xs
xsm
sm
md
lg

เจาะใจ 3 หญิงแกร่งค่ายเกรย์ มาร์เก็ต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นาทีนี้ธุรกิจรถยนต์ในประเทศไทยนั้นดูเหมือนว่ายังไม่มีความแน่นอนเท่าไหร่ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจใช้จ่ายยากขึ้น นั่นเป็นสัญญาณอันที่หนึ่งแสดงให้เห็นว่านอกจาก บริษัทผู้ผลิตรถยนต์นอกจากจะต้องแข่งขันด้วยกันแล้ว ยังต้องแข่งขันกับบริษัทผู้นำเข้ารถยนต์อิสระหรือเกรย์ มาร์เก็ต(Gray Market) อีกด้วย แต่นั่นก็คือความท้าทายของเหล่าธุรกิจนำเข้าอิสระ พร้อมๆกับที่ค่ายรถยนต์ใหญ่ๆยังลุ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองหรือโปรเจ็คต์อีโคคาร์ อีกทั้งการปรับกลยุทธ์ ฝากรถยนต์นำเข้าอิสระต่างก็ออกมาสู้ศึกด้วยการเตรียมลิสต์รถยนต์รุ่นใหม่ที่จะนำออกมาขายในปีนี้ บางเจ้าประกาศนำเข้าตัดหน้าก่อนบริษัทผู้ผลิต บางรายก็ส่งรถรุ่นที่เจ้าของแบรนด์ไม่กล้านำเข้ามาจำหน่าย ขณะที่บางรายถือโอกาสปรับปรุงโชว์รูมศูนย์บริการใหม่

แต่อย่างไรก็ตามบรรดาผู้เข้าเข้าอิสระเหล่านี้ก็ยังมีเป้าหมายเดียวกันนั่นก็คือการสร้างแบรนด์ของตัวเองให้ขึ้นมาเป็นอีกตัวเลือกของผู้บริโภค ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลังการบริหารงานนี้ต้องทำการบ้านอย่างหนักยิ่งถ้าเป็น “ผู้หญิง” ถือว่าสนามนี้ต้องเตรียมตัวอย่างหนัก แต่ในขณะเดียวกันพวกเธอก็มีการวางแผนสร้างจุดเด่นให้แบนรด์ตัวเองอย่างน่าสนใจ เราจะมาเปิดใจ 3 สาวผู้บริหารคลื่นลูกใหม่ว่าพวกเธอไม่ได้มีดีแค่ความสวยเท่านั้น

สุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ที เอส แอล ออโต้ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด

นับย้อนไปกว่า 30 ปี ของความสำเร็จอันน่าทึ่งในปัจจุบัน เริ่มต้นจากอู่ซ่อมรถขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บริเวณริมคลองประปา ในขณะนั้นใช้ชื่อว่า บริษัท เอส เอส ออโต้ เซลล์ ซึ่งก่อตั้งโดย คุณ สุรสิทธิ์ อุดมผลวณิช ในปีพ.ศ. 2535 บริษัท เอส เอส ออโต้ เซลล์ จึงเปลี่ยนเป็น บริษัท เบนซ์แจ้งวัฒนะ จำกัด โดยดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่าย รถยนต์ Mercedes Benz อย่างเป็นทางการ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2547 ได้จัดตั้ง บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจ นำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ โดยสินค้าหลักที่ใช้ทำตลาดในช่วงแรกจะเป็นรถยนต์นำเข้าจาก ญี่ปุ่น และ ยุโรป

“สุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช” หรือ "เจย์" คลื่นลูกใหม่ของ ที เอส แอล กับความรับผิดชอบในตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ที เอส แอล ออโต้ คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด ด้วยวัยเพียง 25 ปี แต่กับต้องมารับตำแหน่งใหญ่ดูแลคนมากมาย ในธุรกิจรถยนต์ที่ต้องแข่งขันกับผู้ชาย คุณเจย์บอกว่าการมาทำงานตรงนี้จะช่วยในการสร้างประสบการณ์ก่อนที่จะเรียนต่อในอนาคต

