ่ของมาเลเซีย ซึ่งเป็นดิสทริบิวเตอร์จำหน่ายรถยนต์หลายยี่ห้อ อาทิ มาสด้า เกีย และฮาเฟย-โลโบ ผู้ผลิตรถยนต์ท็อปเทนของจีน แต่ในส่วนของเกียและฮาเฟย-โลโบ ทางนาซ่าได้นำมาขึ้นไลน์ผลิตและเปลี่ยนเป็นแบรนด์นาซ่าขายในมาเลเซีย

ส่วนการทำตลาดรถยนต์นาซ่าในไทย จะมีการเปิดตัวสู่ตลาดในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2008 ที่ไบเทค บางนา ปลายเดือนมีนาคมนี้ โดยรถรุ่นที่จะนำมาบุกตลาด ชื่อ “นาซ่า ฟอร์ซ่า” (NAZA FORZA) เครื่องยนต์ขนาด 1.1 ลิตร 65 แรงม้า ที่ 5,700 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นรถยนต์ที่นำโนว์ฮาวมาจาก “ฮาเฟย-โลโบ” ดังนั้นจึงเป็นรถยนต์ราคาประหยัดประมาณ 4 แสนบาท

ขณะที่รถยนต์ “เกีย” บริษัทยนตรกิจเกียมอเตอร์ ได้กลับมารุกตลาดไทยอีกครั้ง หลังจากชะลอการทำตลาดไปกว่าหนึ่งปี เนื่องจากไม่มีผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาด หรือมีก็ไม่สามารถทำราคาน่าสนใจได้ แต่ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2008 ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 6 เมษายน 2551 ที่จะถึงนี้ ยนตรกิจเกียมอเตอร์เตรียมเปิดตัวรถใหม่ และปรับราคารถรุ่นเดิม เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น

“เกียมีความพร้อมที่จะรุกตลาดรถยนต์ในไทยอีกครั้ง เพราะมีสินค้าหลายรุ่นที่แนะนำสู่ตลาด รวมถึงข้อเสนอพิเศษอีกมากมาย โดยตั้งเป้าการขายภายในงานร่วมพันคัน แบ่งเป็น เกีย พิแคนโต ที่ได้มีการปรับราคาใหม่ลดลง 1 แสนบาท ประมาณ 500 คัน จัมโบ้ปิกอัพรุ่น K2900 ที่มาแทน K2700 ตั้งเป้า 300 คัน และที่เหลือเป็นรุ่นอื่นๆ อีกประมาณ 100 คัน และคาดว่าถึงสิ้นปีจะทำได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 คัน จากปีที่ผ่านทำได้กว่า 700 คัน”

สาธิต เตชะลาภอำนวย กรรมการผู้จัดการคนใหม่ บริษัท ยนตรกิจเกียมอเตอร์ จำกัด กล่าวและว่า จากการเจรจากับบริษัท เกีย มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศเกาหลี จึงได้รับการสนับสนุนในเรื่องราคา และจำหน่ายรถยนต์เกียในไทย โดยเฉพาะเกีย พิแคนโต ซิตี้คาร์ที่เปิดตัวขายในไทยมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะมีราคาสูงไป

เหตุนี้บริษัทแม่จึงสนับสนุนให้นำเข้าจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์จากอัตราภาษี ตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน หรืออาฟต้า (AFTA) แทนจากเดิมนำเข้าจากประเทศเกาหลี ส่งผลให้ราคาจำหน่ายรถยนต์รุ่นดังกล่าว ปรับลดลงถึง 1 แสนบาท หรือเหลือเพียง 449,000 บาท สำหรับรุ่นเริ่มต้น

นอกจากนี้บริษัทแม่ยังให้การสนับสนุน รุกตลาดรถปิกอัพในไทย ด้วยการเปิดตัวปิกอัพ K2900 โมเดลใหม่ ที่จะมาทำตลาดแทนรุ่น K2700 โดยติดตั้งเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด J3 ดีเซล CRDi คอมมอลเรล เทอร์โบ อินเตอร์คลูเลอร์ ขนาด 2.9 ลิตร 4 สูบ DOHC กำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 3800 รอบต่อนาที และผ่านมาตรฐานยูโร 4 ราคาจำหน่ายช่วงแนะนำเพียง 632,000 บาท จากราคาปกติ 648,000 บาท

สาธิตกล่าวต่อว่า รถยนต์ใหม่อีกรุ่นที่จะแนะนำสู่ตลาดในงานมอเตอร์โชว์ เกีย แกรนด์ คานิวัล ซีอีโอ รถเอนกประสงค์ระดับหรู 11 ที่นั่ง ที่ได้รับการตกแต่งเพิ่มเติม ด้วยชุดอุปกรณ์เสริม อาทิ เบาะหนังแท้ลาย CEO ที่เพิ่มความสง่างามและเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังติดตั้งโทรทัศน์ 2 Din หน้าจอ Touch screen ขนาด 7 นิ้ว ยี่ห้อ Coron รุ่น CA-2695 เล่น DVD, VCD, CD และ MP3 ทั้งยังรองรับ Bluetooth CD CARD และ USB พร้อมเสาอากาศ TV และติดตั้งกล้องถอยจอดแบบอินฟาเรด โดยมีราคาพิเศษเพียง 1,764,000 บาท

พร้อมกันนี้ยังมีรถยนต์อเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง เกีย คาร์นิวัล รุ่นประหยัด กับฟรีชุดแต่ง LS ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 2.4 ลิตร 24 วาล์ว DOHC เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมระบบโอเวอร์ไดร์ฟ ที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ มีราคาจำหน่ายเพียง 1,109,000 บาท

นับเป็นการรุกตลาดรถยนต์ครั้งใหญ่ ของเครือ “ยนตรกิจกรุ๊ป” ยุคใหม่ ที่ไม่เพียงจะสนับสนุนแบรนด์เดิมที่ถือยู่ในมือ อย่างรถยนต์ “เกีย” ยังสยายปีกสร้างความแข็งแกร่ง ดึงแบรนด์ใหม่หวังปั้นยอดขาย และเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคไทยอย่างต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น