xs
xsm
sm
md
lg

ตามรอยรถ(หายาก)ที่หัวหิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"หัวหิน" ถือว่าเป็นเมืองตากอากาศที่ได้รับความนิยมมาหลายยุคหลายสมัย ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากรุงเทพนักรวมถึงภูมิประเทศที่สวยงาม ทำให้มีมนต์เสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก โซฟิเทล เซ็นทาราแกรนด์รีสอร์ทและวิลลา หัวหินในนามหัวหินโฮเท็ลลิเออร์ คลับ ร่วมกับสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เทศบาลเมืองหัวหินและศูนย์การค้าหัวหินมาร์เก็ตวิลเลจ จัดงาน “Hua Hin Vintage Car Parade & Art Fastival 2007” ปีนี้ถือเป็นปีที่ 5 ของการจัดงานโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแถมยังเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์รถโบราณอันมีค่าควบคู่ไปด้วย


สำหรับปีนี้ถือว่าพิเศษกว่าปีที่ผ่านมาเพราะเป็นการรวบรวมรถโบราณมากที่สุดเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา รวมถึงเปิดให้โอกาสกับประชาชนในท้องถิ่นนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศมาร่วมสนุกกับการรับประทานอาหารบุฟเฟ่ต์ที่มีความยาวถึง 80 เมตร นอกจากนั้นภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมมากมาย อาทิ การแห่ขบวนรถโบราณและรถคลาสสิคในตัวเมืองหัวหิน และยังมีงานกาลาดินเนอร์เพื่อการกุศลด้วย

ขบวนเริ่มต้นที่โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพฯโดยรถที่สภาพใช้งานได้เจ้าของรถก็ขับมาเองและบางคันก็จะขนใส่คอนเทนเนอร์มุ่งสู่อำเภอหัวหินเลย สำหรับจุดแรกที่ขบวนรถแวะก็คือบริเวณวัดในกลางซึ่งเป็นวัดเก่าแก่อายุร้อยกว่าปี จากนั้นจึงเคลื่อนขบวนรถบางส่วนมาที่ศูนย์การค้าหัวหินมาร์เก็ตวิลเลจ ส่วนวันต่อมาจะเป็นพาเหรดอย่างเป็นทางการเริ่มต้นตั้งขบวนที่โรงแรมโซฟิเทลและเคลื่อนไปรอบๆเมือง โดยได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวตลอดทาง นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดนิทรรศการรถโบราณ-รถคลาสสิก กิจกรรมนั่งรถรอบเมืองสำหรับคนทั่วไป

รถทั้งหมดที่มาโชว์ในงานนี้กว่า 80 คัน มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท (เฉพาะค่าประกันรถ) แบ่งเป็นรถโบราณและรถคลาสสิก ซึ่งรถโบราณนั้นแยกได้เป็น 3 ประเภทคือ ช่วงแรกผลิตตั้งแต่ปี 1940 ขึ้นไป ช่วงที่สอง เป็นการผลิตก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1940 – 1955 และช่วงที่สามคือการผลิตสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่างปี 1955 เป็นต้นไป ส่วนรถคลาสสิกนั้นจะมีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป

สำหรับไฮไลต์ของงานก็คงหนีไม่พ้น Darracq ปี 1904 ที่เพิ่งมาร่วมงานปีนี้แต่ได้รับความสนใจมากที่สุดด้วยรูปทรงที่แปลกตาหรือรถ Desoto ปี 1957 ที่มีเพียงคันเดียวในประเทศไทย รวมถึงรถจำลองที่งานนี้มีมาโชว์ถึง 5 คัน คือ Mercedes-Benz ปี 1912 และ Volkswagen ปี 1906 Mercedes-Benz ปี 1936 Morgan ปี 1958 Mercedes-Benz

ดำรง วัธนเวคิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมกไกวส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ก็เป็นอีกหนึ่งนักสะสมรถโบราณด้วยหน้าที่การงานที่ทำให้ไม่มีเวลามาดูแลและซ่อมแซมด้วยตัวเองจึงทำให้เขาตัดสินใจซื้อหารถที่บูรณะแล้วมาขับเองอยู่หลายคัน