“การมารับตำแหน่งนี้เจย์คิดว่าทั้งผู้หญิงหรือผู้ชายต่างก็ต้องเตรียมตัวมาอย่างดี แต่ด้วยความที่เจย์อายุยังน้อยทำให้เราต้องทำการบ้านมากมากกว่าคนอื่นหลายเท่า ดูจุดเด่นของคู่แข่งเอามาเสริมจุดอ่อนของเรา ถึงแม้จะดำเนินธุรกิจมาเป็นระยะเวลาเพียง 3 ปี แต่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีทั้งในแง่ของยอดขายและชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จัก โดยผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2550 นั้นบริษัทสามารถจำหน่ายรถได้ถึง 72 คันซึ่งมากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 70 คัน เนื่องจากการเลือกสรรรถยนต์ที่ตรงกับความต้องการของตลาด บวกกับการดำเนินแผนการตลาดอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มการเจริญเติบโตมากกว่าเท่าตัวในปีนี้

คุณเจย์บอกว่าถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในตอนนี้ยังไม่มีความแน่นอน แต่สำหรัธุรกิจของทีเอสแอลแล้วกลับไม่มีผลกระทบเท่าใดนัก เพราะลูกค้าเป็นแบบเฉพาะกลุ่ม ขณะเดียวกันยังมีแผนที่จะทำขยายธุรกิจให้ครบวงจรยิ่งขึ้นโดยการสร้างจุดเด่นให้โชว์รูมพิเศษขึ้น อาทิ การมีสปาสำหรับลูกค้า

“สำหรับภาพรวมของตลาดผู้นำเข้ารถยนต์อิสระในสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวนั้น ส่วนตัวแล้วยังเห็นว่าตลาดยังสามารถขยายตัวได้อีกมากและพัฒนาได้ไปในทิศทางทางที่ดีเนื่องจากผู้ประกอบการที่มีความพร้อมและศักยภาพในการให้บริการที่ดีแก่ลูกค้านั้นมีเพียงไม่กี่รายในตลาด บวกกับลูกค้าในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคงนั้นไม่ส่งผลกับการตัดสินใจของลูกค้าในกลุ่มนี้ ที่สำคัญเราได้เปิดตัวผู้ช่วยผู้อำนวยการสื่อสารคนใหม่คือคุณจุ๋ย วรัทยา นิลคูหาทำให้คนรู้จักเรามากขึ้นผ่านสื่อและตัวของคุณจุ๋ยเอง”

สำหรับจุดเด่นของทีเอสแอลที่ทำให้ลูกค้าต้องตัดสินใจมาซื้อนั้นคุณเจย์บอกว่าอยู่ที่การบริการหลังการขายที่เรามั่นใจว่าไม่แพ้ที่อื่นแน่นอนทั้งเรื่องของอะไหล่หรือช่างที่มีความชำนาญและการจำหน่ายรถยนต์ไฮบริดที่มีคุณภาพ เป็นการนำรถเข้ามาเองไม่ผ่านตัวแทนเช่นอัลพาร์ด ไฮบริด สั่งโดยตรงจากญี่ปุ่นหรือไฮบริดเหมือนกันแต่บริษัทมีชุดแต่ง

“ในปีนี้คิดว่าเราจะเน้นไปที่รถสปอร์ตมากขึ้น เพราะเทรนด์ลูกค้าเท่าที่เราสำรวจมากนั้นจะซื้อรถคันที่สองแบบเน้นความสวยงามมากว่าประโยชน์ใช้สอย ส่วนเป้ายอดขายปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 250 คันแบ่งเป็นรถยุโรป 80% และรถญี่ปุ่นอีก 20% นอกจากนี้เรายังมีการดำเนินธุรกิจภายใต้นโยบายหลักๆ 3 ประการก็คือ Excellent Service คุณภาพการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย Fresh Product การนำเข้ารถยนต์ที่สดและใหม่ที่สุด (Only and the First) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที พร้อมด้วยการสรรหาชุดแต่งอุปกรณ์เสริมต่างๆ Reasonable Priceการตั้งราคาสินค้าที่สมเหตุสมผล และเป็นราคาที่ผู้บริโภคยอมรับ”

