xs
xsm
sm
md
lg

เปอโยต์ : ตำนานของสิงห์ตัวจริง (ตอนจบ)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พอหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เปอโยต์ได้ฟื้นฟูกิจการการผลิตรถยนต์ขึ้นมาใหม่ โดยใช้วิธีการแบบมวลผลิต เป็นลักษณะการผลิตเป็น “ซีรี่ส์” หรือ ผลิตแบบเป็นชุด เริ่มด้วย ซี่รี่ส์ 01 คือ เปอโยต์ 201 เครื่องยนต์ 1,100 ซีซี ระบบล้อหน้าอิสระและมีความแข็งแกร่งทนทานมากในปี พ.ศ. 2475 และ 2477 เปอโยต์ 301 และ 401 ก็ตามออกมา

ถึงปี พ.ศ. 2478 ก็เริ่มผลิต ซีรี่ส์ 02 ออกสู่ตลาด เริ่มจากเปอโยต์ 202 และ 302 จนมาถึงรถขนาดใหญ่ 402 แอลเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่สามารถเปิดช่องบนหลังคาด้วยระบบไฟฟ้า

รถ “เจ้าหนู” เป็นรถขนาดเล็กใช้เครื่องสูบเดียว ที่สร้างชื่อเสียงให้กับเปอโยต์ในปีถัดมา การพัฒนาในด้านเครื่องยนต์คงดำเนินต่อไป มีการนำเครื่องยนต์ซึ่งเดิมติดไว้ด้านหลังมาไว้ด้านหน้าแทน และนำพวงมาลัยมาใช้เป็นครั้งแรก

ปีพ.ศ. 2453 เปอโยต์ได้ขยายกิจการและไปตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่ โซ โซ โดยมีโรแมร์ เปอโยต์ หลานของ อาร์มองต์ เปอโยต์ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงและในช่วงนี้เปอโยต์ผลิตรถยนต์สำหรับแข่งรถกรังปรีซ์ออกมาเป็นจำนวนมาก รถที่ทำชื่อเสียงในรุ่นนี้ คือ เปอโยต์ แอล ซีรี่ส์ จนปี 2456 จำนวนการผลิตเพิ่มขึ้นถึง 9,000 คัน

ต่อมาเมื่อย่างเข้าสู่ยุคใหม่ที่เน้นรูปลักษณ์ที่สวยงามมากขึ้น เปอโยต์ก็เริ่มผลิตชุดซีรี่ส์ 04 เปอโยต์ 404 ในพ.ศ. 2503 เครื่องยนต์ 1,600 ซีซี และนำเอาเครื่องยนต์ระบบอินเจคชั่นมาติดตั้งเป็นครั้งแรกด้วย

เปอโยต์ 404 สร้างความภูมิใจจากการชนะเลิศ การแข่งอาฟริกันซาฟารีติดต่อถึง 4 ปีถัดมาได้แก่เปอโยต์ 204 และ 504 ซึ่งผลิตในปี พ.ศ. 2511 ได้รับลงคะแนนให้เป็นยอดรถยนต์ประจำปี และรักษาสถิติยอดการผลิตไม่ต่ำกว่าปีละ 250,000 คัน

รถขนาดใหญ่ที่สุดของเปอโยต์ก็อยู่ในซีรี่ส์ 04 นี้ด้วยคือ เปอโยต์ 604 ซึ่งผลิตในปี 2518 และยังนับว่าเป็นรถที่เกิดจากความร่วมมือกันทางด้านเครื่องยนต์ของ 3 บริษัทใหญ่ คือ บริษัท เปอโยต์ และ เรอโนลต์ แห่งฝรั่งเศส ได้ร่วมกันสร้างเครื่อง วี 6 ขึ้นมาใช้ร่วมกัน และนำไปติดตั้งกับรถของตนเอง

ปี 2520 สถานการณ์โลกเริ่มส่อเค้าวิกฤต ทำให้บริษัทผู้ผลิตรถเริ่มหันมาใช้นโยบายประหยัด แม้กระทั่งเปอโยต์เองในก่อนหน้า 1 ปี ได้ทำรถแบบประหยัดขนาดเล็ก แบบมีประตูหลังหรือลิฟท์แบ็ค เพื่อรับมือสถานการณ์ดังกล่าว

กระนั้นก็ตามผู้ใช้รถยังคงสนใจต่อรถยนต์ขนาดใหญ่กว่าที่ได้ผลิตออกไป แต่ยังยึดอยู่ในแนวประหยัด เปอโยต์ 305 ชุดแรกของซีรี่ส์ 05 จึงปรากฏโฉมออกมาในปี 2520 รุ่นต่อมาคือ เปอโยต์ 505 ในปี 2522 และ เปอโยต์ 506 ในปัจจุบัน
ช่วงเวลาที่ผ่านมา นับแต่เปอโยต์ 203 จนถึง เปอโยต์ 506 เปอโยต์ผลิตรถออกสู่ตลาดทั้งสิ้นกว่า 10 ล้านคัน

เวลากว่า 30 ปี ที่ผ่านมาคือการพัฒนาการของเปอโยต์ ที่มีทั้งล้มและลุกมาตลอด จนในที่สุด สามารถประกาศศักดาไปทั่วโลก กว่า 150 ประเทศ และเปอโยต์นั้นเริ่มบุกตลาดเมืองไทยตั้งแต่ปี 2515 โดยการรองรับของบริษัทในเครือ ค่ายยนตรกิจ ชื่อ บริษัท นครหลวงยนตรการ จำกัด

นครหลวงยนตรการ รับช่วงกิจการของเปอโยต์ในประเทศไทยมาด้วยการประเดิมเปอโยต์รุ่น 504 เป็นรุ่นแรก รถรุ่นนี้ไม่ว่าจะเป็นที่เมืองไทยหรือ เมืองนอก ได้ชื่อว่าเป็นเปอโยต์ที่ยืนยงอยู่ในท้องตลาดยาวนานที่สุดเกือบจะที่สุดในโลก ถ้าไม่นับ โฟล์กสวาเกนเต่าทอง

หลังจาก 504 เข้ามาอยู่ในไทยตั้งแต่ยุคเป็นรถสำเร็จรูปในฝรั่งเศส จนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นรถที่ประกอบขึ้นได้เองในประเทศไทย นครหลวงยนตรการก็ได้นำรุ่นอื่นๆ ตามมามากมาย ตั้งแต่เปอโยต์ 604 ซึ่งเป็นรถสำเร็จรูปคันสุดท้ายที่เข้ามาสู่เมืองไทย เปอโยต์ 504 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ในซีรี่ส์ 05, เปอโยต์ 504 พิกอัพ, เปอโยต์ 305 , และอื่นๆ

ทั้งหมดนี้คือจุดเริ่มต้นของเปอโยต์ ทั้งในตลาดโลกและการเข้ามารุกตลาดเมืองไทย ซี่งในบรรดารถค่ายยุโรปแล้วเปอโยต์ นับเป็นค่ายที่มีส่วนแบ่งการตลาดไม่มากนัก แต่ในขณะเดียวกันก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าในเมืองไทยยังคงมีลูกค้าที่เหนียวแน่นและรักเปอโยต์อยู่อีกมาก........
กำลังโหลดความคิดเห็น