บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3 (BMW X3) รุ่นรหัสตัวถัง E83 เป็นรถแบบเอสยูวีไซส์เล็กของค่ายใบพัดฟ้าขาว เผยโฉมอย่างเป็นทางการในปี 2003 พัฒนาโดยใช้โครงสร้างพื้นฐานจากซีรี่ส์ 3 ซึ่งถ้าพินิจพิเคราะห์กันในเบื้องลึก เจ้า “เอ็กซ์ 3” น่าจะเป็นอีกหนึ่งผลพวงรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี หลังจาก “บีเอ็มดับเบิลยู” เข้าไปเทคโอเวอร์ “แลน โรเวอร์” เมื่อครั้งกระโน้น ก่อนที่จะขายไปให้ฟอร์ดในเวลาต่อมา โดยโมเดลนำร่องในสายพันธ์เอสยูวี เป็นรุ่นพี่ใหญ่อย่าง “เอ็กซ์5”
เอ็กซ์3 ตั้งใจเข้ามาทำตลาดในเซ็กเมนต์ ลักชัวร์รี่คอมแพคเอสยูวี ต่อกรโดยตรงกับ แลนด์ โรเวอร์ ฟรีแลนเดอร์ ซึ่งหลังจากขายพอสมควรแก่เวลา เมื่อต้นปี 2007 ที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ปรับโฉมเอ็กซ์3 ใหม่แล้ว มีหรือที่ “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” จะพลาด โดยเป็นการทดสอบ บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3 เอสไอ เอสอี ซึ่งเป็นรุ่นประกอบในประเทศราคา 3.8 ล้านบาท
ภายนอกไฉไล
บีเอ็มดับเบิลยู ปรับโฉม เอ็กซ์ 3 ด้วยการออกแบบด้านหน้าและหลังใหม่ กันชนสีเดียวกับตัวรถแฝงไว้ซึ่งความสปอร์ต ดูแล้วขอกล่าวตรงๆ ว่าแทบไม่เห็นความแตกต่างจากรุ่นเดิมสักเท่าใด อาจจะเป็นเหตุผลมากจากข้อจำกัดในด้านการออกแบบ กระจังหน้าคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของค่ายใบพัดฟ้าขาว แต่ในอีกมุมหนึ่งบางครั้งของดีอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใช่ไหม
ส่วนสิ่งที่ดูจะสร้างความต่างได้ชัดหน่อยก็ตรง ไฟท้ายทำจากกระจกใสครอบดวงไฟแบบ LED ในแนวนอน จากเสาประตูด้านท้ายลงมาถึงกันชน ซึ่งสว่างชัดทุกเวลาไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน
ภายในหรู อนุรักษ์นิยม
เปิดประตูเข้ามาแว่บแรกที่เห็น ภายในของเอ็กซ์3 ยังคงสไตล์ของบีเอ็มฯ เอาไว้ไม่เสื่อมคลาย ขณะที่บีเอ็มบอกว่า แผงอุปกรณ์ในส่วนของคอนโซลกลางได้รับการออกแบบใหม่ทั้งสีสันและวัสดุ หรูหราและทันสมัยขึ้น มือจับเปิดประตูทำจากโลหะกาวาไนซ์ สลับหนังแท้ รวมไปถึงพื้นผิวของอุปกรณ์ทำมาจากวัสดุสังเคราะห์คุณภาพดี ซึ่งทำให้เรารู้สึกว่าภายในเปลี่ยนไปจากตัวเก่าพอสมควร
แต่ในด้านการใช้งาน โดยความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน รู้สึกว่าใช้งานลำบากอันเป็นเรื่องปกติของบีเอ็มฯ เนื่องจากปุ่มต่างๆ มีขนาดเล็ก ทั้งจัดวางในตำแหน่งเน้นความสวยงามและลงตัวของรถ ไม่ได้คำนึงถึงสภาพการใช้งานจริงมากนัก (ต้องละสายตามาเพื่อดูปุ่มก่อนกด) แต่ยังดีที่พวงมาลัยเป็นมัลติฟังก์ชั่นช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้นหน่อย
เครื่องยนต์เต็มพลัง
ทีเด็ดของ เอ็กซ์ 3 อยู่ตรงติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินแบบใหม่ 6 สูบเรียง 2.5 ลิตร สามารถผลิตกำลังสูงสุดออกมาได้ถึง 218 แรงม้า พร้อมระบบวาล์วทรอนิคและไบ-วาโนส แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกับที่ประจำการอยู่ใน 525i และ325i โดยส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบอัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมระบบไดนามิคเกียร์ชิฟท์ และถ่ายทอดกำลังลงสู่พื้นถนนด้วยล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว ที่มาพร้อมยางมิชลิน 235/55 R17 รุ่น MXM4 ยางสำหรับรถแบบเอสยูวีดีที่สุดรุ่นหนึ่งของมิชลิน
เครื่องยนต์ตัวนี้มีห้องข้อเหวี่ยงทำจากแมกนีเซียมและอลูมิเนียม ทำให้น้ำหนักเครื่องเบาเพียง 165 กิโลกรัม มีผลให้ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 8.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยทดสอบตามมาตรฐาน EU ทำได้ในระดับ 9.9 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร
รู้จัก xDrive