นี่คือมุมมองและแนวคิดแบบคนรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองอีกคนหนึ่ง คุณเจย์บอกกับเราว่าในอนาคตเชื่อว่าด้วยความสามารถของเธอบวกกับแผนการตลาดที่วางไว้จะทำให้ทีเอสแอลเข้าไปอยู่ในใจลูกค้าแน่นอน

ชลลธร ศรีรัตนประภาส กรรมการบริหาร บริษัท รามคำแหง กรุ๊ป จำกัด

หลายๆเหตุผลที่บรรดาผู้นำเข้าอิสระสามารถปรับตัวได้เร็วกว่าบริษัทรถยนต์ เนื่องจากมีค่าการตลาดไม่มากนัก และด้วยการเป็นผู้นำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปอยู่แล้ว แต่การแข่งขันกับคนที่ทำธุรกิจเดียวกันนี้ถือว่าเป็นยากลำบากกว่าสู้กับค่ายรถใหญ่ๆเสียอีก แต่สำหรับค่ายรามคำแหง กรุ๊ป ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทนำเข้าและจำหน่ายรถเมอร์เซเดส-เบนซ์

ในวันนี้เบนซ์รามฯได้มีผู้บริหารที่น่าจับตามองคนใหม่ที่เป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นอย่าง “ชลลธร ศรีรัตนประภาส” กรรมการบริหาร บริษัท รามคำแหง กรุ๊ป จำกัด ที่ถือว่าเป็นงานที่ท้าทายของผู้หญิงพอสมควร แต่สำหรับชลลธรแล้วเธอกลับคิดอีกอย่าง

“การทำธุรกิจให้ได้ดีนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศค่ะ เพราะเราดูกันที่ความสามารถในการบริหารงานมากกว่า จริงอยู่ที่ผู้ชายอาจจะได้เปรียบในเรื่องของทักษะเรื่องรถยนต์มากกว่าผู้หญิง แต่ถ้าเราศึกษาให้ดีและพยายามทำความเข้าใจกับงานที่เราทำก็ถือว่าเป็นเรื่องไม่ยากนัก”

ในส่วนของบริษัทนั้นคุณชลลธรกล่าวว่ามีจุดเด่นที่การบริการที่รวดเร็วราคาก็ไม่แพงอย่างคู่แข่งรายอื่น ที่สำคัญเราจะเน้นไปที่การนำเข้ารถยุโรปเป็นหลักต่างจากเจ้าอื่นที่มีทั้งรถยุโรปและญี่ปุ่น ตรงนี้ทำให้มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในเรื่องของการทำสีและเครื่องยนต์ อย่างเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น วีโต การันตีได้เลยว่าบริษัทนำเข้ามาเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย นอกจากนี้จุดเด่นในเรื่องของโชว์รูมและศูนย์บริการที่มีเครื่องมือทันสมัย เช่น Star Dignosis ของเบนซ์ เครื่องมือตรวจเช็คอัลพาร์ด,แฮร์ริเออร์ และเครื่องมือตรวจเช็คเฉพาะของรถโฟล์ค คาราเวล ซึ่งจะช่วยตรวจสอบความผิดปกติของรถได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายชุดแต่ง Kenstyle จากญี่ปุ่น อย่างเป็นทางการ ซึ่งชุดแต่งนี้เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในประเทศญี่ปุ่นและยุโรป โดยได้รับการบรรจุเป็นชุดแต่งหนึ่งในแคตาล็อกอย่างเป็นทางการของโตโยต้าประเทศญี่ปุ่น นอกเหนือจาก TRD ที่รู้จักกันเป็นอย่างดีแล้ว

