xs
xsm
sm
md
lg

Dodge Viper SRT10 ACR รถซิ่งรถบ้านในคันเดียว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นอกจากเวอร์ชันธรรมดาที่ว่ากันว่าแรงสะใจแล้ว ทางด้านดอดจ์ ผู้ผลิตรถยนต์ในเครือไครสเลอร์ ยังเพิ่มอีกทางเลือกสำหรับลูกค้าที่มีเท้าขวาหนักเป็นพิเศษด้วยเวอร์ชัน ACR ที่ได้รับการพัฒนาจากเทคโนโลยีสนามแข่งเพื่อการใช้งานจริงบนถนนอย่างถูกกฎหมาย สามารถตอบสนองอย่างเร้าใจด้วยพลังขับเคลื่อนแบบเหลือๆ โดยที่เจ้าของกระเป๋าไม่แฟบมาก

ไวเปอร์ เอซีอาร์ มีคิวเปิดตัวในแอลเอ มอเตอร์โชว์ ซึ่งจะมีขึ้นในช่วง 16-25 พฤศจิกายนนี้ โดยคำว่าเอซีอาร์ย่อมาจาก American Club Racer ซึ่งทางแผนกเอสอาร์ที (Street and Racing Technology)ของดอดจ์จัดการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อการใช้งานได้ทั้งบนถนนและสนามแข่ง

เรียกว่าเป็นทั้งรถแข่งและรถบ้านในคันเดียวกัน สามารถขับจากบ้านมาที่สนามแข่งได้เลยแบบไม่ต้องกลัวตำรวจจับ (ถ้าไม่ขับเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดน่ะ) และถือเป็นการกลับมาของเวอร์ชันนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีนับจากทำตลาดครั้งสุดท้ายในปี 1999

ตัวรถยึดพื้นฐานของรุ่นคูเป้ในการพัฒนาเสริมด้วยชุดสปอยเลอร์รอบคันที่ได้รับการออกแบบมาให้มีประโยชน์ทั้งความสวยและการสร้างแรงกดให้กับตัวถังเวลาแล่นด้วยความเร็วสูง และสปอยเลอร์หลังสามารถปรับมุมของแพนอากาศได้ด้วยโดยชุดสปอยเลอร์ทั้งด้านหน้าและหลังได้รับการผลิตจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบาอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ รวมถึงสปอตไลท์ที่ปกติจะติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นธรรมดาก็ถูกถอดออกด้วยเพื่อลดน้ำหนักให้กับตัวรถ ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี แต่มีแถบคาดกลางให้เลือกแค่ 2 สี คือ แดง หรือดำเท่านั้น

จุดเด่นของตัวรถอยู่ที่พลังจากเครื่องยนต์บล็อกใหม่วี10 OHV 8,400 ซีซี พร้อมระบบวาล์วแปรผัน สามารถรีดกำลังออกมาได้ 600 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 77.44 กก.-ม. ที่ 5,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ สามารถตอบสนองต่อการขับเคลื่อนได้อย่างเร้าใจทั้งตีนต้นและตีนปลาย

นอกจากนั้นอีกประเด็นที่ทำให้เวอร์ชันเอซีอาร์เหนือกว่ารุ่นธรรมดาคือ มีน้ำหนักเบากว่าถึง 40 ปอนด์ หรือ 18 กิโลกรัม ทั้งที่ต้องแบกชุดสปอยเลอร์ที่มีมากกว่า และจะยิ่งเบามากไปกว่านี้ถ้าติดตั้งออพชั่นอย่างชุด Hard Core Package ซึ่งทางดอดจ์ไม่ได้บอกว่ามีอะไรบ้าง แต่น้ำหนักจะลดลงอีก 40 ปอนด์ รวมเป็น 80 ปอนด์ หรือ 36 กิโลกรัม

ประเด็นหนึ่งที่สอดคล้องกับเรื่องของการลดน้ำหนักคือ การปรับปรุงระบบเบรกโดยหันมาใช้การจับคู่กันระหว่างดิสก์เบรกของ StopTech แบบ 2 ชิ้น กับคาลิเปอร์ของ Brembo ควบคู่กับล้อรุ่น SideWinder ที่ผลิตจากอะลูมิเนียมด้วยวิธี Forged พร้อมยางชนิดพิเศษที่มีน้ำหนักเบาของมิชลิน และทำให้ตัวรถมีระยะเบรกที่สั้น ไม่เกิน 100 ฟุต หรือ 30 เมตร เมื่อกระแทกแป้นเบรกจากความเร็ว 96 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจนถึงจุดหยุดนิ่ง

หลังเปิดตัวแล้ว ดอดจ์วางแผนส่งขายทันทีพร้อมกับรุ่นไมเนอร์เชนจ์ของไวเปอร์ทั้งตัวถังคูเป้ และเปิดประทุน โดยที่เวอร์ชันเอซีอาร์ยังไม่มีการระบุราคาออกมาที่แน่ชัด แต่ทางดอดจ์ระบุว่า ไม่แพงอย่างที่คิด เพราะค่าตัวต่ำกว่า 100,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 3.5 ล้านบาทอย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น