เอ็กซ์ 3 ได้รับการติดตั้งระบบ xDrive ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตลอดเวลาของบีเอ็มดับเบิลยู โดยจะทำหน้าที่กระจายกำลังไปยังล้อหน้าและหลัง
ในสภาวะการขับขี่ตามปกติ กำลังของเครื่องยนต์จะถูกแบ่งไปยังล้อคู่หน้าและหลังในอัตราส่วน 40 : 60 และจะตอบสนองทำงานในทันทีที่พื้นผิวถนนหรือสภาพการขับขี่เปลี่ยนไป ด้วยการปรับอัตราการกระจายกำลังแปรผันตามแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นบนพื้นผิวถนน
จุดเด่นอีกอย่างของระบบ xDrive คือความสามารถในการแก้อาการหน้าดื้อในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงโดยที่แผ่นคลัทช์จะจับตัวกันแน่นขึ้นเพื่อส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้า เพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ให้อยู่ในระดับสูงสุด และระบบล็อคเฟืองท้ายจะช่วยหยุดอาการหมุนฟรีของล้อ
DSC และฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้น
ระบบ DSC (Dynamic Stability Control) ใน เอ็กซ์ 3 นอกจากทำหน้าที่ช่วยในด้านการยึดเกาะถนนและสร้างเสถียรภาพในการขับขี่ตามมาตรฐานแล้ว ระบบยังสามารถเพิ่มแรงดันเบรคเมื่อระบบห้ามล้อเริ่มมีอาการเฟดจากอุณหภูมิของเบรคอยู่ในระดับสูงมาก รวมไปถึงการเพิ่มแรงดันเบรคเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่ต้องหยุดรถแบบกะทันหัน ระบบ Dry Braking จะทำงานอัตโนมัติในทันทีที่ผู้ขับเปิดสวิทช์ให้ปัดน้ำฝนหน้าทำงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหยุดรถบนพื้นเปียก
เอ็กซ์ 3 ไม่ได้มีเพียงแค่ DSC อย่างเดียวแต่ยังมี ระบบป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-Lock Brake System), ระบบควบคุมเสถียรภาพในการขับขี่โดยอัตโนมัติ ASC (Automatic Stability Control), ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะขับรถลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control), ระบบควบคุมการเบรคในขณะเข้าโค้ง CBC (Cornering Brake Control) รวมถึงแอร์แบ็คคู่หน้าและด้านข้างป้องกันศรีษะทุกตำแหน่ง
DTC ครั้งแรกใน เอ็กซ์ โมเดล
ระบบ DTC (Dynamic Traction Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีซึ่งจะรวมการทำงานเข้ากับระบบ DSC รุ่นใหม่ ช่วยควบคุมรถที่มีอาการลื่นไถลในขณะเข้าโค้งได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรถโมเดลตระกูล เอ็กซ์ ที่ได้รับการติดตั้งระบบนี้
ขับสนุก นุ่มนวล
เส้นทางหลักของการเดินทางเราใช้คู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี วิ่งด้วยความเร็วประมาณ 80-100 กม./ชม. โดยรวมเอ็กซ์3 ขับสนุกมาก ฟิลลิ่งคันเร่งและเบรกคงสไตล์คุ้นเคยของบีเอ็มฯ อัตราเร่งเรียกเมื่อไหร่ก็มาเมื่อนั้น พละกำลัง 218 แรงม้าเหลือเฟือ เกาะถนนทุกการเข้าโค้ง
การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปด้วยความนุ่มนวลทุกจังหวะ เสียงแตร ประทับใจผู้เขียนสุดๆ ให้ความรู้สึกว่าเราเป็นรถผู้ดี การเก็บเสียงในห้องโดยสารเอ็กซ์ 3 ทำได้ดี ต้องขอบคุณการประกอบมาตรฐานสูงของไทยและยางมิชลินที่วิ่งเงียบ
อีกจุดอยากเอ่ยถึงคือ การนั่งเบาะหลัง แม้จะนุ่มนวลแต่นั่งไม่สบายสมราคาค่าตัว เนื่องจากยังรู้สึกค่อนข้างเด้งอยู่บ้าง ขณะที่การเป็นคนขับไม่รู้สึกว่าเด้งแต่อย่างใด ความเร็วสูงสุดเราลองได้ถึง 180 กม./ชม. รถยังนิ่งๆ น่าจะเป็นผลมาจากการออกแบบตัวถังและระบบช่วงล่างแบบอิสระ เสียงลมเริ่มดังรบกวนเมื่อความเร็วแตะ 160 กม./ชม.
สุดท้ายเมื่อดูจากระบบต่างๆ ที่บีเอ็มฯ ใส่ให้ไว้ในเอ็กซ์3 ตัวนี้แล้ว เราต้องบอกว่า “สุดยอดไฮเทค” มีครบถ้วนทั้งเสริมสมรรถนะและความปลอดภัยเต็มพิกัด รวมถึงภายในที่หรูหรา จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำไมราคาค่าตัวกระโดดไปถึง 3.8 ล้านบาท คุ้มค่าแก่การเป็นเจ้าของหรือไม่ คุณตัดสินใจเอาเอง