“การวางแผนของแต่ละบริษัทนั้นก็มีคล้ายๆกันนั่นก็คือเน้นไปที่การบริการลูกค้าให้ประทับใจ แจ่สำหรับเราจะมีความจริงใจกับลูกค้าเสมอ ลูกค้าจะต้องได้ของที่ดีที่สุดเราจะไม่หลอกลวงลูกค้า ทำให้ลูกค้าประทับใจแล้วบอกกันปากต่อปากทำให้บริษัทมีความน่าเชื่อถือ”

นอกจากนี้คุณชลลธรยังกล่าวว่าภาพรวมของตลาดรถนำเข้าในปีนี้อาจจะมีการชะลอตัวลงไปเนื่องจากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้เกิดบริษัทต้องเลื่อนการนำเข้ารถ มินิ และเมอร์เซเดส เบนซ์รุ่น อี 200 เอ็นจีที ซึ่งเป็นรถใช้เชื้อเพลิงแก๊สเอ็นจีวี จากเดิมที่คาดว่าจะส่งมอบให้กับลูกค้าได้ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา


สำหรับการตั้งเป้าจำหน่ายในปีนี้นั้นตั้งไว้ที่ประมาณ 300 คันมูลค่ากว่า 900 ล้านบาท แบ่งเป็นรถยุโรปประมาณ 55% และรถญี่ปุ่นประเภทเอ็มพีวี ประมาณ 40 % ซึ่งไตรมาสแรกนั้นก็มียอดเติบโตกว่า 30%เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยรถที่จำหน่ายได้สูงที่สุดคือรุ่น อี 200 คอมเพรสเซอร์ โฉมเฟคลิฟ ซึ่งขณะนี้มีเพียงบริษัทฯ เจ้าเดียวเท่านั้นที่มีรถรุ่นนี้จำหน่าย

“ด้านแผนการลงทุนอื่นๆเราคงต้องชะลอไว้ก่อนจากเดิมที่คิดว่าจะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขาช่วงปลายปีจากปัจจุบันที่มีอยู่ 3 สาขาเพราะปัญหาทางการเมืองและสภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน แต่เราจะเพิ่มงบการตลาดเป็น 18 ล้านบาทจากเดิม 14 ล้านบาท เน้นที่การบริการลูกค้าให้เป็นที่พึงพอใจสูงสุดค่ะ ”

บทบาทของผู้หญิงในวันนี้ไม่ได้มีแค่คอยเดินตามผู้ชายอีกต่อไปแล้ว เพราะชลลธร ศรีรัตนประภาส ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าหากผู้หญิงคิดจะเป็นผู้นำนั้นก็สามารถทำได้ด้วยสมองและความสามารถนั่นเอง

อัจฉรีย์ ตันติยันกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท อีตั้น อิมปอร์ท จำกัด

กว่า 12 ปี ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท อีตั้น อิมปอร์ท จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านรถยนต์นำเข้ายี่ห้อชั้นนำจากต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะ เริ่มก่อตั้งขึ้นโดย คุณชาญชัย ตันติยันกุล ประธานกลุ่มบริษัท โดยในปี พ.ศ. 2537 ได้มีการก่อตั้งโชว์รูมแห่งแรกขึ้นบนถนนรัชดาภิเษก ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 ทางบริษัทซึ่งเล็งเห็นถึงความต้องการในกรุงเทพและปริมณฑลที่เริ่มมีมากขึ้นจึงได้ทำการเปิด สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ขึ้นบนถนนศรีนครินทร์ ภายใต้ชื่อ บริษัท อีตั้น คาร์ จำกัด ส่งผลให้ในปัจจุบัน บริษัทมีโชว์รูมทั้งหมด 5 แห่ง ทั้งนี้แนวทางในการบริหารงานยังคงเน้นนโยบายการนำเข้ารถยนต์ที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพสูงจากต่างประเทศ และการบริการหลังการขายที่ครบถ้วน

