ข่าวในประเทศ - เอ็น. เค. ยิ้มร่าสวนเศรษฐกิจตก ยอดขายรถมือสองเข้าเป้า 600 คัน เหตุกำลังซื้อยังมีเหลือ, แคมเปญหนุน และชื่อเสียงดี คาดปีนี้เหนื่อยหนัก ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำ-คู่แข่งเกิดใหม่เพียบ รอลุ้นรัฐบาลชัดเจนกระตุ้นเศรษฐกิจเดินหน้าต่อ พร้อมเตรียมสร้างมาตรฐานล่าสุดให้วงการค้ารถมือสอง
นายพิตินันทน์ กฤษดาธานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.เค. คาร์ พลาซ่า จำกัด ผู้ประกอบการค้ารถมือสองรายใหญ่ เปิดเผยว่า ในปี 2550 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดจำหน่ายรถมือสองทั้งสิ้น 600 คันหรือเดือนละประมาณ 50 คัน เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อช่วงต้นปี
“ปัจจัยที่ทำให้เรารักษายอดขายให้เป็นไปตามเป้าท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เกิดจากลูกค้ามีความเชื่อมั่นในชื่อเสียงที่ดีของเอ็นเค. ซึ่งสะสมมานานกว่า 30 ปี โดยลูกค้าระดับบนยังมีกำลังซื้ออยู่ ประกอบกับเรามีสินค้าให้เลือกมากที่สุดในตลาดรถเบนซ์มือสองคือกว่า 50-60 คัน รวมถึงการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องถึง 5-6 ครั้ง ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา”
สำหรับตลาดรถมือสองของปีนี้ นายพิตินันทน์ คาดการณ์ว่า โดยภาพรวมจะเหนื่อยมากขึ้น เนื่องจาก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังอยู่ระดับต่ำ ขณะเดียวกันมีรถยุโรปเปิดตัวน้อยลง ทำให้การซื้อรถใหม่ลดลง ส่งผลให้รถยนต์กลับมาเป็นมือสองน้อยลงและการหมุนเวียนของรถยนต์ในตลาดมือสองจะลดลงตามไปด้วย
ด้านการแข่งขันระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการณ์รถมือสองน่าจะรุนแรงขึ้น เนื่องจากมีรายใหม่ๆ เพิ่มเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องแม้ทิศทางตลาดรถยนต์และเศรษฐกิจชะลอตัว แต่อาจจะก่อให้เกิดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่เปลี่ยนความสนใจจากการออกรถป้ายแดงหันมาเลือกซื้อรถมือสองใช้แทน ซึ่งคาดน่าจะเป็นผลดีต่อบริษัทฯ
“ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ความต้องการใช้รถของผู้บริโภคยังมีอยู่ โดยการตัดสินใจซื้อรถขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของตัวผู้บริโภคเองเป็นหลัก หากการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อย มีการอัดฉีดเม็ดเงินลงสู่ระบบ เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป ความเชื่อมั่นกลับมา แนวโน้มตลาดรถยนต์ทั้งรถใหม่และรถมือสองจะดีขึ้นอย่างชัดเจน” นายพิตินันทน์กล่าว
สำหรับกลยุทธ์หลักของบริษัทฯ ปีนี้ นอกจากการคัดรถคุณภาพแล้ว จะใช้แคมเปญด้านการเงินเข้าช่วย พร้อมการเตรียมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองโดยจะเปิดเผยรายละเอียดในเร็วๆ นี้
นายพิตินันทน์ กฤษดาธานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.เค. คาร์ พลาซ่า จำกัด ผู้ประกอบการค้ารถมือสองรายใหญ่ เปิดเผยว่า ในปี 2550 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดจำหน่ายรถมือสองทั้งสิ้น 600 คันหรือเดือนละประมาณ 50 คัน เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อช่วงต้นปี
“ปัจจัยที่ทำให้เรารักษายอดขายให้เป็นไปตามเป้าท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เกิดจากลูกค้ามีความเชื่อมั่นในชื่อเสียงที่ดีของเอ็นเค. ซึ่งสะสมมานานกว่า 30 ปี โดยลูกค้าระดับบนยังมีกำลังซื้ออยู่ ประกอบกับเรามีสินค้าให้เลือกมากที่สุดในตลาดรถเบนซ์มือสองคือกว่า 50-60 คัน รวมถึงการจัดแคมเปญส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่องถึง 5-6 ครั้ง ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา”
สำหรับตลาดรถมือสองของปีนี้ นายพิตินันทน์ คาดการณ์ว่า โดยภาพรวมจะเหนื่อยมากขึ้น เนื่องจาก ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังอยู่ระดับต่ำ ขณะเดียวกันมีรถยุโรปเปิดตัวน้อยลง ทำให้การซื้อรถใหม่ลดลง ส่งผลให้รถยนต์กลับมาเป็นมือสองน้อยลงและการหมุนเวียนของรถยนต์ในตลาดมือสองจะลดลงตามไปด้วย
ด้านการแข่งขันระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการณ์รถมือสองน่าจะรุนแรงขึ้น เนื่องจากมีรายใหม่ๆ เพิ่มเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องแม้ทิศทางตลาดรถยนต์และเศรษฐกิจชะลอตัว แต่อาจจะก่อให้เกิดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่เปลี่ยนความสนใจจากการออกรถป้ายแดงหันมาเลือกซื้อรถมือสองใช้แทน ซึ่งคาดน่าจะเป็นผลดีต่อบริษัทฯ
“ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ความต้องการใช้รถของผู้บริโภคยังมีอยู่ โดยการตัดสินใจซื้อรถขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของตัวผู้บริโภคเองเป็นหลัก หากการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อย มีการอัดฉีดเม็ดเงินลงสู่ระบบ เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไป ความเชื่อมั่นกลับมา แนวโน้มตลาดรถยนต์ทั้งรถใหม่และรถมือสองจะดีขึ้นอย่างชัดเจน” นายพิตินันทน์กล่าว
สำหรับกลยุทธ์หลักของบริษัทฯ ปีนี้ นอกจากการคัดรถคุณภาพแล้ว จะใช้แคมเปญด้านการเงินเข้าช่วย พร้อมการเตรียมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองโดยจะเปิดเผยรายละเอียดในเร็วๆ นี้