“จริงๆแล้วผมยังเป็นมือใหม่ในวงการนี้ ที่สนใจเพราะได้มาคลุกคลีดูแลรถยนต์มานานแล้วเริ่มสนใจรถพวกนี้เลยปรึกษากับคนในสมาคมในการหาเจ้าของรถที่สนใจจะขายในสภาพที่ขับได้เลย จึงตัดสินใจซื้อเฟอร์รารี่ ปี 1984 ราคาอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านบาท สำหรับผมแล้วถือว่าคุ้มค่าเพราะเป็นรถสปอร์ตแท้ๆ การซื้อมาสะสมนั้นถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เข้าใจถึงรายละเอียดของตัวรถมากนักแต่ถือว่าเป็นการช่วยอนุรักษ์รถในอีกทางดีกว่าไปขายให้กับคนต่างประเทศ”

ถ้าใครที่ไม่เข้าใจถึงความเป็นมาของรถเหล่านี้ก็คงไม่รู้ว่ามันมีค่าแค่ไหน รถบางคันที่เห็นสวยงามเอาออกมาโชว์นั้นก่อนหน้านี้มีสภาพไม่ต่างจาก "ซากเหล็ก" แต่ก็ได้บุคคลเหล่านี้เองที่ช่วยชุบชีวิตมันขึ้นมาอีกครั้งอย่าง วิชาญ รัฐปานะ เจ้าของอู่ “วิชาญ วินเทจ การาจ” จากความชอบในวัยเด็กบวกกับการปลูกฝังตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ พร้อมกับการถ่ายทอดประสบการณ์ทำให้วิชาญกลายเป็นช่างประจำของเหล่าสมาชิกในสมาคมฯมากกว่า 10 ปี

"รถมีหลากหลายสไตล์เหมือนเสื้อผ้า ฉะนั้นเราควรจะหาความฝันของเราให้เจอว่าเราชอบรถแบบไหน ความอยากได้ของเรามากน้อยแค่ไหนเพราะรถพวกนี้ถ้าคิดจะทำเล่นๆคงไม่ได้ ต่อไปคือหาอู่ที่น่าเชื่อถือ มีความรับผิดชอบในบ้านเรามีประมาณ 3-4 อู่ แล้วเราต้องตั้งงบให้ดีไม่เช่นนั้นงบจะบานปลายไหลออกไป สิ่งที่ผมยึดถือมาตลอดในการซ่อมรถคือ ทำจริง-เห็นจริงจะใช้แค่จินตนาการไม่ได้ ที่อยากจะบอกกับเจ้าของรถก็คือคุณต้องมีความมั่นใจในตัวช่างและมีงบแน่นอน"


เหตุผลที่รถโบราณเหล่านี้ยังคงได้รับความนิยมจากนักสะสม นั่นเป็นเพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด ความเป็นอมตะที่อยู่ในรูปทรงที่ผ่านการดีไซน์อย่างละเอียดอ่อนไม่ได้ทำให้คุณค่าลดน้อยลงแต่อย่างใด แต่กลับทวีค่าเพิ่มขึ้นตามยุคสมัย นี่ล่ะเสน่ห์ที่แท้จริงของ “รถโบราณ”

***นายกฯเปิดใจ***

ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานของสมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย กล่าวว่าอยากให้เด็กรุ่นหลังหันมาสนใจรถโบราณมากกว่านี้ เพราะจะได้ช่วยกันอนุรักษ์รถโบราณกัน ที่สำคัญยังมีรถสวย ๆ งาม ๆ อีกหลายคันที่ถูกทิ้งไว้ รวมถึงอยากให้ทางรัฐบาลหันมาส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านนี้ด้วย

“นักสะสมมือใหม่ควรเริ่มที่รถราคาไม่แพงมากและสามารถซ่อมได้อย่างโฟล์ค สวาเกน และอยากให้คนที่มีรถเก่าอย่าเก็บไว้อย่างเดียวเพราะจะเสียของ ทางที่ดีควรนำออกมาวิ่งบ้างและไม่อยากให้ขายให้คนต่างประเทศเพราะบางคันนั้นมีไม่กี่คันในโลกน่าจะเก็บไว้เป็นสมบัติของคนไทย”


สำหรับคนที่สนใจอยากชมรถเหล่านี้ก็สามารถไปชมกันอีกครั้งได้ในงาน “ประกวดรถโบราณ” ปลายเดือนพฤษภาคมนี้ที่สยามพารากอน

พิธีปล่อยรถจากกรุงเทพฯไปสู่หัวหิน
รถโบราณเคลื่อนขบวนไปรอบๆเมืองหัวหิน
รถโบราณเคลื่อนขบวนไปรอบๆเมืองหัวหิน
Darracq ปี 1904
BMW  503  ปี 1955











กำลังโหลดความคิดเห็น