ถ้ายังจำกันได้ในงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2007 เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยูเปิดตัวต้นแบบรุ่นใหม่ในชื่อ เอ็กซ์6 คอนเซ็ปต์ โดยมีทั้งรุ่นธรรมดาและขับเคลื่อนด้วยพลังแอคทีฟไฮบริด พร้อมกับยั่วน้ำลายบรรดาบิมเมอร์ทั่วโลกได้ในระดับหนึ่ง เพราะเอ็กซ์6 คือ ทางเลือกของความสปอร์ตที่ถูกผสานอยู่บนตัวถังเอสยูวีได้อย่างกลมกลืนและลงตัว
แน่นอนว่าบีเอ็มดับเบิลยูเคยแถลงไขออกมาแล้วว่าโปรเจ็กต์เอ็กซ์6 จะได้รับการผลิตขายจริงในอนาคตแน่ แต่ไม่คิดว่าจะมาเร็วขนาดนี้ เพราะในดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2008 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 19-27 มกราคมนี้ บีเอ็มดับเบิลยูจะเปิดตัวคันจริงสำหรับทำตลาดของเอ็กซ์6 ออกมาให้เห็นกัน และจะมีคิววางขายในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลัก และตลาดอื่นทั่วโลกในช่วงสิ้นปีเดียวกัน
เอ็กซ์6 ถือเป็นรถยนต์สายพันธุ์ใหม่และเป็นสายพันธุ์ล่าสุดที่มีการเปิดตัว ซึ่งจะว่าไปแล้วแนวคิดในการทำตลาดก็ไม่ต่างจากซีรีส์ 5 และซีรีส์ 6 คือ เป็นรถยนต์ที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกัน (กับเอ็กซ์5) แต่แตกต่างในเชิงตลาดและรูปลักษณ์ เพราะหันมาเน้นสไตล์การออกแบบใหม่ทั้งคันในสไตล์สุดสปอร์ตเพื่อเอาใจลูกค้าอีกกลุ่ม
บีเอ็มดับเบิลยูเปิดเผยว่าเอ็กซ์6 คือ รถยนต์ในกลุ่มเอสเอซี หรือ Sport Active Coupe ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบรับความต้องการอันหลากหลายของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ที่กำลังมองหารถยนต์ประเภทเอสยูวีที่มีความสปอร์ตทั้งในเรื่องสมรรถนะและรูปลักษณ์
แม้ว่าจะมีความคำว่าคูเป้ที่หมายถึงรถสปอร์ต 2 ประตูรวมอยู่ด้วย แต่ในเชิงการออกแบบแล้วเอ็กซ์6 ยังยึดมั่นกับตัวถังแบบ 5 ประตู เพียงแต่ว่าในช่วงประตูบานท้าย และเสากระจกบังลมหลังได้รับการออกแบบให้ลาดเทไปทางด้านหลังเพื่อความปราดเปรียวและเพรียวลม ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกับที่เมอร์เซเดส-เบนซ์นำมาใช้ในการออกแบบรุ่นซีแอลเอส
เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นต้นแบบแล้ว ถ้าไม่นับพวกรายละเอียดปลีกย่อย ทั้งลายล้อแม็ก หรือราย ละเอียดบนกันชนหน้า-หลัง รวมถึงห้องโดยสาร เรียกว่าแทบจะไม่มีความแตกต่างกันในเชิงรายละเอียดหลักๆ ซึ่งในรุ่นจำหน่ายจริงถอดแบบความสปอร์ตมาครบถ้วน และปรับปรุงบางจุดให้เหมาะสมกับการใช้งานจริง
แน่นอนว่าในเมื่อเน้นความสปอร์ต ทางเลือกของเครื่องยนต์จึงไม่ธรรมดา และรองรับกับความต้องการของลูกค้าเท้าหนักได้เป็นอย่างดี ซึ่งในช่วงแรกทำตลาดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2 แบบเท่านั้น คือ รุ่นเริ่มต้นกับ X6 3.5i บล็อก 6 สูบเรียง ทวินแคม 24 วาล์ว 3,000 ซีซี เทอร์โบคู่ พร้อมระบบไดเร็กต์อินเจ็กชัน ที่แจ้งเกิดมาจากเวอร์ชันคูเป้ของซีรีส์ 3 เครื่องยนต์รุ่นนี้มีกำลังสูงสุด 300 แรงม้า ที่ 5,800-6,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 41.4 กก.-ม. ที่ 1,400-5,000 รอบต่อนาที ใช้เวลา 6.7 วินาทีในการทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และความเร็วปลายอยู่ที่ 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ส่วนรุ่นท็อปเป็นบล็อกวี8 รุ่นใหม่ ในรหัส X6 5.0i กับเครื่องยนต์วี8 ทวินแคม 32 วาล์ว และเพิ่มมัดกล้ามด้วยการติดตั้งเทอร์โบคู่ในการอัดอากาศ มีกำลังเพิ่มขึ้น 407 แรงม้า ที่ 5,500-6,400 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 62.1 กก.-ม. ที่รอบต่ำตั้งแต่ 1,800 -4,500 รอบต่อนาที อัตราเร่งทันใจอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเอสยูวี เพราะใช้เวลาเพียง 5.3 วินาทีในการทะยานจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนความเร็วปลายถูกล็อกเอาไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
สำหรับตลาดยุโรป นอกจากเครื่องยนต์ 2 รุ่นนี้แล้ว ยังจะมีเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลทำตลาดด้วยแต่เป็นแบบ 6 สูบเรียง 3,000 ซีซีล้วนๆ เริ่มกับรุ่น X6 3.0d มีกำลังสูงสุด 235 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 52.9 กก.-ม. ที่ 2,000-2,700 รอบ/นาที ตามด้วย X6 3.5d มีกำลังสูงสุด 286 แรงม้า ที่ 4,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 59.2 กก.-ม. ที่ 2,000-2,750 รอบ/นาที โดยสมรรถนะของทั้ง 2 รุ่นอยู่ที่ 8.0 และ 6.9 วินาที ตามลำดับ ส่วนความเร็วสูงสุด 210 และ 236 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Xdrive ควบคุมการทำงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้การกระจายกำลังสู่ล้อหน้าและหลังมีความแม่นยำและสอดคล้องกับสภาพการใช้งานจริง
ซึ่งในสภาพปกติจะมีการกระจายกำลังอยู่ที่ 40-60 % สำหรับด้านหน้าและหลัง พร้อมกับระบบแชสซีส์ที่ควบคุมการทำงานด้วยอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Integrated Chassis Management และระบบควบคุมการทรงตัว DPC-Dynamic Performance Control ควบคุมการทรงตัวในขณะเข้าโค้ง สามารถแยกกระจายแรงบิดจากเครื่องยนต์สู่ล้อซ้ายและขวาบนเพลาหลังอย่างอิสระจากกันด้วย เพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยที่ล้อแม็กจากโรงงาน ขนาดสะใจ 19-20 นิ้วแล้วแต่รุ่นย่อย
การทำตลาดจะเริ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกาเป็นแห่งแรกช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2008 และแน่นอนว่าฐานการผลิตหลักของเอ็กซ์6 จะอยู่ที่โรงงานในเมืองสปาตานเบิร์ก มลรัฐเซาธ์แคโรไลน่าของบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1994 เช่นเดียวกับเอ็กซ์5 และแซด4