อัจฉรีย์ ตันติยันกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท อีตั้น อิมปอร์ท จำกัด ถือว่าเป็นหญิงแกร่งที่คอยผลักดันให้บริษัทขึ้นมาเป็นที่รู้จักของลูกค้าในระยะเวลา 5 ปีที่เธอเข้ามาทำงาน รวมกับประสบการณ์ในแวดวงรถยนต์รวมแล้วกว่า 10 ปี ทำให้มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจการบริหารงานที่ผู้ชายหลายคนอาจจะทำไม่ได้

“คิดว่าการทำงานตรงนี้ต้องเจอปัญหาทุกคนไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิง อยู่ที่เราจะตั้งรับกับมันอย่างไร ซึ่งการทำงานนี้ตรงนี้จะแข่งกันที่สมองมากกว่าแรงงานอยู่แล้ว บทพิสูจน์ของเราก็อยู่ที่ผลงานคนอื่นอาจจะมองงานตรงนี้เหมาะกับผู้ชาย แต่ถ้าเรามีความพยายามและความรับผิดชอบก็ประสบความสำเร็จได้ไม่แพ้ผู้ชาย”

สำหรับบริษัท อีตั้น บริษัทในเครือยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานตามนโยบายการนำเข้ารถยนต์ที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพสูงจากต่างประเทศ พร้อมการให้บริการด้านการบำรุงรักษารถยนต์เป็นอย่างดี ซึ่งคุณอัจฉรีย์กล่าวว่า

“บริษัทมีการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีคุณภาพในการให้บริการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นการตอบสนองความพึงพอใจ และสร้างความประทับใจในมาตรฐานและบริการของบริษัท ซึ่งลูกค้าทุกท่านจะได้รับการเอาใจใส่ดูแล และ ได้รับบริการที่สะดวกสบาย เพราะบริการลูกค้าคือหัวใจของเรา”

ทั้งนี้ อีตั้นได้มีการลงทุนสร้างระบบเน็ทเวิร์คเชื่อมต่อข้อมูลต่าง ๆ และประวัติลูกค้า กับแต่ละสาขาเพื่อให้ลูกค้าสามารถเรียกดูข้อมูลออนไลน์จากศูนย์บริการไม่ว่าจะเป็น สาขาใด และในอนาคตอันใกล้จะได้มีการเชื่อมต่อข้อมูลไปยังสาขา ในต่างจังหวัดเพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าในส่วน ต่าง ๆ ให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว

นอกจากนี้ยังจะเน้นการทำกิจกรรมแบบถึงตัวกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย อาทิ การออกบู๊ทในห้างสรรพสินค้า สนามไดร์ฟกอล์ฟ หรือหมู่บ้าน เพื่อสร้างความสัมพันธ์และให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ลูกค้า โดยใช้งบประมาณทั้งหมด 10 ล้านบาท

“ในปีนี่เรามีนโยบายที่จำนำเข้ารถรุ่นใหม่ๆอีก หลายรุ่นด้วยกันแต่ยังคงเน้นไปทีรถเอ็มพีวีที่เป็นจุดเด่นของเราอย่างรุ่นอัลพาร์ด โดยในปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 550 คัน มูลค่า 1,300 ล้านบาท แบ่งเป็นรถยุโรป 90 %และรถญี่ปุ่น 10% ที่กล้าตั้งเป้าขนาดนี้เพราะเรามั่นใจว่าลูกค้าของเรานั้นมีกำลังซื้อและสถานการณ์บ้านเมืองมีผลกระทบต่อการตัดสินใจไม่มากเท่าใดนัก”

ถือว่าอัจฉรีย์ ตันติยันกุลคือผู้หญิงที่มีความมั่นใจและเป็นผู้นำในการบริหารด้วยความสามารถที่ใครหลายๆคนคาดไม่ถึงทีเดียว.............

กำลังโหลดความคิดเห็น